posttoday

ฐิตา ล่ำซำ เจ้าหญิงบนลานน้ำแข็ง

12 กุมภาพันธ์ 2560

หากเอ่ยชื่อ “ปาล์มมี่” ฐิตา ล่ำซำ หลายคนอาจไม่รู้จัก แต่สำหรับวงการสเกตน้ำแข็ง สาวน้อยวัย 17 ปี

โดย...กษม จักรเครือ

หากเอ่ยชื่อ “ปาล์มมี่” ฐิตา ล่ำซำ หลายคนอาจไม่รู้จัก แต่สำหรับวงการสเกตน้ำแข็ง สาวน้อยวัย 17 ปี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพราะเธอเป็นนักฟิกเกอร์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย และเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่สามารถทำคะแนนขั้นต่ำเพื่อเข้าแข่งขันรายการระดับโลกอย่างศึกไอเอสยู เวิลด์ จูเนียร์ ฟิกเกอร์ สเกตติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ และ ไอเอสยู โฟร์ คอนติเนนต์ส ฟิกเกอร์ สเกตติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ ได้สำเร็จ ทำให้ได้สิทธิไปแข่งศึกเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว 2017 ระหว่างวันที่ 19-26 ก.พ. ที่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น 

“เริ่มเล่นสเกตมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ตอนนั้นเล่นกับเพื่อนๆ เอาแป้งมาโรยพื้นที่บ้านให้มันลื่นๆ แล้วก็ไถลไป จนคุณพ่อ (สุรช ล่ำซำ) และคุณแม่ (วันวิสาข์ ล่ำซำ) เห็นว่าชอบกีฬาชนิดนี้จึงสนับสนุน โดยเริ่มเล่นจริงจังตอนอายุ 7 ขวบ” น้องปาล์มมี่ เริ่มเล่า

ก่อนหน้านี้ปาล์มมี่เล่นกีฬาหลายชนิด ทั้งว่ายน้ำ แบดมินตัน ยิมนาสติก แต่มาค้นพบตัวเองว่าชอบกีฬาสเกตน้ำแข็งเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง “ไอซ์ พริ้นเซส” สเก็ตหัวใจแรงเกินฝัน

“ชอบหนังเรื่องนี้ ทำให้มีวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นหลายอย่าง หลังจากเริ่มฝึกซ้อมได้ประมาณ 11 เดือน ก็ถูกส่งลงเวทีแข่งครั้งแรก จำได้เลยว่าร้องไห้ เพราะกดดัน แต่ก็พยายามตั้งใจฝึกซ้อมอย่างจริงจังและพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ไม่ร้องไห้แล้ว”

ฐิตา ล่ำซำ เจ้าหญิงบนลานน้ำแข็ง

 

ปัจจุบันปาล์มมี่เรียนอยู่เกรด 12 ที่โรงเรียนนานาชาตินิสท์ (NIST International School) แถวสุขุมวิท หากว่างจากการเรียนก็จะไปฝึกซ้อมที่อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง ทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์วันเดียวที่ได้หยุดพัก

“ที่โรงเรียนคุณครูและเพื่อนช่วยสนับสนุน รู้ว่าไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เพื่อนๆ จะช่วยช็อตโน้ตการบ้านให้ เวลาไม่ได้ไปเรียน เพราะต้องเดินทางไปแข่งขัน ส่วนการฝึกซ้อมจะซ้อมทุกวันเฉลี่ยวันละ 3-5 ชั่วโมง ไม่เคยเบื่อการฝึกซ้อม ชอบซ้อมมาก ชนิดที่ว่าโค้ชต้องบอกว่าวันหยุดห้ามมาลานสเกตนะ”

อนาคตหลังจากจบการศึกษาระดับไฮสกูล ฐิตา เผยว่า ที่บ้านมีโครงการที่จะให้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐ เป็นอีกช่วงของการตัดสินใจที่สำคัญของชีวิต แต่สุดท้ายก็ไม่ทิ้งกีฬาสเกตที่ชื่นชอบ

“ถึงแม้จะไปอยู่สหรัฐ ก็ต้องฝึกซ้อมสเกตเหมือนเดิม เพราะมันเป็นทางของหนู เป็นสิ่งที่รักและชอบ คงจะทิ้งสเกตไม่ได้” 

ฐิตา ล่ำซำ เจ้าหญิงบนลานน้ำแข็ง ฐิตา ล่ำซำ

 

 

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ปาล์มมี่จะลงแข่งขันรายการระดับอินเตอร์ ด้วยความภาคภูมิใจที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต เพราะเธอได้ติดธงไตรรงค์แข่งขันในนามทีมชาติไทยในมหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ของทวีปเป็นครั้งแรก ร่วมกับ “น้องพร้อม” พร้อมสรร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ในศึกเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว 2017

“การแข่งรายการต่างๆ ที่ผ่านมาจะส่งเป็นชื่อตัวเองมาตลอด แต่ครั้งนี้เป็นการแข่งในนามทีมชาติ รู้สึกตื่นเต้นมาก ยิ่งคุณพ่อบอกว่าจะได้ถือธงชาติไทยนำทีมนักกีฬาเข้าสนามในพิธีเปิดก็ยิ่งรู้สึกช็อก ดีใจมากและเป็นความภูมิใจของครอบครัวด้วยที่เราได้ทำหน้าที่นี้ ถือเป็นเกียรติประวัติแก่ตัวเองและครอบครัว”

ความพร้อมในการชิงชัยครั้งนี้ น้องปาล์มมี่ เผยว่า เพิ่งหายจากอาการเจ็บสะโพกและข้อเท้าจากปีที่แล้ว และกำลังฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยตั้งเป้าทำผลงานให้ดีที่สุดในรอบตัดตัว วันที่ 23 ก.พ. เพื่อติดเป็น 1 ใน 24 คนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและลุ้นเหรียญรางวัลในวันที่ 25 ก.พ.นี้

“งานนี้ตั้งใจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยอมรับว่าเป็นงานยาก เพราะทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ ล้วนแต่ดีกรีระดับโลกทั้งนั้น สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ได้มีส่วนร่วมหลายอย่าง ทั้งเรื่องชุดและเลือกเพลง กับโค้ช แอนโทนี่ หลิว ชาวออสเตรเลีย วันแรกจะใช้เพลง มูแลงรูจ และเพลงแฟนทอม ออฟ ดิ โอเปร่า ทั้งสองเพลงมันบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของหนู”

ทั้งนี้ ฐิตาเป็น 1 ใน 55 ตัวแทนทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ครั้งนี้ใน 3 ชนิดกีฬา ได้แก่ สกี ฟิกเกอร์สเกต ฮอกกี้น้ำแข็ง

สำหรับเรื่องอนาคตในเส้นทางไอซ์สเกต ฐิตา เล่าว่า นับจากนี้ยังไม่คิดอะไรมาก ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่ปฏิเสธโอกาสที่จะเดินตามรอย “ฟิล์ม” ร่มเกล้า โสภา อดีตนักสเกตรุ่นพี่ดีกรีทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันได้เป็นหนึ่งในนักแสดงดิสนีย์ ออน ไอซ์

ฐิตา ล่ำซำ เจ้าหญิงบนลานน้ำแข็ง

 

“สำหรับหนู พี่ฟิล์มเป็นนักสเกตที่เก่งคนหนึ่งของเมืองไทย ชื่นชมพี่เขา ช่วงเข้าวงการใหม่ๆ เคยเห็นพี่เขาซ้อม ตั้งใจมาก ตอนนั้นหนูเข้ามาช่วงท้ายๆ ของพี่ฟิล์มแล้วสำหรับทีมชาติ ทราบว่าพี่ฟิล์มผันตัวเองไปแสดงทัวร์กับดิสนีย์ เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สำหรับตัวเอง คงไม่เหมาะ เพราะไม่ชอบการแสดงมากเท่าไหร่ อยากจะฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันมากกว่า เพราะมันเป็นทางที่เราถนัดและทำได้ดี”

ความฝันสูงสุดของนักฟิกเกอร์สเกตสาวหมายเลข 1 ของไทย เธอบอกว่าหากมีโอกาสอยากไปโลดแล่นบนลานน้ำแข็งในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวให้ได้สักครั้ง

“ความฝันของนักกีฬาทุกคน อยากจะไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาวสักครั้งในชีวิต สำหรับหนูก็เช่นกัน มันคงยอดเยี่ยมมากหากได้สิทธิไปแข่ง”

แม้จะเป็นเป้าหมายที่ยากลำบาก แต่ไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม เหมือนเส้นทางไอซ์สเกตกว่า 10 ปี ของสาวน้อยผู้นี้ที่ได้ผ่านมาทั้งสุขและทุกข์ และทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของไทย