posttoday

กวิน สุวรรณตระกูล เรื่องหุ้นไม่ยากอย่างที่คิด

26 กุมภาพันธ์ 2560

โบราณว่าไว้เรื่องเงินเรื่องทองนั้นเป็นของบาดใจ เป็นของล่อตาล่อใจ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บการออมนั้นถือว่าเป็นเรื่องยาก

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ ภัทรชัย  ปรีชาพานิช

โบราณว่าไว้เรื่องเงินเรื่องทองนั้นเป็นของบาดใจ เป็นของล่อตาล่อใจ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บการออมนั้นถือว่าเป็นเรื่องยาก และถือเป็นยาขมหม้อใหญ่สำหรับใครๆ หลายคน เราจึงมักจะได้ยินหลายคนบ่นว่าลำพังแค่จะใช้เงินเดือนแต่ละเดือนให้ชนเดือนนั่นก็ยากแล้ว ส่วนเรื่องจะให้เหลือไปออมไปลงทุนนั้นฝันไปหรือเปล่า แม้แต่ตัวเรากันเองก็เถอะ จะใช้ให้รอดครบเดือนนี่ถือว่ายากลำบาก 

ก็จริงอยู่ว่าการจะให้เหลือออมเหลือเก็บนั้นลำบากแสนเข็ญ แต่ก็ใช่ว่าถ้าตั้งใจจริงจังแล้วจะทำไม่ได้ ยิ่งยากยิ่งท้าทาย ถ้าได้รับคำแนะนำชี้แนะที่ดีจากผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง ทำให้เรื่องยากๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมา ก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะ แถมยังเขียนด้วยภาษาง่ายๆ ไม่เป็นทางการ ทั้งแซ่บทั้งซ่า ฮาๆ ได้บ้าง ก็จะทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องเบาๆ อ่านสนุกได้สาระก็จะดีไม่น้อย

วันนี้เรามีนักเขียนหนุ่มวัย 30 กว่าๆ ต้าร์-กวิน สุวรรณตระกูล ที่มีหนังสือพ็อกเกตบุ๊กเรื่องการเงินและหุ้นออกมาหลายเล่ม เช่น ออมหุ้นออมความสุข รวยด้วยหุ้นใครๆ ก็ทำได้ และอีกหลายเล่ม และเขายังเป็นนักเขียนแห่งออมมันนี่ดอทคอม เป็นนักบรรยายเรื่องหุ้น มีเพจให้ความรู้เรื่องการเงินและหุ้นอีกด้วย

ทางด้านการศึกษานั้น เขาจบปริญญาตรีจากคณะบริหารการตลาดจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และปริญญาโททางด้านการบริหารจากประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นกลับมาทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยอยู่ 6-7 ปี เขาเล่าว่า แต่เดิมนั้นเขาไม่สนใจเรื่องการเงินเลย เพราะรู้สึกว่าเรื่องตัวเลขเป็นเรื่องน่าเบื่อ และที่ยอมมาทำงานธนาคารก็เพราะเป็นสาขาใกล้บ้าน ขี้เกียจเดินทาง เบื่อรถติด (หัวเราะ) ได้งานที่นี่ก็เลยมาทำ

แต่เมื่อได้มาทำงานแล้วได้คลุกคลีด้านการเงินมันก็เลยซึมซับเข้ามาโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาทำงานในส่วนของการเปิดธุรกรรมใหม่ๆ ของธนาคาร ก็เลยมีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาเรื่อย ก็เลยเริ่มสนใจอย่างจริงจัง ซึ่งไม่ได้ทำแค่เรื่องฝากเรื่องถอน “พอมาทำเรื่องพัฒนาโปรดักต์ใหม่ของแบงก์ทำให้รู้จักลูกค้าเยอะขึ้น จนทำให้เราได้รู้ว่าคนรวยเขาหาเงินกันยังไง การลงทุนเรื่อง LTF RMF เรื่องประกัน ก็ทำให้เราสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเรื่องช่องทางการออมนั้นมันมีมากมายหลายสิ่ง พี่ๆ ที่ทำงานด้วยกันก็แนะนำว่าทำไมไม่ออมหลายๆ แบบอายุน้อยๆ นี่เล่นหุ้นได้ เพราะยอมรับความเสี่ยงได้เยอะ เราก็ยุขึ้น ก็เริ่มเล่นหุ้นเลย ปรากฏว่าเจ๊งสนิท เพราะเราไม่ได้มีความรู้มากพอ เป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟไปเลย หมดไปหลายแสน เพราะดูแต่ราคาหุ้น ไม่ดูพื้นฐาน ใครบอกอะไรดีก็ซื้อตาม ก็เลยต้องทำใจว่าเสียค่าครูไปซะก่อน ตอนนั้นตลาดหุ้นกำลังบูม ดัชนีแค่ 800-900 จุดเอง หลังจากนั้นจะไม่ยอมพลาดอีกเป็นอันขาด” เขากล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

กวิน สุวรรณตระกูล เรื่องหุ้นไม่ยากอย่างที่คิด

 

พอเริ่มศึกษาทำการบ้านอย่างจริงจัง ค่อยๆ เล่นอย่างใจเย็น ดูปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก เล่นแบบนักลงทุนจริงๆ ค่อยเก็บค่อยออมไป  ไปฟังสัมมนาบ่อยมาก ฝึกดูงบบัญชีขาดทุน ดูกราฟ ทั้งอ่านทั้งฟังให้มากๆ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากจ่ายค่าครูไปแล้ว บ่มเพาะประสบการณ์และความมั่นใจอยู่หลายปี มีทั้งประสบการณ์ดีและประสบการณ์ร้าย บ่มเพาะข้อมูลมาจนใช้ได้ก็เริ่มเขียนเพจ แล้วก็เอาข้อมูลจากเพจมารวมเป็นพ็อกเกตบุ๊ก จึงได้หนังสือ 3 เล่มออกมา และได้รับความสนใจจากผู้อ่านเป็นอย่างดีถึงขั้นพิมพ์ซ้ำ 3 รอบ

โดยเน้นสไตล์การเขียนแบบง่ายๆ สบายๆ เหมือนเล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟัง อารมณ์เมาท์ๆ มีขำมีฮา ไม่ใช้ภาษายากๆ หรือศัพท์แสงเทคนิคให้ปวดหัว สำหรับเนื้อหาในเล่มก็จะเป็นการให้ความรู้เรื่องการออมในด้านต่างๆ แบบว่ามนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ไม่ต้องเป็นผู้บริหารก็สามารถแบ่งเงินมาออมได้แบบไม่ต้องเบียดเบียนตัวเองมากเกินไป ค่อยๆ เริ่มจากหลักร้อย หลักพัน ไปยันหลักหมื่น หลักแสน สร้างแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ ยิ่งเห็นตัวเลขผลตอบรับที่ดีก็จะยิ่งมีกำลังใจในการออมมากขึ้น

“การออมจากหุ้นถ้าเริ่มเข้าใจไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราต้องมีสติ มีวินัย มีหลักการ เพราะการเล่นหุ้นราคาไม่ใช่สิ่งสำคัญ ราคาเป็นตัวแทนของอารมณ์และความคาดหวัง ส่วนพื้นฐานของหุ้นคือเหตุผลและความเป็นจริง ถ้าจะเล่นหุ้นต้องดูที่ปัจจัยพื้นฐานมากกว่าราคา” เขาให้ความรู้

เนื้อหาในเล่มที่เขียนเป็นข้อแนะนำสำหรับมือใหม่ที่สนใจการลงทุนในด้านต่างๆ แบบฉบับของมนุษย์เงินเดือนที่ค่อยออม ค่อยสะสมหุ้นไปเรื่อยๆ เพื่อไว้ใช้ยามเกษียณ ด้วยการเลือกซื้อหุ้นแบบออมระยะยาว แล้วเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีงบการเงินที่ดี มีความสามารถในการแข่งขัน เลือกซื้อหุ้นแบบเฉลี่ย คือเลือกจากหลายกลุ่ม เช่น หุ้นการเงินสัก 1 ตัว หุ้นโรงพยาบาล 1 ตัว หุ้นพลังงาน 1 ตัว หุ้นโรงแรม 1 ตัว หุ้นอาหาร 1 ตัว กระจายในหุ้นกลุ่มต่างๆ สัก 6 ตัว ซื้อไปเรื่อยๆ ทีละน้อยเป็นการเฉลี่ยต้นทุนไปเรื่อย หุ้นออมคือหุ้นถือยาวเป็นปีๆ