posttoday

จังก์ฟู้ด คิดก่อนกิน

10 กุมภาพันธ์ 2559

เคยดูคลิปของ มอร์แกน สเปอร์ล็อก หนุ่มอเมริกันที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลกด้วยการกินแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งเป็นอาหารประเภทจังก์ฟู้ด (Junk Food)

โดย...วรธาร ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

เคยดูคลิปของ มอร์แกน สเปอร์ล็อก หนุ่มอเมริกันที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลกด้วยการกินแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งเป็นอาหารประเภทจังก์ฟู้ด (Junk Food) ขนาดจัมโบ้ทุกวัน วันละ 3 มื้อติดต่อกันนานถึง 30 วันไหม ถ้าใครได้ดูคงจะทำให้ผู้นั้นให้ความสำคัญและใส่ใจกับการกินอาหารมากขึ้น

คลิปนี้เขาตั้งใจทำเป็นสารคดีด้วยและตั้งชื่อเรื่องว่า “Super Size Me” มีการเดินเรื่องน่าสนใจ ชวนติดตามและรอลุ้นว่าชะตากรรมตอนจบเขาจะเป็นเช่นไร ปรากฏว่าหลังจากไปตรวจเช็กสุขภาพพบว่าร่างกายของเขาถูกหลายโรคคุกคาม เช่น ความดันโลหิตสูงขึ้น ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน ตับและไตมีปัญหา หรือแม้แต่ปัญหาเซ็กซ์เสื่อม เป็นต้น

ก่อนหน้ามอร์แกนจะตัดสินใจเอาชีวิตเข้าเสี่ยงกับโรคต่างๆ เขามีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยใดๆ เบียดเบียน เพราะมีการไปตรวจสุขภาพกับแพทย์ก่อนแล้ว แต่หลังจากกินแฮมเบอร์เกอร์ทุกวันและทุกมื้ออาหารติดต่อกันเป็นเวลา 30 วัน ร่างกายก็อุดมด้วยโรค ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าการกินอาหารพวกนี้มีโทษมากกว่าประโยชน์ต่อร่างกาย แต่คนก็นิยมกินเพราะสั่งแล้วรอเดี๋ยวเดียวก็ได้กิน เราจึงควรรู้จักจังก์ฟู้ดและการกินอย่างไรไม่ให้เป็นโรคอย่างที่ มอร์แกน สเปอร์ล็อก ประสบ

จังก์ฟู้ด หรือที่เรียกกันว่า อาหารขยะ เป็นส่วนย่อยของฟาสต์ฟู้ดและไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการ ถ้ากินมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อสุขภาพ โดยอาหารประเภทนี้ยกตัวอย่างเช่น พิซซ่า เบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด ฮอตดอก น้ำอัดลม ลูกอม ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น ส่วนใหญ่มีแต่คาร์โบไฮเดรต ไขมัน น้ำตาล และเกลือ ไม่ค่อยมีวิตามินและใยอาหาร

การกินจังก์ฟู้ดที่เป็นแป้ง เช่น พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ อาจถูกปากหลายๆ คน แต่ถ้ากินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปจะทำให้ระดับของอินซูลินสูงขึ้น และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง จริงอยู่ที่คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยให้พลังงานและช่วยซ่อมแซมร่างกาย แต่ถ้ากินบ่อยจะทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและทำให้รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนแรง

ขณะที่จังก์ฟู้ดจำพวกของทอด เช่น ไก่ทอด มันฝรั่งทอด มักจะใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวทอดเพราะราคาถูก ครั้นเมื่อเรากินไขมันจำนวนมากเข้าไปก็จะไปสะสมที่ตับและทำให้ตับทำงานผิดปกติ นอกจากนี้น้ำมันที่กินเข้าไปจะตกค้างในกระเพาะและเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบกินผลไม้ยิ่งทำให้ย่อยยากจนเกิดปัญหาท้องผูกและโรคกรดไหลย้อนด้วย

นอกจากนี้ จังก์ฟู้ดที่ประกอบด้วยน้ำตาลอย่างน้ำอัดลมถ้ากินมากไปร่างกายจะได้รับน้ำตาลเป็นสาเหตุของโรคอ้วนและฟันผุ ขณะที่เกลือปกติร่างกายเราต้องการเกลือเพียงเล็กน้อยประมาณ 2.5 มิลลิกรัม ใน 1 วัน แต่จังก์ฟู้ดมีปริมาณโซเดียมเยอะ ถ้ากินมากก็จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

ถึงแม้ว่าอาหารจังก์ฟู้ดไม่ค่อยมีประโยชน์ แถมยังก่อโทษกับร่างกายด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรกินบ่อยๆ อาจจะเดือนละครั้งก็พอ แต่ถ้าจะกินให้ได้คุณค่าก็ทำได้ไม่ยาก เช่น ถ้ากินพิซซ่าควรเลือกที่มีชีสน้อยๆ มีผัก พริกหวาน เห็ด สับปะรด มะเขือเทศ เพื่อช่วยเพิ่มใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ ไม่สั่งน้ำอัดลม แต่สั่งน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้สดแทน ถ้ากินไก่ทอดหรือพิซซ่า ควรกินสลัดผักเพื่อให้ได้รับวิตามินและใยอาหารเพิ่ม แต่ต้องเป็นน้ำสลัดไขมันต่ำและน้ำสลัดไม่มาก เป็นต้น