posttoday

พ่อก็คือ พ่อ เกรกอรี พอร์เตอร์

08 ตุลาคม 2560

หนึ่งในศิลปินแจ๊ซที่ประสบความสำเร็จของยุคนี้ เกรกอรี พอร์เตอร์ กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มใหม่ Nat King Cole & Me

โดย เพ็ญแข สร้อยทอง

หนึ่งในศิลปินแจ๊ซที่ประสบความสำเร็จของยุคนี้ เกรกอรี พอร์เตอร์ กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มใหม่ Nat King Cole & Me

หลังจากมี Liquid Spirit (2013)  และ Take Me to the Alley (2016) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลแกรมมี่ เกรกอรี ภูมิใจนำเสนออัลบั้ม Nat King Cole & Me งานที่มีความหมายสำหรับเขา เมื่อได้กลับคืนสู่รากเหง้าของดนตรีซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งนั่นก็คือ บทเพลงของ แน็ท คิง โคล ซึ่งซึมลึกเข้าสู่ตัวตนของเขาตั้งแต่อายุได้ประมาณ 5-6 ขวบ

พ่อก็คือ พ่อ  เกรกอรี พอร์เตอร์

สำหรับ เกรกอรี พอร์เตอร์ แล้ว แน็ท คิงโคล ไม่ได้เป็นเฉพาะฮีโร่ทางด้านดนตรี แต่ยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อชีวิตของเขาด้วย สำหรับ เกรกอรี แล้ว แน็ท นั้นหาใครเทียบไม่ได้ “เขาได้ทิ้งเพลงที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ เป็นสิ่งที่สวยงาม น่าฟัง เป็นเสียงที่แปลกใหม่ มีสไตล์ และสุดยอดในยุคนั้น” บทเพลงของ แน็ท ที่ไม่ต่างกับเป็นบทเรียนของชีวิต เป็นคำพูดซึ่งเต็มไปด้วยภูมิปัญญา และคำแนะนำจากพ่อที่เขาต้องการ

เกรกอรี พอร์เตอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงชาวอเมริกันวัย 45 ปี บันทึกเสียงอัลบั้ม Nat King Cole & Me ที่ แอร์สตูดิโอ ในกรุงลอนดอน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบันทึกเสียงอัลบั้มพร้อมกับวงออร์เคสตร้า 70 ชิ้น งานชุดนี้ประกอบด้วย 12 บทเพลง ซึ่งล้วนเป็นเพลงโปรดของเขา ไม่ว่าจะ Smile, L-O-V-E และ Nature Boy รวมไปถึงเพลง When Love Was King ของ เกรกอรี พอร์เตอร์ เอง ซึ่งเคยบรรจุอยู่ในอัลบั้มปี 2013- Liquid Spirit ซึ่งเป็นเพลงที่ได้แรงบันดาลใจมา แน็ท คิง โคล

อัลบั้ม Nat King Cole & Me เปิดตัวอย่างอลังการที่กรุงลอนดอนต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติ 150 คน โดย เกรกอรี พอร์เตอร์ แสดงร่วมกับนักดนตรีวง ลอนดอน ซิมโฟนี ออร์เคสตร้า-แอลเอสโอ เซนต์ลุคส์ โดยมี วินซ์ เมนโดซา คอนดักเตอร์ นักประพันธ์และเรียบเรียงดนตรี เจ้าของ 6 รางวัลแกรมมี่ทำหน้าที่ผู้นำวง

พ่อก็คือ พ่อ  เกรกอรี พอร์เตอร์

ถึงแม้จะนำเพลงของ แน็ท คิง โคล มาร้อง แทนที่จะเลียนแบบผู้มาก่อน แต่ว่า เกรกอรี พอร์เตอร์ ก็ได้ประทับตราความเป็นตัวของตัวเองลงไปอย่างแจ่มชัด เพลงที่เลือกมาตีความใหม่มีทั้งเพลงดังที่คุ้นเคย กับเพลงของ แน็ท ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนัก

เมื่อเปรียบเทียบกับอัลบั้มก่อนหน้าของ เกรกอรี พอร์เตอร์ เอง ก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ที่เด่นชัดคือ ในภาคดนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ดนตรีของเขาจะมีเปียโนและเครื่องเป่าโดดเด่น แต่ครั้งนี้เขามากับวงออร์เคสตร้าเต็มวง ให้ซาวน์ดที่เหมือนกับเพลงประกอบภาพยนตร์ในกลิ่นอายเก่าๆ

ถึงจะเป็นผลงานทริบิวต์ให้ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลต่อชีวิต แต่ เกรกอรี ก็ได้สะท้อนแสดงให้เห็นถึงความต่าง โดยเฉพาะโทนเสียง และวิธีร้อง ที่มีคล้ายๆ กันคือ ความไม่ธรรมดา ทั้งสองต่างร้องเพลงเหมือนออกมาง่ายๆ เหมือนกับเราๆ ท่านๆ หายใจ

พ่อก็คือ พ่อ  เกรกอรี พอร์เตอร์

เสียงร้องอันทรงพลัง อบอุ่น และชวนฟังของ เกรกอรี พอร์เตอร์ เล่าเรื่องราวบรรยายเพลงอย่างน่าหลงใหล ลึกซึ้งถึงความรู้สึกลึกๆ สุดใจ

สำหรับคนที่เป็นแฟนพันธ์ุแท้ของ แน็ท คิง โคล ก็ลองเปิดใจมารับฟังการตีความใหม่ๆ ในเพลงของตำนานผู้ล่วงลับดู ขณะที่แฟนของ เกรกอรี พอร์เตอร์ ก็จะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งด้านของเขาผู้นี้ ซึ่งไม่น่าจะทำให้ผิดหวัง

Nat King Cole & Me น่าจะเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มยอดนิยมสำหรับช่วงคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง