posttoday

ชาญ ธนประกอบ แปลหนังสือชุด ‘แจ๊ค หม่า’

14 สิงหาคม 2559

ชาญ ธนประกอบ เป็นผู้แปลหนังสือชุด “แจ๊ค หม่า” ที่ออกมาแล้วด้วยกัน 6 เล่ม คือ

โดย...พริบพันดาว

ชาญ ธนประกอบ เป็นผู้แปลหนังสือชุด “แจ๊ค หม่า” ที่ออกมาแล้วด้วยกัน 6 เล่ม คือ 1.“ชีวประวัติ แจ็ค หม่า : มีชีวิตอยู่เพื่อสะท้านโลก” 2.“แจ็คหม่า โลกของผมไม่มีคำว่า แพ้” 3.“ปรัชญาชีวิตของ แจ็ค หม่า” 4.”การพูดสไตล์ แจ็ค หม่า” 5. “ที่หนึ่งของโลก แจ็ค หม่า กับอาณาจักรอาลีบาบา” และ 6.การบริหารสไตล์ แจ็ค หม่า”

ชาญได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแปลคุณภาพชั้นยอด คร่ำหวอดอยู่ในวงการนักแปลภาษาจีน มีนิยายหลายเรื่องที่ได้รับความนิยม ปัจจุบันเป็นเลขานุการสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย

แรงบันดาลใจที่ทำให้เข้าสู่วงการนักแปล ชาญเคยกล่าวตอนแปลหนังสือชุด แจ๊ค หม่า ออกมาเล่มแรกๆ ว่าด้วยเป็นความรักและชอบส่วนตัว และคิดว่างานแปลเป็นงานที่ท้าทาย บางทีก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปแปลอะไร เลยทำให้ต้องขวนขวาย คิดว่าเป็นการเติมเต็มความรู้ในทุกสาขา ดังนั้นถ้ามีงานแปลที่เป็นหนังสือที่ใช้ได้ ไม่ใช่แปลแบบสัพเพเหระ การแปลเป็นการข้ามวัฒนธรรม ข้ามภาษา คนแปลทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ใช้ความรู้ที่มีอยู่ถ่ายทอดจากอีกภาษาหนึ่ง วัฒนธรรมหนึ่งไปสู่อีกภาษาและวัฒนธรรมหนึ่ง ให้คนอีกกลุ่มหนึ่งได้รับรู้เท่าๆ กับผู้แปล ซึ่งงานแปลเป็นงานที่มีความหมาย

“จริงๆ แล้วทั้ง 6 เล่ม มีเพียง 2 เล่ม ที่เป็นสำนักพิมพ์เดียวกัน หนังสือของ แจ๊ค หม่า ในประเทศจีนที่ออกมาในขณะนี้มีมากกว่า 60 ปก เกลื่อนตลาด และวางขายคู่กับหนังสือผู้นำของจีน สีจิ้นผิง แม้ว่าหนังสือจะมาจากต่างสำนักพิมพ์ก็จริง แต่ว่าผมกับโพสต์บุ๊กส์เอามาจัดเรียงเป็นซีรี่ส์ โดยตอนต้นจะแนะนำชีวประวัติของ แจ๊ค หม่า ก่อน ถัดจากนั้นก็ตามด้วยเล่มการบริหารสไตล์ แจ๊ค หม่า แล้วก็มาถึงธุรกิจอาณาจักรอาลีบาบา เมื่อประสบความสำเร็จแล้วก็มีข้อคิดดีๆ ในชีวิตที่จะบอกคนอื่น ก็เป็นปรัชญาชีวิตของ แจ๊ค หม่า ตามมา แล้วเขาก็เดินทางไปบรรยายทั่วโลก มีฝีปากเป็นเลิศรู้กันในหมู่คนจีนและคนตะวันตก ก็ออกมาในเล่มการพูดสไตล์ แจ๊ค หม่า แล้วปิดท้ายในซีรี่ส์คือ โลกของผมไม่มีคำว่า แพ้” ชาญ เริ่มต้นพูดคุย

เขาบอกว่า ในชุดนี้ของ แจ๊ค หม่า แปลแล้วชอบมากที่สุดอยู่ 2 เล่ม เล่มแรกก็คือ “ชีวประวัติ แจ๊ค หม่า” เหตุผลที่ชอบเล่มนี้ เพราะเป็นจุดกำเนิดของคนธรรมดาคนหนึ่งตั้งแต่วันที่เขาเกิด ล้มลุกคลุกคลานอย่างไร? จนกระทั่งมาตั้งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

“ขั้นตอนชีวิตเหล่านี้เหมือนละครฉากใหญ่แต่มันเป็นเรื่องจริง เพราะว่าระหว่างแปล บางจุดผมก็พยายามค้นคว้าว่าที่เขียนมาจริงหรือเปล่า เหตุที่ผมมากเรื่อง ไม่ว่าเราอ่านหนังสืออะไรที่เกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเราเรียกว่าศาสตร์แห่งความสำเร็จ มักจะมีความดราม่า ทนทุกข์ทรมานมากมาย ผมพบว่าเนื่องจากคนเขียนชีวประวัติตรงนี้ เป็นผู้สื่อข่าวและเป็นนักวิจัยในเชิงวิชาการ เพราะฉะนั้นเขาเก็บข้อมูลทุกเม็ดและเขาเคยไปสัมภาษณ์ แจ๊ค หม่า ด้วยตัวเอง จึงโกหกไม่ได้ ข้อมูลหลายอย่างที่ตรวจสอบจากหลายด้านตรงกัน ผมก็เลยมองว่าหนังสือเล่มนี้พูดความจริง ล้มเหลวก็คือล้มเหลว ไม่มีดราม่าแม้แต่น้อย ตัวชีวิตของ แจ๊ค หม่า เอง ดราม่าอยู่แล้ว ไม่ใช่เขียนเติมแต่งเข้าไปตามศาสตร์การบริหารทั่วไป แล้วก็อัดแน่นด้วยความรู้”

การแปลหนังสือเล่มนี้ชุดนี้หากนับเล่มอื่นๆ แล้ว ชาญ บอกว่า เล่มนี้ยากที่สุด มีความท้าทายมาก เนื่องจากคนเขียนมีความรู้เต็มสมอง

ชาญ ธนประกอบ แปลหนังสือชุด ‘แจ๊ค หม่า’

 

“ผมที่เป็นคนแปลต้องมานั่งจับอารมณ์ว่าในตอนที่เขาเขียน มีจินตนาการถึงไหน เขียนมีวัตถุประสงค์อะไร นอกจากความท้าทายแล้ว เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้จะเหมือนนิยาย อ่านไปลุ้นไป มีหนังสือชีวประวัติน้อยมากที่จะมีอารมณ์เช่นนี้ ขนาดเป็นคนแปลเองยังแปลไปลุ้นไป ซึ่งคงจะถูกใจผู้อ่านและได้รับการตอบรับที่ดีสมกับเวลาที่ทุ่มเทการแปลลงไป แล้วหนังสือเล่มนี้ นอกจากความรู้แล้ว ยังเป็นหนังสือที่ให้กำลังใจคนอย่างมหาศาล”

อีกเล่มเป็นเล่มที่ชาญบอกว่าชอบมากที่สุดคือ “แจ๊ค หม่า โลกของผมไม่มีคำว่า แพ้”

“เป็นอีกเล่มที่ผมประทับใจ เพราะมีความสอดรับกับชีวประวัติ คือหัวใจของ แจ๊ค หม่า เป็นหัวใจที่ไม่มีวันยอมแพ้ เพราะฉะนั้นเขาจึงประสบความสำเร็จ หัวใจที่ไม่ยอมแพ้กลายเป็นจิตวิญญาณของอาลีบาบา เพราะถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น”

สำหรับในมุมคนแปลหนังสือ ชาญ ย้ำว่า หนังสือทุกเล่มที่แปลออกมา แม้ว่าจะขายดิบขายดีหรือขายไม่ได้ เขาก็รักเหมือนลูก

“คำว่าที่สุดไม่ได้หมายความว่าอีก 4 เล่มที่แปลเรื่องของ แจ๊ค หม่า ผมไม่รัก ก็รักทุกเล่ม แต่ถ้าที่สุดก็เป็นการแปล 2 เล่มนี้ ปรัชญาชีวิตของ แจ๊ค หม่า ถ้าอ่านจนจบแล้วเอาไปขบคิด ยิ่งอ่านซ้ำก็ยิ่งได้ข้อคิดใหม่ อ่านแต่ละรอบได้ข้อคิดไม่เหมือนกัน คนที่อ่านหนังสือของแจ๊คแล้วอยากปฏิบัติตาม ก่อนอื่นต้องคิดว่าอยากทำอะไรแบบแท้จริง นั่นคือความฝันของคุณ แล้วหลังจากนั้นก็ไปเริ่ม ถ้าเป็นความฝันที่แท้จริงก็จะเดินต่อไปได้ อย่าดูถูกตัวเอง คุณคือคนที่มีศักยภาพที่สุดในโลก มีคุณคนเดียวไม่มีใครเป็นเหมือนคุณ โลกนี้มีฉันจึงแตกต่าง ฉันมีสีสันยิ่งขึ้นเพราะตัวฉัน ประสบการณ์ที่ได้แนวคิดของคนคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ หวังว่าได้จุดประกายอะไรในชีวิต”