ชีวิตดี๊ดียุคดิจิทัล

โดย...เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร

เรากำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ยิ่งในปี2559 หลังเปิดใช้บริการ 4จี จากค่ายมือถือ จะทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมีมากยิ่งขึ้น ทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ หรือคนวัยเกษียณ

อย่างโครงการผ่อดีดี (PODD CM One Health) หรือโครงการวิจัยและพัฒนา “การเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดสัตว์ที่ติดต่อถึงคนหรือที่กระทบรายได้ชาวบ้าน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน” กับการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น“ดูดีดี” (DODD) ช่องทางรายงานเหตุผิดปกติในชุมชนเพื่อสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล จ.เชียงใหม่

ชีวิตติดโซเชียล

ยุ้ย-ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา เซเลบริตี้สาวผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ เล่าว่า โดยส่วนตัวชอบเล่นทวิตเตอร์มากๆ เพราะชอบการรายงานข่าวที่รวดเร็ว ส่วนใหญ่จะโพสต์สิ่งที่ไปเจอมาในโซเชียล เพื่อเตือนผู้ติดตามหรือเพื่อนๆ ในแวดวงของเรา

“ยุ้ยมา จ.เชียงใหม่ บ่อยมากค่ะ หลายๆ ครั้งที่ยุ้ยมาเที่ยวที่นี่แล้วเจอเหตุผิดปกติ เช่น เวลาขับรถไปเที่ยวแล้วเรามาเจอไฟไหม้อยู่ริมถนน เจอกองขยะที่ยังไม่ได้เก็บ หรือเจอร้านอาหารที่ดูไม่สะอาดเท่าที่ควร คือเราก็ได้แต่ทวีตบอกในโซเชียลนะคะ แต่เราไม่สามารถรู้เลยว่าไฟนั้นจะไหม้ลามไปมั้ย จะมีใครมาช่วยดับไฟหรือเปล่า จะลุกลามจนกลายเป็นไฟป่าหรือเปล่า ขยะกองนั้นจะมีคนเก็บไปหรือยัง ร้านอาหารที่ไม่สะอาด เขาจะปรับปรุงให้สะอาดขึ้นหรือไม่” ณพอาภา กล่าว

จนมาเจอกับแอพพลิเคชั่นดูดีดีซึ่งนอกจากจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่เราสามารถรายงานเหตุต่างๆ ทั้งในเรื่องของคน อาทิ เจอร้านอาหารไม่สะอาด เจอเครื่องสำอางหรือยาไม่ได้มาตรฐานขายในตลาด หรือเรื่องของสัตว์ เช่น เจอสุนัขที่ดูมีอาการแปลกๆ เจอนกพิราบตายหลายๆ ตัว แม้กระทั่งเรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องไฟไหม้ น้ำท่วม กองขยะ แหล่งเพาะพันธุ์ยุง อะไรเหล่านี้เราสามารถรายงานผ่านแอพพลิเคชั่นดูดีดีได้หมดเลย ซึ่งก็เหมือนการทวีตบอกในโซเชียลมีเดียและการรายงานเหตุของเราจะถูกส่งไปยังสมาชิกในวงกว้างได้

แต่ที่ดีกว่าคือ ถ้ารายงานผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ ก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยมอนิเตอร์ และนำมาซึ่งการแก้ไขให้ทันท่วงที ตรงจุดนี้เป็นจุดที่มองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ปัจจุบันแอพพลิเคชั่นดูดีดีสามารถโหลดใช้ได้ทั้งในระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์ทั่วประเทศ ซึ่งในอนาคตมองว่าจะเป็นแอพที่ได้รับความนิยม เพราะนอกจากจะรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ได้แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม คอยเป็นหูเป็นตา รายงานเหตุการณ์เพื่อให้เกิดการแก้ไขได้ทันท่วงที

ถือเป็นแอพพลิเคชั่นที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เกาะติดสถานการณ์ แชร์สู่สาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป เป็นการใช้สื่อดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์

 

ความสุขในวัยเกษียณ

“สำหรับการทำงานเพื่อส่วนรวมไม่มีคำว่าเกษียณ” รศ.นสพ.เลิศรัก ศรีกิจการ หัวหน้าโครงการผ่อดีดี กล่าวถึงการพัฒนาโครงการผ่อดีดีที่ได้รับความร่วมมือจากหลายองค์กร อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมปศุสัตว์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเครือข่ายสุขภาพหนึ่งเดียว

วัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดจากสัตว์ที่ติดต่อถึงคน และโรคระบาดสัตว์ที่กระทบรายได้ชาวบ้าน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นครั้งแรกของโลก โดยส่งเสริมและอบรมอาสาสมัครในการรายงานเหตุผิดปกติที่อาจเป็นปัจจัยการระบาดของโรคในชุมชน ที่ผ่านมามีการรายงานเหตุผิดปกติกว่า 1,000 เหตุการณ์ ในพื้นที่ 25 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ และสามารถเฝ้าระวังและระงับเหตุการณ์เกิดโรคระบาดในสัตว์ได้ถึง 23 เหตุการณ์

“ที่น่าสนใจคือคนในวัยเกษียณก็สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครกันเยอะ เพราะนอกจากจะช่วยเป็นหูเป็นตาในชุมชนแล้ว ยังเป็นการเข้าสังคมในอีกทางหนึ่งด้วย”

ทั้งนี้ หลังจากเปิดตัวแอพพลิเคชั่นดูดีดี เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นช่องทางรายงานเหตุผิดปกติในชุมชนเพื่อสุขภาพทั้งคน สัตว์และสิ่งแวดล้อม หรือสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health)ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล จากการลงพื้นที่เพื่อแนะนำแอพพลิเคชั่น พบว่าประชาชนในวัยเกษียณ มีความสนใจและช่วยกันรายงานเหตุเข้ามายังโครงการ พร้อมแนะนำบอกต่อไปยังคนในชุมชน ซึ่งถือว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

“คำว่าเกษียณในภาษาธรรม สำหรับผมน่าจะหมายความว่า การทำงานอย่างจิตว่างและมีความสุข โดยไม่ถือเป็นภาระในการทำงาน และผมถือว่าการทำประโยชน์ต่อส่วนรวมนั้น เป็นการทำบุญสร้างกุศลด้วย จึงทุ่มเทให้กับโครงการผ่อดีดี ด้วยความสุขใจในทุกๆ วัน พระท่านสอนไว้ว่าการทำหน้าที่การงานนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์ ถึงจะเกษียณจากระบบจ้างงานแล้ว เรายังต้องทำหน้าที่ของมนุษย์ต่อไปไม่สามารถหยุดได้”

สุดท้าย รศ.นสพ.เลิศรัก หวังว่าจะได้แผนขยายการใช้งานระบบเฝ้าระวังผ่อดีดีและแอพพลิเคชั่นดูดีดีไปในระดับประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมความมั่นคงทางสังคมและการสาธารณสุขของไทยให้มีความปลอดภัยจากโรคติดต่อได้อย่างยั่งยืน