posttoday

กิตติยา จิตรภักดี กับแม่ ฉวีวรรณ พรหมหาญ คู่แม่ลูกผูกพัน

15 เมษายน 2560

ปิดฉากไปเรียบร้อยการประกวดไทยซูเปอร์โมเดล คอนเทสต์ 2016 โดยตำแหน่งไทยซูเปอร์โมเดล

โดย...วรธาร ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

 ปิดฉากไปเรียบร้อยการประกวดไทยซูเปอร์โมเดล คอนเทสต์ 2016 โดยตำแหน่งไทยซูเปอร์โมเดลตกเป็นของสาวสวยน่ารักหุ่นดีวัย 17 ปี เจ้าของส่วนสูง 173 ซม. ใบหม่อน-กิตติยา จิตรภักดี จากกรุงเทพฯ พร้อมการันตีการเป็นนักแสดงของช่อง 7 สีไปเรียบร้อย 

 ความสำเร็จของใบหม่อน นอกจากความสามารถด้านการเดินแบบที่โดดเด่นสง่าทุกองศา บุคลิกและรูปลักษณ์ที่ใช่สำหรับความเป็นซูเปอร์โมเดลแล้ว แน่นอน ในวันนั้นเธอได้รับกำลังใจล้นหลามจากเสียงโหวตของประชาชนคนไทยที่เทคะแนนให้มาเป็นอันดับหนึ่ง

 ด้วยความสามารถ บวกรูปลักษณ์ บวกคะแนนโหวต จึงส่งให้เธอคว้าตำแหน่งไทยซูเปอร์โมเดล 2016 ไปครองเหมาะสมโดยประการทั้งปวง

 ทว่าที่ไม่พูดถึงมิได้ คือกำลังใจสำคัญจากคนในครอบครัวคุณพ่อ พี่ชาย น้องชาย และโดยเฉพาะคุณแม่ ฉวีวรรณ พรหมหาญ ที่ใบหม่อนสนิทและติดแม่มาก และเป็นคุณแม่นี่แหละที่คอยดูแลใบหม่อนตลอด ตั้งแต่ก่อนการประกวดไทยซูเปอร์โมเดลมาจนสิ้นสุุดการประกวด ปัจจุบันคุณแม่ยิ่งห่วงเพราะชีวิตต่อจากนี้ใบหม่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิง

จากใจใบหม่อน “คุณแม่คือดวงใจของหนู”

“หนูติดแม่มากค่ะ คงเพราะหนูเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวด้วยล่ะ คุณแม่ค่อนข้างห่วง ตอนหนูยังเป็นเด็กอาจไม่กังวลเท่าไร แต่พอเริ่มโตเป็นสาวก็เริ่มห่วง กลัวว่าเราจะพลาดในการดำเนินชีวิต ก่อนนี้ตอนหนูเรียน ม.4 ที่โรงเรียนย่านหนองจอก (พอขึ้น ม.5 ย้ายมาโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี) คุณแม่ไปทำงานที่ร้านอาหารของคุณน้า (น้องชายแม่) ที่ จ.ชลบุรี ท่านห่วงความปลอดภัย เพราะย่านหนองจอกนักเรียนมีเรื่องตีกันบ่อยๆ พอขึ้น ม.5 ท่านก็ย้ายหนูมาเรียนที่สวนกุหลาบซึ่งอยู่ใกล้บ้าน

 “คุณแม่พยายามปลูกฝังให้หนูและลูกทุกคนเชื่อในเรื่องของกรรม เช่น เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ปลูกฝังในเรื่องความกตัญญกตเวที ซึ่งเป็นธรรมะที่ส่งเสริมให้คนทุกคนเป็นคนดี ตอนเด็กๆ แม่จะพาลูกๆ ไปวัดบ่อย ท่านเคยบวชชีพราหมณ์ แล้วก็เคยให้หนูบวชด้วย ส่วนน้องชายก็ให้บวชเณร ซึ่งในการบวชชีพราหมณ์ครั้งนั้น หนูไม่เคยลืม เพราะหนูได้หลายอย่างจากการบวช โดยเฉพาะมันทำให้หนูรักแม่มากที่สุดจนวันนี้” ใบหม่อน เล่า

 ใบหม่อน เล่าต่อว่า ตอนบวชพระอาจารย์ที่ให้การอบรมจะเทศน์พรรณนาพระคุณของแม่ให้ฟัง ต้องบอกว่าเป็นการเทศน์ที่ลึกซึ้งมาก ชนิดที่คนฟังทุกคนอดน้ำตาไหลไม่ได้ แล้วบรรยากาศที่พระอาจารย์เล่ายิ่งเป็นใจ แบบว่าไม่เปิดโอกาสให้ใจเราไปนึกถึงเรื่องอื่นใด นอกจากเรื่องแม่และพระคุณของแม่เท่านั้น

“หลังจากวันนั้น คำว่าแม่อยู่ในใจหนูเสมอ เวลาทำอะไรหนูก็จะคิดถึงแม่ตลอด และอยากทำอะไรเพื่อแม่และครอบครัว ซึ่งการเข้ามาประกวดไทยซูเปอร์โมเดลครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่หนูต้องการทำเพื่อแม่และครอบครัว นอกเหนือจากความชอบในการเดินแบบเป็นการส่วนตัว หนูเคยคิด ถ้าสมมติได้ตำแหน่งขึ้นมาโอกาสที่จะได้ทำเพื่อครอบครัวก็มีมากขึ้น แล้วฝันก็เป็นจริง”

 ใบหม่อน เล่าต่อว่า สิ่งหนึ่งที่คุณแม่พยายามปลูกฝังก็คือการสวดมนต์ เพราะคุณแม่เชื่อว่าการสวดมนต์จะช่วยสร้างความมั่นใจและไม่ประหม่า ทั้งยังส่งเสริมให้ชีวิตประสบแต่สิ่งดีงาม

“หนูเริ่มสวดมนต์มานานพอสมควร คุณแม่นี่แหละหาหนังสือสวดมนต์ให้ เป็นแผ่นพับเล็กๆ พกไปไหนมาไหนสะดวก ในนั้นก็จะมีบทสวดต่างๆ เช่น พาหุง มหากา คาถาชินบัญชร เป็นต้น อยู่บ้านสวดประจำ เวลามาประกวดไทยซูเปอร์โมเดลก็พกใส่กระเป๋ามาด้วย ก็ทำให้หนูลดความประหม่าสร้างความมั่นใจได้ระดับหนึ่ง”

กิตติยา จิตรภักดี กับแม่ ฉวีวรรณ พรหมหาญ คู่แม่ลูกผูกพัน

แม่ฉวีวรรณบอก “ห่วงลูกคนนี้มาก”

“ถ้าถามว่าห่วงลูกคนไหนมากสุด คงเป็นเขานี่แหละ (ลูกชายคนโตเป็นทหาร คนเล็กเป็นนักบอล) เพราะแม่มองว่าเขายังเด็กอยู่ โดยเฉพาะเรื่องความคิดความอ่าน เรื่องการพูดการจา น้องพูดไม่เก่ง เช่น การพูดต่อหน้าคน ต่อหน้าสื่อ บางทีพูดห้วนๆ คำว่าคะมันหลบใน คนก็มองว่าพูดห้วนไป ยังต้องพัฒนาปรับปรุงในส่วนนี้ แต่การได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงช่อง 7 เชื่อว่าน้องน่าจะพัฒนาและยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ เพราะช่อง 7 มีการเทรนทุกอย่างในเรื่องศิลปะการแสดง การพูด การพัฒนาบุคลิกภาพอยู่แล้ว

 คุณแม่ของน้องใบหม่อนขยายความถึงลูกสาวสุดรักสุดดวงใจคนนี้ว่า สำหรับนิสัยส่วนตัว ใบหม่อนเป็นคนจิตใจดี ไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องทุกข์ใจ มีความรับผิดชอบสูง

“เรื่องการเรียนไม่ทำให้พ่อแม่ต้องกังวลเพราะเขาบริหารจัดการของเขาเองเรียบร้อย เป็นคนมีสัมมาคารวะและมีความกตัญญูู เขาจะรักพ่อแม่ รักครอบครัว ทุกวันสำคัญ เช่น วันเกิดเขา วันเกิดเรา วันเกิดพ่อ หรือวันพ่อวันแม่แห่งชาติ เขาจะต้องหาดอกมะลิพาน้องมากราบพ่อกราบแม่ตลอด

“อย่างวันแม่ปีที่ผ่านมาเขาพาน้องมากราบและล้างเท้าให้แม่ เป็นสิ่งที่เขาปฏิบัติประจำทุกปี อีกอย่างที่เขาชอบทำกับแม่บ่อยๆ คือ ชอบมาคลอเคลียหอมแก้มแม่ ไม่ว่าจะไปข้างนอกหรืออยู่ในบ้านเขาก็ทำ ถ้าถามแม่ว่าชอบไหมที่ลูกทำแบบนี้ ก็ต้องชอบอยู่แล้วเพราะมีลูกสาวคนเดียว”

 เธอเน้นย้ำว่า ทุกวันนี้รู้สึกภูมิใจที่ลูกก้าวมาอยู่จุดนี้

 “มันเหมือนฝันจริงๆ ค่ะ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะชนะเลิศตำแหน่งนี้ แต่พอได้แล้วก็ดีใจกันทั้งครอบครัวเลย อย่างไรก็ตามสำหรับน้องถือเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งเขาจะต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะ เพราะอนาคตข้างหน้ายังไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง สิ่งเดียวที่จะทำได้คือเร่งพัฒนาตัวเองให้พร้อมทุกด้าน ถ้าถามแม่ว่ากังวลไหมก็กังวล แต่ก็อยากให้กำลังใจเขาและเชื่อว่าลูกจะทำได้”