posttoday

รชต ลีลาประชากุล สุนทรีย์ในการฟังเครื่องเสียงระดับโลก

18 พฤศจิกายน 2560

อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมมาตลอดชีวิตการทำงาน สำหรับ รชต ลีลาประชากุล

โดย มัลลิกา นามสง่า ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข

 อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมมาตลอดชีวิตการทำงาน สำหรับ รชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ ผู้ผลิตท่อสเตนเลสรายใหญ่ของเมืองไทย

 หากในมุมหนึ่งของชีวิต นอกจากเป็นนักธุรกิจผู้ฝ่าคลื่นฟองสบู่แตกมาแล้ว การชื่นชอบในเครื่องเสียง สรรหาเครื่องเสียงที่ให้เสียงดี กระทั่งการตกแต่งประกอบเองก็มี นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งในชีวิตที่เติบโตมาพร้อมกัน

 หลายคนอาจจะมองเห็นความสำเร็จในวันนี้ และชื่นชม แต่กว่าจะกลับมาผงาดในเส้นทางนี้ได้อีกครั้ง เขาเคยมีหนี้สิ้นถึง 8,000 ล้านบาท

 ความสุนทรีย์เดียวในชีวิตที่เขาจำความได้ตั้งแต่ 10 ขวบ คือการฟังเพลง ดูหนัง ผ่านเครื่องเสียงที่เขาสรรหามา ทว่าเสียงนั้นพลอยเงียบดับไปด้วย

รชต ลีลาประชากุล สุนทรีย์ในการฟังเครื่องเสียงระดับโลก

 “เป็นธุรกิจของตระกูล ผมรับทอดต่อมา 40 ปีแล้ว ทำอย่างเดียว ผ่านวิกฤตตอนปี 2540 เราไม่มีฟูกรองรับ จากเป็นหนี้ 2,000-3,000 ล้านบาท ผ่านคืนเดียวกลายเป็นหนี้ 8,000 ล้านบาท”

 ในช่วงที่ธุรกิจล้มครืน รชต ต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ วันหยุดไม่มี กลับบ้านมายังคิดเรื่องงานต่อด้วยซ้ำ แม้ว่าช่วงแรกๆ ที่เจอวิกฤตจะหดหู่ ยืนขายังสั่น แต่เพราะมองกลับไป นี่คือธุรกิจของตระกูลจะปล่อยให้หลุดไปไม่ได้ มองไปข้างๆ ก็มีลูกน้องที่อยู่ด้วยกันมานาน พวกเขายังต้องอยู่ต้องกิน 

 “ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ อยากฆ่าตัวตาย วิชาชีพมันอยู่กับเรา ใครเอาไปไม่ได้หรอก วันนั้นถ้าผมเดินออกจากบริษัทแล้วผมไปสร้างใหม่ง่ายกว่า แต่ธุรกิจนี้มันเป็นของรุ่นพ่อ

 เราคนจีนเกิดในไทย พ่อแม่สอนตลอดว่า คนที่ให้เรากู้เงินเป็นผู้มีพระคุณ เราจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงเขาด้วย ต้องชดใช้เขาเท่าที่เราสามารถทำได้

 ตอนนั้นต่อรองกับแบงก์ แบงก์ยึดบริษัทเราไปแล้ว และจ้างผมมาบริหารบริษัท พวกสถาบันการเงินเข้าใจดี ไม่ใช่เราเจ๊งเพราะโกง เราพังเพราะค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลง หนี้ก็เพิ่ม ตอนนั้นนั่งเซ็ง ใครจะไปรับได้เป็นเศรษฐีอยู่ดีๆ เป็นยาจก 

 สภาพสังคมตอนนั้นหดหู่มาก ตอนนั้นเซ็งๆ จะไปเที่ยวฮ่องกง แต่มีคนชวนไปอินเดีย เรายังถามจะไปทำไม เขาบอกไปไหว้พระพุทธเจ้า เราก็ไปไม่คิดอะไร แต่พอไปได้อะไรกลับมาเยอะ ได้ความสงบ มีกำลังใจ โลกนี้ก็เกิดแก่เจ็บตาย เกิดขึ้นดับไป

รชต ลีลาประชากุล สุนทรีย์ในการฟังเครื่องเสียงระดับโลก

 ทรัพย์สินเยอะแยะหมดไป เราก็เริ่มใหม่ได้ ถ้าเรามีโอกาส ใช้เวลาสิบกว่าปีกว่าจะปรับโครงสร้าง บริษัทถึงกลับมาเป็นของเรา ตอนนี้ผมถือหุ้นอยู่ 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์”

 เมื่อมรสุมเริ่มสงบ ความสุนทรีย์ก็หวนสู่ชีวิตอีกครั้ง

 “พอเราได้บริษัทคืน จิตใจเราดีขึ้นมาก แต่ตอนนี้อายุเยอะแล้ว 59 ช่วงวัยหนุ่มฝ่าฟันมาเยอะ วันนี้ไม่กลัวอะไร ตอนนี้ยังทำงานอยู่แต่ความเครียดน้อยลง”

 รชต เล่าย้อนถึงความรักในการเล่นเครื่องเสียง

 “ในบรรดาพี่น้อง 8 คน ผมฟังคนเดียว ตั้งแต่ 10 ขวบพ่อผมซื้อเครื่องเสียงตัวแรกเป็นยี่ห้อ Marantz ให้เล่น

 พออายุ 12 ได้เงิน 300 บาท กำเงินแน่นไปบ้านหม้อ เลือกลำโพง สมัยก่อนดีไอวาย ผมซื้อฟิลิปส์ 12 นิ้ว ดีใจมากนั่งรอเขาประกอบตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงสามทุ่ม

 วัยเด็กผมป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านหม้อ ซื้อดอกลำโพง ครอสโอเวอร์ มาต่อตู้เอง ไม่ได้มีความรู้อะไรหรอก ครูพักลักจำ ซื้อทวิตเตอร์มาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สนุกดี

 พอมีเงิน โตมาก็มี Standard Sansui เราก็เล่นแบรนด์ตลาดที่เขาเล่นกันนั่นล่ะ ค่อยข้ามมายุคไฮเอนด์ Mark Levison”

รชต ลีลาประชากุล สุนทรีย์ในการฟังเครื่องเสียงระดับโลก

 ปัจจุบัน รชต ได้แปลงความรักในเครื่องเสียงมาเป็นธุรกิจเล็กๆ หากแต่คัดสรรเครื่องเสียงระดับมหภาค ในชื่อ “The Museum” ที่ทีซีกรีน อาคาร D ถนนริมคลองสามเสน เป็นโชว์รูมที่มีห้องฟังเครื่องเสียงระดับหูทองคำเลยเทียว

 “ผมเชื่อว่าในวงการเครื่องเสียงเอาทั่วโลกเลย ไม่มีใครไม่รู้จัก มาร์ค เลวินสัน เจ้าของชุดเครื่องเสียงระดับ High Performance Audio & Home Theater  ซึ่งตอนหลัง มาร์ค เลวินสัน ได้กลับมาทำเครื่องเสียง ใช้ชื่อแบรนด์ Daniel Hert S.A. เราได้นำมาจัดจำหน่าย

  เครื่องเสียงดี ดียังไง ดีแค่ไหน ความจริงคำว่าไม่ดี ไม่มีหรอก ถูกใจเราหรือไม่ ส่วนเล่นยังไงก็อีกเรื่อง ผมชอบของผมแบบนี้ ผมเล่นแบบนี้ บางทีก็ชวนเพื่อนมาฟัง บอกเขาด้วยว่าติชมได้ ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าไม่ดี บอกด้วยว่าไม่ดีตรงไหน เราจะได้นำมาปรับปรุง ส่วนใหญ่น้อยครับ ที่จะติ ก็มีแต่พวกที่เอาของมาส่งนั่นแหละ ที่เมนต์โน่นนี่นั่น เราก็จดไว้

 ถ้าจะเล่นเครื่องเสียงไฮเอนด์ ยังไงก็ต้องมีห้องฟังที่ดี เพราะส่งผลต่อคุณภาพห้องเสียงโดยตรง กล้าเล่นเครื่องเสียงแพงๆ อย่าขี้เหนียวเรื่องห้อง ต้องลงทุนกับห้องดีๆ มิฉะนั้นจะเสียดายมาก

 เมื่อมีห้องแล้ว ต้องเลือกลำโพงที่เราชอบ แต่ต้องให้เหมาะกับห้อง แล้วค่อยหาเพาเวอร์มาขับมัน แอมป์ใหญ่ไว้หน่อยดีกว่าเล็กไป เพราะจะไม่มีแรง ส่วนคำถามว่าจะเลือกอะไรก่อน ระหว่างแอมป์หรือลำโพง และฟรอนต์เอนด์ ลำโพงต้องมาก่อน เพราะเราฟังเสียงจากลำโพง เราต้องชอบเสียงลำโพงก่อน ลำโพงคือปาก ถ้าไม่ชอบนักร้องเสียแล้วจะเพราะได้ยังไง”

 รชต ทิ้งท้ายว่า

 “ตอนวิกฤตบริษัทผมหยุดฟังไป เพิ่งกลับมาฟังเมื่อ 10 ปีก่อน ชีวิตมีความหวังอีกครั้ง และการได้ฟังเครื่องเสียงดีๆ มันทำให้เราดื่มด่ำ อิ่มใจ เป็นความสุขที่ผมอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก”