posttoday

ราช รามัญ โค้ชวิถีพุทธ ปลดล็อกความคิด

05 มีนาคม 2560

นักเขียนสายธรรมะผสมแนวจิตวิทยา และ How to มีไม่มากนักในเมืองไทย ที่นำเรื่องยาก ภาษายาก มาย่อยให้เข้าใจง่าย

โดย...วรธาร

นักเขียนสายธรรมะผสมแนวจิตวิทยา และ How to มีไม่มากนักในเมืองไทย ที่นำเรื่องยาก ภาษายาก มาย่อยให้เข้าใจง่าย อ่านง่าย และสามารถทำตามได้ ล่าสุด “ราช รามัญ” ได้นำความรู้ศาสตร์แห่งการโค้ชชิ่ง มาเขียนร่วมกับวิถีพุทธ เป็นผลงานหนังสือชื่อ “โค้ชวิถีพุทธ”

การโค้ช ในความหมายที่ทุกคนรู้จักเป็นไปในลักษณะของการเทรนเนอร์ แนะนำ แต่โค้ชในความหมายตรงนี้ไม่มีการสอน สั่ง บอก แนะนำ แต่เป็นการสนทนาแล้วทำให้ผู้ที่ได้รับการโค้ชนั้นได้รับคำตอบจากตัวเองเมื่อได้ยินคำถามจากโค้ช

ราช รามัญ อธิบายว่า ในศาสตร์การโค้ชมีอยู่ 2 ลักษณะ อย่างแรก คือ การโค้ชตัวเอง การโค้ชแบบนี้เป็นการพูดคุยกับตัวเองอย่างซื่อสัตย์ด้วยการตั้งคำถามแล้วตอบเอง เพราะเมื่อเราถึงหนทางแยกแล้ว เราไม่รู้ว่าจะเดินทางไหนต่อไป หรือเราติดล็อกทางความคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เราก็สามารถใช้ศาสตร์แห่งการโค้ชเพื่อปลดล็อกความคิดของตัวเองได้ โดยอาศัยวิธีการในการโค้ชตัวเอง

“หลักในเรื่องนี้ คือ คุยกับตัวเอง โดยเขียนคำถามลงในกระดาษแล้วหาคำตอบให้ตัวเองแล้วเขียนลงในกระดาษอีกเช่นเดียวกัน วิธีการคุยกับตัวเองแบบนี้ พระพุทธเจ้าเมื่อครั้นเป็นเจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงใช้อยู่บ่อยๆ ตอนที่อดอาหาร เมื่อได้ยินเสียงพิณสามสายก็ทำให้คิดได้ว่า สายที่หย่อนก็ดีดไม่ได้ สายที่ตึงไปก็ดีดไม่ได้ จะต้องตั้งให้พอดีๆ ชีวิตคนเราก็เช่นกัน จึงเลิกอดอาหารมารับประทานอาหารตามเดิม

แม้แต่ตอนที่นั่งใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะอยู่นั้น พระองค์หวนคิดถึงวัง คิดถึงยโสธรา คิดถึงราหุล คิดถึงพ่อ รำพึงในใจว่า จากบ้านมาหลายปีไม่เห็นจะได้รู้ ได้อะไรเสียที แต่สักพักพระองค์ดำริแล้วตอบตัวเองได้ว่า เรามาไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว ต้องไปต่อ แล้วนึกถึงสมัยนั่งอยู่ใต้ต้นหว้าในวันพิธีแรกนาขวัญ ว่านั่งสบายๆ ไม่เกร็งไม่เคร่งอะไรก็สามารถทำให้จิตโปร่งใสได้ แล้วก็ทรงอาศัยวิธีนั้นในการบำเพ็ญ

ราช รามัญ โค้ชวิถีพุทธ ปลดล็อกความคิด

ประโยชน์จากการโค้ชตัวเองมีมากมาย บางครั้งเราอาจจะติดล็อกทางความคิด ในบางเรื่องที่ลึกและลับ จนไม่อาจบอกใครได้ การโค้ชตัวเองจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริงจากการปลดล็อกความคิดนั้นออกไป”

ส่วนการโค้ชอีกแบบ คือ โค้ชผู้อื่น ผู้ที่เข้ามารับการโค้ช เรียกว่า โค้ชชี่ ส่วนตัวของเรานั้นเป็นโค้ช โดยมีหน้าที่คอยฟังในเรื่องที่เขาติดล็อกทางความคิด แล้วก็คอยตั้งคำถามและชมเขาบ้าง ตลอดทั้งสะท้อนในสิ่งที่เขาพูดออกมาให้เขาได้รู้สึกและสัมผัสได้ แต่โค้ชจะไม่สั่งสอน ไม่แนะนำว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ฟังแล้วตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อให้ผู้ที่ได้รับการโค้ชนั้นอธิบายออกมาว่าเขาติดอะไร อย่างไร ไม่ใช่ไปตั้งคำถามปลายปิดว่าใช่หรือไม่ใช่ เป็นต้น

“โค้ชวิถีพุทธ เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้คุณได้พบกับความจริงในเรื่องต่างๆ ของคุณเองที่ผ่านการกรองมาจากภาวะจิตใจมากกว่าการผ่านทางระบบความคิดเพียงอย่างเดียว อย่างที่กล่าวมาแล้วในเบื้องต้นว่าทุกสิ่งอย่างที่ได้นำมาเขียน ล้วนเป็นแนวทางที่ได้มาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า เราถึงเรียกว่าโค้ชชิ่งในรูปแบบของวิถีพุทธ

ไม่ว่าใครที่ติดล็อกทางความคิด หนังสือโค้ชวิถีพุทธ สามารถทำให้คุณได้พบแนวทางปลดล็อกทางความคิดได้ด้วย เพราะทุกสิ่งอย่างบนโลกคำตอบที่ดีที่สุดต้องออกมาจากหัวใจของคุณ ไม่ใช่ให้ใครมาชี้ มาแนะนำ มาสอน มาบอก”

ราช รามัญ ย้ำว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกคน เพราะทุกคำตอบจะออกมาจากหัวใจของเราเอง เพื่อทำให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จ