posttoday

ทาน่า กรีน เป้าหมายชัดเจนเพื่อตัวเอง

05 กันยายน 2560

การปลดล็อกคนอื่นและตัวเอง ทำให้เธอมีความมั่นใจขึ้น

ในวัย 58 ปี ทาน่า กรีน ทำหน้าที่เป็นเจ้าของกิจการจัดหาพนักงานประจำสำนักงาน กรรมกร และคนขับรถบรรทุกในสหรัฐ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เธอก่อตั้งมันมาด้วยมือของเธอเองเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว

กรีน เผยว่า ธุรกิจนี้เป็นความตั้งใจยิงปืนนัดเดียวให้ได้นกหลายตัว ตัวแรกคือรายได้เลี้ยงตัว อีกตัวช่วยให้คนอื่นมีอาชีพ มีโอกาสใหม่ๆ ในชีวิต เธอเชื่อในเรื่องของโอกาส เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตเธอได้ให้โอกาสตัวเองมีชีวิตใหม่ ที่ช่วยให้เธอมีวันนี้ได้

ย้อนกลับไปเมื่ออายุได้ 15 ปี ในวัยที่ยังอยู่ในวัยสดใส กรีน พลาดท่าตั้งครรภ์ลูกคนแรกกับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ในเวลานั้น ครอบครัวเลยจัดแจงให้เธอและเขาแต่งงานอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องตามครรลอง

อย่างไรก็ดี ชีวิตจริงเริ่มต้นเมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เธอและ แลร์รี่ ผู้เป็นสามีและพ่อของลูกมีความไม่เข้ากันหลายอย่าง เขายังมักใช้กำลังทำร้ายเธอ เพราะระแวงว่าเธอจะแอบคบหาชายอื่น ฟางเส้นสุดท้ายคือเธอถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกายระหว่างทางไปบ้านพ่อและแม่ของเธอ ทั้งที่ลูกชายยังอยู่ในอ้อมอก จากจุดนั้นเธอจึงตัดสินใจว่าต้องหย่าขาดจากเขา และเลือกเป็นหม้ายลูกติดทั้งที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี

สภาวะกับภาระหน้าที่ที่ต้องแบกรับ ทำให้ กรีน รู้สึกแย่ แต่เธอบอกว่าไม่เคยหมดหวัง เธอนำกระดาษและปากกาขึ้นมาร่างเป้าหมายในชีวิตของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนได้ทั้งหมด 4 ข้อ หนึ่ง เรียนหนังสือให้จบ สอง มีบ้านเป็นของตัวเองก่อนอายุ 25 ปี สาม แต่งงานกับคนรักที่เยี่ยมยอด (ซึ่งเธอใช้คำว่าอัศวิน) และสี่ เป็นเจ้าของธุรกิจก่อนอายุ 30 ปี ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เธออยากทำเพื่อตัวเองจริงๆ “ฉันอยากจะให้อะไรกับตัวเองมากกว่านี้ และทางเดียวที่ฉันจะไต่ขึ้นไปถึงมันได้ คือต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยเอง”

หลายปีต่อมา เธอเรียนจบวุฒิการศึกษาด้านเลขานุการจากวิทยาลัยคอมมอนเวลธ์ ในรัฐเวอร์จิเนีย บ้านเกิดของตัวเอง และทำงานเป็นผู้ช่วยผู้บริหารเครือโรงแรมท้องถิ่น และเอเยนซี่โฆษณา ทางสถาบันศึกษาซึ่งติดต่อกับเธออย่างต่อเนื่อง เริ่มสนใจในทักษะการทำงานที่ยอดเยี่ยมของเธอ จึงทาบทามให้ลองทำงานให้กับทางวิทยาลัย เป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผู้คนให้เข้ามาเรียนกับสถาบัน

แรกเริ่ม กรีน เข้าใจว่า ผู้สนใจเรียนจะเป็นคนที่มีความพร้อมด้านครอบครัวหรือการเงิน แต่เมื่อทำงานไปเรื่อยๆ เธอพบว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองหรือต้องการที่จะมีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น หน้าที่ของเธอหลักๆ จึงเป็นการเรียกความมั่นใจของคนกลุ่มนี้กลับคืนมา จนกลับกลายเป็นว่า กรีน พบว่าตัวเองมีความสามารถในการรับฟัง ปลอบประโลม สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้คนไปด้วย การทำหน้าที่นี้ได้ดี ทำให้มีผู้สมัครเรียนมาก ส่งผลให้เธอกอบโกยค่าคอมมิชชั่นได้มากจนสามารถนำเงินไปวางดาวน์ทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งในบ้านเกิดตอนอายุ 22 ปี ก่อนหน้าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 3 ปี

ต่อมาไม่นาน เธอก็ได้พบกับ ไมค์ กรีน ชายคนรัก ซึ่งใช้เวลาศึกษานิสัยใจคอกันนานกระทั่งมั่นใจและแต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ ไมค์ ไม่เพียงแต่เป็นสามี แต่ยังเป็นเพื่อนคู่คิดและหุ้นส่วนธุรกิจคนแรกและคนสำคัญ โดยเมื่อแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการ ทั้งคู่ก็คิดและตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ธุรกิจจัดหาคนงาน Remedy มาเปิดในเมืองเวอร์จิน บีช พื้นที่บ้านเกิดของตัวเอง โดย กรีน ใช้ความสามารถเฟ้นหาคนที่ใช่ทำงานในตำแหน่งที่ถูกต้อง และในเวลาเดียวกันก็จะได้เรียนรู้วิชาการตลาดและการชนะใจคู่ค้า ได้ร่วมทำธุรกิจจากแฟรนไชส์ธุรกิจนี้

อย่างไรก็ดี การเป็นเจ้าของธุรกิจเองไม่ใช่เรื่องง่าย เธอและสามีฟันฝ่าอุปสรรคธุรกิจครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ได้กำไรเลยตลอด 2 ปีแรก กระทั่งเมื่อสบโอกาสที่แฟรนไชส์อีกสาขาเปิดให้เข้าซื้อ ทั้งสองจึงรีบคว้า เพราะเชื่อว่าทำเลธุรกิจดีกว่า โดยบริหารธุรกิจนี้กระทั่งหมดสัญญาในปี 2002 จึงเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Startaforce ทำองค์กรเป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์

ในช่วงเวลานี้ ธุรกิจจัดหาคนงานของ กรีน ดีขึ้นมาก โดยสามารถสร้างกำไรได้มากถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ กรีน ก็รู้สึกลึกๆ ว่าเธอมีกำแพงบางอย่างที่อยู่ในใจ เป็นเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เธอไม่มีความมั่นใจในตัวเอง จนทำให้ตัวเธอไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ไกลกว่าที่ควรจะเป็น หลังจากการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ คนรอบข้าง และทบทวนด้วยตัวเอง เธอใช้วิธีบอกเล่าชีวิตที่เคยล้มเหลว ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาให้กับคนอื่นฟัง ปรากฏว่าเรื่องราวของเธอได้รับความสนใจจนมีสื่อมวลชนจำนวนมากขอสัมภาษณ์ต่อหลังจากนั้นอีก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดประทับใจเธอเท่ากับการที่เธอทราบว่ามีเด็กสาวที่ตกอยู่ในสภาวะชีวิตคู่วิบัติ กล้าที่จะเปลี่ยนเพื่อตัวเอง

การปลดล็อกคนอื่นและตัวเอง ทำให้เธอมีความมั่นใจขึ้นมากหลังจากนั้น ทั้งในการเจรจาการค้า การต่อยอดธุรกิจแยกจัดหาคนขับรถบรรทุก Road Dog Drivers ซึ่งช่วยให้เธอรอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจได้ทันท่วงทีด้วย เพราะคู่ค้าเดิมตัดสินใจยกเลิกสัญญาเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหวตามที่เธอคาดการณ์ไว้ และล่าสุดเธอเพิ่งริเริ่มสร้างบริษัทสตาร์ทอัพ Blue Bloodhound เพื่อช่วยในการจัดหาคนขับรถบรรทุกและเจ้าของธุรกิจที่ต้องการทีมขนส่งที่ไว้ใจได้ หลังจากที่ศึกษาจนพบช่องโหว่ของการดำเนินกิจการการค้าของธุรกิจ และพบว่าพวกเขาแค่ขาดคนกลางมาจับคู่ให้ และสิ่งที่เธอทำจะทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้นมาก

แต่ด้วยอายุและวัย การสร้างธุรกิจแนวสตาร์ทอัพที่พึ่งพาการใช้เทคโนโลยีสูง เธอจึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ กรีน จึงได้ข้อคิดว่า การเข้าใจจุดแข็งของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก และต้องรู้จักหามันสมอง แขนขามาช่วยผลักดันให้ความฝันหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จ จนไม่น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้ธุรกิจทั้ง 3 แห่งของเธอจะยังคงอยู่และเติบโตได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ด้วยการบริหารของเธอเอง หลังจากที่สามีตัดสินใจเกษียณตัวเองไปก่อน

ที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของเธอที่มีความสุขในเส้นทางที่เธอได้ร่างแบบมันด้วยตัวเอง

ภาพ : ดิน่า ไลตอฟสกี้