โดย ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์
การทำความดีนั้นเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างถวิลหา แต่เมื่อโอกาสและความพร้อมมาบรรจบกัน แน่นอนว่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” ผู้กุมบังเหียนใหญ่แห่ง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ขอปล่อยผ่านไป
ด้วยฐานะหน้าที่การงานจัดอยู่ในระดับนักธุรกิจการเมืองแถวหน้าเมืองไทย เขาสามารถแสวงหาสิ่งของมีมูลค่ามาประดับบารมี และ “เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว” TBM 930 ภายใต้ทะเบียนไทย HS -SST เป็นทรัพย์สินอันมีค่าของ “เสี่ยหนู” ซื้อหามาฝึกบินตามใจรัก
ทว่าเครื่องบินมูลค่าหลายร้อยล้านมิได้เป็นเครื่องบ่งบอกความมีฐานะเท่านั้น หากแต่ได้ถูกนำมาทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวมโดยไม่จำเป็นต้องบอกใคร ประหนึ่งการ “ปิดทองหลังพระ”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อนุทินขับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเดินทางไปสร้างสะพานบุญครั้งใหญ่ภายใต้จิตสำนึกส่วนรวม ด้วยการนำ “หัวใจ” และอวัยวะ มาปลูกถ่ายต่อชีวิตให้กับหลายชีวิตที่รอคอย ณ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
“ผมไม่ใช่จิตอาสา มันเป็นจิตสำนึก เหมือนผมขับรถแล้วเห็นคนถูกรถชน ก็ต้องหยุดเพื่อช่วยเหลือ และเรื่องนี้ผมไม่เอามาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะผมแฮปปี้” เสียงยืนยันหนักแน่นพร้อมรอยยิ้ม
จุดเริ่มหน้าที่กัปตันเครื่องบินเพื่อนำพาหัวใจมายืดชีวิตผู้คน มาจากที่เขารู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนายแพทย์ผ่าตัดหัวใจผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน วันหนึ่งหมอคนดังกล่าวเขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีเหตุต้องการเปลี่ยนหัวใจและทราบว่าอนุทินมีเครื่องบินส่วนตัว จึงได้สอบถามว่ายินดีไปรับหัวใจหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวตอบตกลงและตัดสินใจไปทันที
“ในแต่ละวันมีคนต้องการหัวใจค่อนข้างเยอะ แต่ต้องได้จากคนเสียชีวิตกะทันหันและแข็งแรง ตัวอย่างเช่น บางกรณีเกิดเหตุต่างจังหวัด ไม่มีเที่ยวบิน แต่คนไข้ที่รอหัวใจอยู่ได้ไม่ถึง 6 โมงเช้า และมีเวลาไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนที่เป็นหมอจะโทรหาผม ผมก็บินไปให้”
“หน้าที่สำคัญของผม คือ ประจำรอบนเครื่อง เมื่อหมอได้หัวใจมาแล้ว ผมสตาร์ทเครื่องออกทันที ถ้าผมขับกลับมาไม่ทัน คนไข้มีสิทธิเสียชีวิต ซึ่งหัวใจมีเวลา 4 ชั่วโมงเมื่อออกจากผู้เสียชีวิต และทุกนาทีเซลล์จะตายไปเรื่อยๆ ดังนั้น ผมต้องไปอยู่ตรงนั้น”
ภารกิจเหินฟ้ากู้หัวใจทำมานานกว่า 2 ปี บินมาแล้วตั้งแต่เหนือ อีสาน ใต้ เขาช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไปได้ประมาณ 20 ราย ขณะเดียวกัน การเดินทางแต่ละครั้งมิใช่ได้เฉพาะแค่หัวใจ หากแต่ยังมีอวัยวะอื่นๆ มาช่วยผู้คนด้วย เช่น ไต ปอด ดวงตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะมีการพูดคุยกับทางญาติผู้เสียชีวิตก่อนมีความประสงค์บริจาคอวัยวะเหล่านั้นหรือไม่
แน่นอนภารกิจพิเศษแบบนี้ ไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ ไหนต้องแข่งกับเวลา ไหนต้องเสี่ยงกับสภาพดินฟ้าอากาศ ซึ่งอนุทินก็ผ่านประสบการณ์ความเสี่ยงเหล่านั้น
“หากถามว่าเสี่ยงและกลัวกับภารกิจแบบนี้ไหม คำตอบ คือ กลัว แต่ต้องเชื่อว่ามันปลอดภัย” เสี่ยหนู บอก
“เพราะเครื่องบินถ้าเท้าพ้นจากพื้นเมื่อไหร่เกิดความเสี่ยงหมด เมื่อทำไปได้ 2 ครั้ง ก็เกิดความชิน และคิดว่า เท่เป็นบ้า ไม่มีใครทำได้อย่างเรา จะไปกลัวทำไม ทำแบบนี้จะซวยได้ไง เอาชีวิตมาต่อชีวิต ต้องบอกตัวเองแบบนี้ เพราะบางรายต้องออกจากบ้านไปตอนตีหนึ่ง ตีสอง หรือห้าทุ่ม ออกไปตอนดึกๆ แล้วเอาเครื่องบินขึ้น มันก็ไม่มีอะไร”
สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้น เจ้าตัว บอกว่า ส่วนตัวเป็นคนออกทั้งหมดเพราะขับเอง เครื่องตัวเอง ไม่ต้องจ้างนักบินหรือเช่าเครื่องบินใคร คิดอย่างเดียว คือ น้ำมัน ซึ่งน้ำมันไปกลับ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ละภารกิจ ซึ่งเป็นต้นทุนส่วนตัว เหมือนมีรถ ขับรถไปบริการเพื่อน ดังนั้น จึงไม่มีปัญหา
ณ ปัจจุบัน เขาน่าจะเป็นเพียงคนเดียวในประเทศที่ทำภารกิจดังกล่าว แม้จะมีคนขับเครื่องบินได้จำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นนักบินสมัครเล่น หรือมีเครื่องบินแต่ความเร็วเครื่องไม่ถึง เรดาร์บินกลางคืนไม่มี ทว่า เครื่องบินส่วนตัวมีระบบการเดินอากาศเทียบเท่ากับเครื่องบินพาณิชย์ที่ใช้โดยสาร
“ผมลงทุนซื้อเครื่องบิน เพราะมันเร็ว ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อะไรเลย แต่เครื่องบินผมทำความเร็วได้ 600 กม./ชม. มันเข้าสเปกพอดี และเครื่องที่มีถ้าเอากรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลาง มันตีรัศมีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ยกเว้นที่ไกลสุด คือ นราธิวาส 1.30 ชั่วโมง ฉะนั้น เครื่องบินผมกับภารกิจมันลงตัว ซึ่งอธิบายยากแต่มันสนุก”
อนุทิน บอกด้วยว่า การทำภารกิจแบบนี้จะต้องแจ้งกับทางศูนย์ควบคุมการบิน เพื่อบอกว่ามีภารกิจในการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะเร่งด่วน และขออนุญาตใช้เส้นทางบินตรง ซึ่งปกติต้องบินตามเส้นทางที่กำหนด เพราะถือเป็นเส้นทางจราจรทางอากาศ โดยการบินบางครั้งก็เจออุปสรรคบ้าง แต่ส่วนตัวมีเที่ยวบินสูง 2,000-3,000 ชั่วโมง และทำตามเช็กลิสต์ ก็แก้สถานการณ์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
“ผมคิดเสมอเวลาออกไปทำภารกิจ ถ้าเราถอดใจ คนที่รอความหวังจะเป็นอย่างไร หรือไม่ก็ต้องเสียชีวิต ฉะนั้นเราต้องพยายามหาทางออกนำหัวใจมาให้เขาให้ได้”
นั่นเป็นคำบอกเล่าของนักบินหัวใจใหญ่ที่ชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล”
"ภท." ย้ำไม่ขอเป็นตาอยู่การเมือง
วันที่ 07 ธ.ค. 2561
แรงบันดาลใจ กว่าจะมาเป็น แอร์นสต์ ลุดวิก คีร์ชเนอร์
วันที่ 25 พ.ย. 2561
อนุทินชี้ไม่อยากให้อำนาจนอกรธน.กลับมา ขอให้เลือกภูมิใจไทยอันดับ1
วันที่ 12 พ.ย. 2561
"อนุทิน"ย้ำรัฐประหารไม่เกิดถ้าเล่นตามกติกา
วันที่ 22 ต.ค. 2561
"ภูมิใจไทย"ลั่นขอเป็นผู้เลือก ปัดเป็นพรรคอะไหล่
วันที่ 12 ต.ค. 2561