posttoday

4 เคล็ดลับเอาชนะความขี้ลืม

04 ตุลาคม 2560

การทานอาหารที่มีประโยชน์ และบริหารสมองเป็นประจำ มีส่วนทำให้ความจำดีขึ้นได้

การทานอาหารที่มีประโยชน์ และบริหารสมองเป็นประจำ มีส่วนทำให้ความจำดีขึ้นได้

เรื่องความจำเป็นเลิศน่าจะเป็นความสามารถที่ใครๆ ก็อยากจะมีกัน แต่นานวันเข้าทั้งอายุที่เพิ่มขึ้น งานก็เข้ามาไม่หยุดหย่อน และปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า อาจทำให้หลายคนรับไม่ไหวจนมีบางสิ่งตกหล่น หลงๆ ลืมๆ กันอยู่บ้าง แต่อาการเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นบริหารสมองเป็นประจำ

4 เคล็ดลับเอาชนะความขี้ลืม

1. ทานอาหารที่มีประโยชน์

การทานผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลเบอร์รี ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลออาการความจำเสื่อมได้ รวมไปถึงสมุนไพรบางชนิดอย่าง โสม ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง และใบแปะก๊วย ที่ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ส่งผลให้ความจำดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน โดยสามารถอาหารเหล่านี้เข้าไปในมื้ออาหารให้มากขึ้น หรือจะทานเป็นอาหารเสริม ที่เดี๋ยวนี้มีขายในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูลก็ได้เช่นกัน

4 เคล็ดลับเอาชนะความขี้ลืม

2. ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง

เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังไปลดประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง ทำให้จดจำสิ่งต่างๆ ไม่ค่อยได้ เหมือนกับเวลาเราเมาแล้วจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้นั่นเอง นอกจากนั้นยังเป็นตัวการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง แต่บางเวลาเราอาจหลีกเลี่ยงการดื่มแอกอฮอล์เพื่อเข้าสังคมไม่ได้ ดังนั้นให้ลองลดปริมาณลง หรือดื่มแค่เฉพาะเวลาจำเป็นและโอกาสพิเศษเท่านั้น แล้วสมองจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

4 เคล็ดลับเอาชนะความขี้ลืม

3. ทำกิจกรรมที่ช่วยบริหารสมอง

สมองของเราก็เหมือนกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ที่ถ้าไม่ได้ใช้งานหรือบริการเสียบ้าง ก็จะเสื่อมไปตามกาลเวลา ดังนั้นควรหากิจกรรมเพื่อบริหารสมองอยู่เสมอ อย่างการเล่นเกมที่ใช้ความคิด เช่น หมากรุก ครอสเวิร์ด ซูโดกุ หรือการนั่งสมาธิ ฝึกจิตให้คิดช้าลง ทบทวนสิ่งต่างๆ ด้วยความสงบนิ่ง หากทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำ จะมีส่วนช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น ส่งผลให้ขี้ลืมน้อยลงแน่นอน

4 เคล็ดลับเอาชนะความขี้ลืม

4. หมั่นจดบันทึก

หากเรื่องราวในหัวมันเยอะเกินไปจนล้น ก็ต้องมีบ้างที่เราจะหลงลืมบางเรื่องไป การจดบันทึกย้ายข้อมูลจากสมองไปเก็บไว้ที่อื่นบ้าง จะช่วยทุ่นแรงเรามากขึ้น ช่วยให้สมองไม่ทำงานหนักจนเกินไป และยังส่งผลให้เราไม่พลาดงานสำคัญต่างๆ อีกด้วย ลองหาสมุดโน้ตสักเล่ม หรือหากใครสะดวกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากกว่า ก็สามารถบันทึกเรื่องต่างๆ ลงบนสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่ทุกวันได้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้เขาก็มีแอปพลิเคชั่นเสริมที่ออกมาอำนวยความสะดวกให้เรามากมาย