posttoday

คลาสสิกสไตล์ ‘อุเทน’ รสนิยมย้อนอดีตแบบสุนทรีย์

21 มกราคม 2560

แม้ในทางการเมืองอาจดูเป็นคนดุดันชนิดกล้าชน แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับ “อุเทน ชาติภิญโญ” หัวหน้าพรรคคนไทย

โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

แม้ในทางการเมืองอาจดูเป็นคนดุดันชนิดกล้าชน แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับ “อุเทน ชาติภิญโญ” หัวหน้าพรรคคนไทย ถือเป็นหนุ่มใหญ่สไตล์คลาสสิก ที่ใครเห็นแล้วอาจจะละมุนไปกับความสุนทรีย์โดยเฉพาะของสะสมกับชุดเครื่องแก้วจากนานาประเทศ ที่แต่ละชิ้นมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ซึ่งได้เปิดบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ให้เชยชมสมบัติอันล้ำค่าทั้งด้านประวัติศาสตร์ ผนวกด้วยความสวยงามและเรื่องราว

อุเทน เล่าถึงความเป็นมาในการสะสมชุดเครื่องแก้ว เริ่มจากวัยเด็กสมัยยังพักอยู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งคุณพ่อทำอาชีพเป็นพ่อค้าตระเวนขับเรือขายของตามคลองต่างๆ ละแวกบ้าน พ่อเป็นคนชอบสะสมของเก่าโดยเฉพาะพวกเครื่องเคลือบ กระเบื้องเคลือบ กระเบื้องเผา และสมัยก่อนบ้านยังจน ต้องเอาไปแลกหรือเอาของที่ขายได้ไปซื้อมา ทำให้ตรงนั้นเป็นแรงบันดาลใจอยากทำบ้าง จึงหัดเก็บสะสมมาตลอด

คลาสสิกสไตล์ ‘อุเทน’ รสนิยมย้อนอดีตแบบสุนทรีย์

 

อุเทน เล่าต่อว่า ส่วนตัวก่อนหน้านี้สะสมชุดเครื่องแก้วของไทย เพราะหาได้ง่าย แต่ระยะหลังเริ่มมาเก็บชุดเครื่องเคลือบจีน กระทั่งกลายเป็นจุดไม่สิ้นสุด อีกทั้งได้มารู้จักน้องและพี่ซึ่งอยู่การบินไทย 2 คน โดยมีความเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องแก้ว โดยเครื่องแก้วที่สะสมต้องไม่มีตำหนิ ถ้ามีก็ต้องเป็นของใช้ไม่ต่ำกว่าร้อยปี เพราะถ้าไม่มีตำหนิเลยหายาก ฉะนั้น เป็นการเก็บเล็กผสมน้อย

“ประมาณปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้ชุดเวเนเชียนสีแดง แกะลายทอง เป็นเครื่องแก้วอิตาลี ทำในเวนิส ผมบังเอิญได้หลังจีบมานาน (หัวเราะ) เพราะคนสะสมอายุมากแล้ว ปรากฏว่าเป็นแบรนด์ของตระกูลหนึ่งในอังกฤษ เป็นเวเนเชียนสีแดงชุดนี้ ลายนั้นทำจากทองแท้ วิธีและกระบวนการทำยากมาก เพราะต้องเผา แกะ และแคะเอาสีออก ตามอุณหภูมิ ไม่มีทางที่คนสมัยนี้จะลงทุนขนาดนั้น ดังนั้น ของพวกนี้ปลอมน้อย”

อุเทน เล่าด้วยว่า เครื่องเคลือบถือเป็นความคลาสสิก ยิ่งเฉพาะคนยุโรปชอบเล่น บลูแอนด์ไวท์ หรือเคลือบลายคราม ในภาษาไทย แต่ชุดเครื่องแก้วมันแสดงถึงรสนิยม โดยเฉพาะคำว่า ผู้ดีอังกฤษ ทำไมถึงไม่มีผู้ดีแบบอื่น แต่พอพูดถึงผู้ดีอังกฤษทุกคนจะนึกถึงความเนี้ยบ ไม่ใช่ดูสะอาด สวยงาม อย่างเดียว แต่มันพรั่งพร้อมทุกอย่าง

คลาสสิกสไตล์ ‘อุเทน’ รสนิยมย้อนอดีตแบบสุนทรีย์

 

หัวหน้าพรรคคนไทย ยอมรับว่า แต่ละชิ้นกว่าจะได้มายาก บางชิ้นเหมือนเป็นเนื้อคู่ ไม่แน่นอน ของพวกนี้เป็นการแลกเปลี่ยนของคนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือไม่ก็แลกกันและเติมเงินตามมูลค่าของ แต่สมัยใหม่เป็นการซื้อขาย

ส่วนชิ้นประทับใจสุด อุเทน เล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า โดยเฉพาะชุดจานสีชมพู ทว่า เสียดายชุดนี้มีเพียง 9 ใบ เพราะจริงแล้วชุดจานหรือชุดเครื่องแก้วอื่นๆ จะมีเป็นคู่ ไม่มีคี่ โดยจะเป็นเกือบทุกประเทศ บางชุดมี 10-12 ใบ โดยที่มาของจานชุดนี้ คือ สีชมพู น้ำทองครบ

“สำคัญมาก เพราะจานชุดนี้สีชมพู ผมและลูกสาวสายสีชมพู หมายถึงทั้งเตรียมอุดมฯ และจุฬาฯ และสำคัญอีกอย่าง เป็นโรงงานฝรั่งเศส ซึ่งทำจานและเครื่องลายครามให้กับราชวงศ์จักรี จานนี้ผ่านการใช้มาแล้ว แต่เนี้ยบไม่มีตำหนิ สำคัญมีแบรนด์ของราชวงศ์ หรือบุคคลหนึ่ง หรือของตระกูลหนึ่ง กำลังค้นหาว่าเป็นแบรนด์ของราชวงศ์ หรือตระกูลใด”

อุเทน ยังได้โชว์ของสะสมสำคัญ คือ ชุดแก้ว เพราะพบว่าเป็นของตระกูลบุนนาค อีกทั้ง ลูกเขยก็เป็นคนตระกูลบุนนาค และด้วยความพิเศษของถ้วย คือ โลโก้เป็นตราตระกูล หากค้นในหนังสือเครื่องหมายจะบอกว่าเป็นตระกูลบุนนาค ซึ่งมีหลายสายตระกูล แต่แก้วใบนี้น่าจะเป็นของท่าน “ท้วม บุนนาค” โดยสั่งบริษัทนี้ทำขึ้น

คลาสสิกสไตล์ ‘อุเทน’ รสนิยมย้อนอดีตแบบสุนทรีย์

 

อุเทน เล่าอย่างภูมิใจว่า ของที่สะสมส่วนใหญ่มีอายุ 115-125 ปีขึ้นไป บางชิ้น 130 ปี สำหรับแหล่งซื้อขาย บางชิ้นได้จากฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยียม เชโกสโลวาเกีย ไม่แน่นอน เหมือนคนไปเที่ยวจตุจักร ตาดีได้ ตาร้ายเสีย และหาจากตามอินเทอร์เน็ตบ้าง ทว่า ระยะหลังไม่ค่อยมีเวลาติดตาม แต่ใช้วิธีบอกคนพอรู้จัก หากผ่านไปตรงนั้น ร้านนี้ แม้บางชิ้นจะมีอายุไม่ถึงร้อยปีแต่มีความคลาสสิกการทำก็เอา

อุเทน เล่าด้วยว่า ชุดหายากสุดจะเป็นชุดเครื่องแก้วยา โดยมีทั้งหมด 2 ชุด ส่วนอีกตู้จะเป็นชุดเครื่องแก้วมาจากอิตาลีทั้งหมด โดยทั้งตู้จะแบ่งเป็น 3 คอลเลกชั่น ชั้น 1 และ 2 จะมาจากอังกฤษ เป็นแบรนด์ SDR ของตระกูลหนึ่งในอังกฤษ แต่จะเป็นตระกูลใดไม่ทราบ

ส่วนชั้นล่างเป็นอีกลาย ด้วยการสอดสีเข้าไป หรือการเพนต์สี โดยทั้งหมดจะแบ่งเป็นชุดชา และชุดเหล้า ซึ่งวัฒนธรรมต่างประเทศแค่จิบ ต่างจากไทย แต่ละอย่างก็แบ่งออกเป็นประเภทเหล้าแต่ละชนิด โดยได้มาจากบ้านของนักสะสมคนหนึ่งซึ่งจีบมานานมาก (หัวเราะ)

ขณะที่อีกตู้ ของหาไม่ยาก เป็นชุดชากาแฟ แต่ได้ตรงตู้ที่ใส่ ซึ่งงดงามมาก คลาสสิกด้วยลวดลายอ่อนนุ่ม และกระจกลายแบบสไตล์โกธิค ซึ่งได้จากการประมูล และอีกตู้จะเป็นชุดไทย เป็นพานรอง ถาดรอง โถต่างๆ วันนี้เริ่มมีค่าขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมเคยสะสมในราคา 3,000-5,000 บาท/ชิ้น วันนี้มีการประมูลเป็นหมื่นต่อชิ้น

คลาสสิกสไตล์ ‘อุเทน’ รสนิยมย้อนอดีตแบบสุนทรีย์

 

และมีค่าสุด คือ จานรองสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แต่น่าเสียดายของเหล่านี้ต่างชาติเอาไปเยอะมาก จนส่วนตัวบางชิ้นยอมซื้อสูงกว่าราคา 30-50% เพื่อไม่ให้ของออกจากประเทศไป จึงอยากขอให้นักสะสมมีความสำนึกความเป็นไทย โดยเฉพาะพ่อค้าทั้งหลายอย่าเอาออกไป

ขณะที่อีกตู้ เป็นของปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทว่า เสียดายอดีตเคยถูกขโมยขึ้นบ้านเก่า จึงหมดไปมาก เป็นถาดสมัยรัชกาลที่ 5 ที่สำคัญยังมีหลายขนาด เล็กสุด 4-5 นิ้ว เป็นความคลาสสิกสมัยท่านเสด็จพระพาสยุโรป และเอาวิวัฒนาการมาประยุกต์ใช้ ทำแจก ถวายพระ เจ้าขุนมูลนาย ส่วนคำว่าเจริญถาดกลาง มี 5 สี ซึ่งหายาก

ส่วนตู้สไตล์จีนเรียกว่า ชุดกวางตุ้ง ชุดนี้เป็นเครื่องใช้ที่เป็นสีทั้งหมด หลายชิ้นได้มาถูก เพราะค่อยๆ สะสม และอาศัยช่วงหนึ่งเดินทางไปจีนบ่อย ทั้งหมดของแท้เป็นลายเขียนไม่ใช่พิมพ์ อายุ 100 ปี และที่ชอบ หยงโล้ว หรือหม้อไฟ ซึ่งไม่มีตำหนิ และแต่ละชั้นจะแบ่งตามสไตล์ของเครื่องเคลือบ

อีกชุด เป็นชุดชาฝรั่งสไตล์จีน สมัยปลายราชวงศ์ชิง โดยฝรั่งออกแบบ จีนทำ จีนใช้ ทว่า ไม่ครบ ที่สำคัญตู้ที่ใส่ใบนี้เก่าที่สุด ทำจากไม้โอ๊ก และอีกตู้ที่ชอบ คือ เหยือกเหล้า เป็นระบบกาลักน้ำ เวลาเติมก็เทเหล้าเข้ารูด้านล่างและตั้งเหมือนปกติ โดยเหล้าจะไม่ไหลออกและเทเหมือนกาน้ำปกติ ซึ่งมีความพิเศษ อีกทั้งยังเป็นลายโป๊ยเซียนหายากมาก

ส่วนแจกันเล็กชุดนี้ ยิ่งเล็กยิ่งแพง มาจากสมัยราชวงศ์หมิง เทียบได้กับต้นกรุงศรีอยุธยา จะมีการเคลือบอีกแบบ ไม่ใสเหมือนสมัยใหม่ คลาสสิกมาก

อุเทน ยังทิ้งท้ายด้วยว่า อยากบอกคนทั่วไปว่าสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องมี 1.ครอบครัว 2.การศึกษาเรียนรู้ เพราะความรักในครอบครัวจะเป็นบ่อเกิดแรงบันดาลใจให้กับเราสำหรับทุกอย่างที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่เป็นแบบอย่าง ความจนไม่ได้เกิดและติดต่อทางสายเลือด ความจนไม่ใช่เชื้อโรค ฉะนั้น อย่ากลัวจน พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จน แต่เราไม่จำเป็นต้องจน

"ขอให้เรามีความมุ และแรงบันดาลใจ ครอบครัวเป็นจุดสำคัญที่สุด เราต้องรักครอบครัว เพราะครอบครัวจะพาเราไปสู่ความสำเร็จ ให้กำลังใจให้แรงบันดาลใจต่อกันและกัน จึงอยากฝากตรงนี้ไว้ ผมมีวันนี้ได้เพราะครอบครัวจับมือกัน อยากให้คนไทยสู้เพื่อผ่านวิกฤตได้ ไม่ต้องเอาผมเป็นตัวอย่าง แต่เอาคนประสบความสำเร็จจริงๆ เป็นตัวอย่าง ที่มีมากกว่าผม”