posttoday

หงซิ่วฉวน–กบฏ ศรัทธา และดราม่าชิงแผ่นดิน

25 ตุลาคม 2558

หากวัดขนาดสงครามด้วยจำนวนผู้สังเวยชีวิต สงครามกบฏครั้งใหญ่ที่สุดในโลกคือสงครามระหว่างราชวงศ์ชิง

โดย...นิธิพันธ์ วิประวิทย์

หากวัดขนาดสงครามด้วยจำนวนผู้สังเวยชีวิต สงครามกบฏครั้งใหญ่ที่สุดในโลกคือสงครามระหว่างราชวงศ์ชิงกับกองกบฏที่ผู้นำแอบอ้างเป็นน้องชายพระเยซู

จำนวนผู้คนที่ตายในสงครามครั้งนี้ ประมาณการไว้ที่ 30 ล้านคน

ตัวเลข  30 ล้านคน ยังถือเป็นอันดับต้นๆ ของสงครามครั้งใหญ่ๆ ของโลก เป็นรองก็แค่สงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2

คือความรันทดครั้งใหญ่ของจีนและของมนุษยชาติ

เริ่มจากราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายของจีนสงบและรุ่งเรืองต่อเนื่องยาวนานมาหลายร้อยปี ไม่มีสงครามครั้งใหญ่ ผลพลอยได้ของการติดต่อกับต่างชาติที่ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวจีนให้ดีขึ้น คือ ข้าวโพดและมันฝรั่ง

ข้าวโพดและมันฝรั่งไม่ใช่พืชพื้นเมืองของเอเชีย แต่ถูกนำเข้ามาจากอเมริกาใต้ เพาะปลูกง่าย ทำให้ปัญหาเรื่องอาหารการกิจของชาวจีนได้รับการประกันเบื้องต้นว่า หากไม่เกิดภัยฉุกเฉินจะไม่อดตาย

ประชากรจีนจึงเพิ่มทวี แต่ที่ไม่เพิ่มตามคือพื้นที่ทำมาหากิน ประชากรมากมายจึงกลายเป็นคนเช่าที่ทำนาราคาสูง บัณฑิตตกงาน และคนติดยาฝิ่น

หงซิ่วฉวนมุ่งมั่นเข้าสอบซิ่วไฉ (เรียกแบบไทยๆ ว่าจอหงวน) แต่สอบถึง 3 รอบไม่ติดสักที เขาสะเทือนใจถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อไม่ฟื้นไป 40 วัน

ไม่รู้ว่าพิษไข้ขึ้นสมอง หรือความเครียดทำละเมอ หงซิ่วฉวน “นิมิต” เห็นชายแก่หนวดเครายาวสวมเสื้อคลุมดำ มอบดาบอาญาสิทธิ์ให้เขาไว้ปราบปีศาจร้ายบนโลกมนุษย์ ซึ่งในที่นี้คือลัทธิขงจื๊อ

นิมิตลมๆ แล้งๆ ของเขาไม่ได้ไร้ที่มา เพราะเมื่อครั้งผิดหวังจากการสอบครั้งที่สองในกว่างโจวซึ่งเป็นเมืองท่าอันเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ เขาได้พบกับบาทหลวงฝรั่งระหว่างทาง ได้รับคัมภีร์ไบเบิลฉบับคัดย่อแปลจีน หงซิ่วฉวนฟังๆ อ่านๆ แล้วก็แค่เก็บไว้บนหิ้ง

ชายแก่หนวดยาวเสื้อคลุมดำกับดาบอาญาสิทธิ์ จึงน่าจะมโนจากนักพรตเต๋าผสมบาทหลวง แต่นั่นไม่สำคัญเท่าประโยคที่ชายแก่ในนิมิตบอกว่า หงซิ่วฉวนคือพระบุตรคนที่สองของชายแก่ ซึ่งพี่ชายเจ้าคือพระเยซู

บร๊ะเจ้า! ใช่แล้ว ชายแก่คนนั้นคือพระผู้เป็นเจ้า

ความผิดหวังในการสอบซิ่วไฉในระบบขงจื๊อกลายมาเป็นแรงอาฆาต ระบบขงจื๊อนี่แหละคือปีศาจร้ายและข้าคือผู้นำแผ่นดินใหม่-เมืองแมนแดนสันติ (ไท่ผิงเทียนกว๋อ)

ข้าคือน้องชายพระเยซูที่มาพร้อมดาบอาญาสิทธิ์ กำราบลัทธิขงจื๊อ-ราชวงศ์ชิง

หงซิ่วฉวนตั้งหลักที่มณฑลกว่างซี บรรดาชาวบ้าน ชาวนา และกรรมกรในเหมืองที่ทุกข์ยากเข้าร่วมกองกำลังด้วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเพราะศรัทธาในน้องชายพระเยซู แต่เป็นเพราะน้องชายพระเยซูไม่สัญญาว่าในแผ่นดินใหม่ที่น่าจะถูกแบ่งให้ถ้วนทั่ว

เช่นเดียวกับความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบในแผ่นดินทั่วไป คำว่า รัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ ฯลฯ ย่อยยาก ไม่ทันกิน ใช้คำว่าแบ่งที่ดินโดยเท่าเทียม แล้วผู้คนจะมีกินมีใช้ได้ผลกว่า ผู้คนที่ทุกข์ยากลำบากในสังคมเดิมจำนวนมากต่างเข้าร่วมขบวนการแผ่นดินใหม่

พอยึดได้หนึ่งหมู่บ้าน หงซิ่วฉวนก็ประกาศแผ่นดินของตัวเป็นประเทศ

ตามหลักการก่อกบฏก็นับว่าหาที่ตาย เพราะว่าตามธรรมเนียมถ้ารากฐานไม่มั่นคงอย่าเพิ่งด่วนประกาศความเป็นใหญ่ นี่ดันประกาศตัวออกไปว่าไม่ใช่กองโจร ไม่ใช่จะปล้นธนาคาร แต่เป็นกองกำลัง
สร้างชาติล้มล้างระบอบเก่า กองทัพราชวงศ์ชิงย่อมหันปลายดาบและปลายปืนวิ่งเข้าใส่

แต่บ้านเมืองสันติมานาน กองทัพราชวงศ์ชิงปวกเปียก ล้อมปราบไม่สำเร็จ กองกำลังหงซิ่วฉวนชนะและตีฝ่าออกไปได้ หงซิ่วฉวนฝ่าวงล้อมแล้วเข้ายึดเมืองได้เมืองหนึ่ง ก็ตั้งตนเป็นอ๋องแห่งสวรรค์ทันที

จัดว่าหงซิ่งฉวนฉีกตำราจีนทุกเล่ม ยึดได้หนึ่งหมู่บ้านตั้งประเทศ ยึดได้หนึ่งเมืองก็ตั้งตัวเป็นอ๋องแห่งสวรรค์ หลังจากนั้นยังทยอยตั้งลูกน้องคนนั้นคนนี้เป็นอ๋องอีกเป็นจำนวนมาก ไปๆ มาๆ มีลูกน้องได้แต่งตั้งเป็นอ๋องนับร้อยนับพัน ตกรางวัล มอบเกียรติยศกันให้ทั่วจนตำแหน่งเฟ้อ

ไม่ใช่แค่อ๋องในเมืองแมนแดนสันติที่มีมากมาย ตำแหน่งมเหสีของหงซิ่วฉวนก็ใช่น้อย ตอนเขายึดเมืองเมืองแรกได้ ก็มีภรรยาปาเข้าไป 38 คนเข้าให้แล้ว (หลังจากนี้ยังมีเพิ่มเป็นร้อย) เป็นเมืองแมนแดนสันติจริงๆ

นับวันกองกำลังของหงซิ่วฉวนยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะพูดจริงแจกจริง ยึดที่นาพวกเจ้าที่ดินมาแบ่งสรรให้ทุกคนทั่วกัน ยกเลิกอาชีพโสเภณีและประเพณีรัดเท้าของหญิงจีน ให้หญิงจีนมีสิทธิเท่าเทียมชายเข้าสอบรับราชการได้ ส่วนนี้นับเป็นคุณูปการที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

บาทหลวงฝรั่งทั้งหลายเกือบจะได้ประเทศสมาชิกคริสตจักรหัวก้าวหน้าที่มีประชากร 400 ล้านคนในไม่ช้า ติดอยู่แค่ว่าหัวหน้าดันอ้างตัวเป็นน้องชายพระเยซูเกินกว่าจะรับไหว ไม่งั้นปัจจุบันพระสันตะปาปาอาจต้องมาเยือนจีนบ่อยๆ

หงซิ่วฉวนขยายอำนาจอย่างรวดเร็ว พอยึดหนานจิง-นครสำคัญทางใต้ได้ ก็ตั้งเป็นเมืองหลวงของประเทศ แล้วเวลาเสพสุขก็เริ่มขึ้น (แต่ถ้านับจากปริมาณภรรยา ถือได้ว่า หงซิ่วฉวนเสพสุขมาตั้งแต่ต้น) เขาสร้างพระราชวังซึ่งพื้นที่ใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่งสองเท่า ร่วมกับภรรยาหลายร้อยและเริ่มไม่ออกว่าราชการ

ความสำเร็จง่ายดายที่ผ่านมาคงจะทำให้หงซิ่วฉวนเชื่อว่าฟ้า เอ้ย! พระบิดาประทานชัยชนะให้เขาแล้ว

ต่อมาราชวงศ์ชิงรู้ว่าทหารแมนจูของตนอ่อนหัด จึงจัดจ้างกองกำลังชาวจีนด้วยกันเองเข้าปราบปรามหงซิ่วฉวนแทน ผลได้เป็นที่น่าพอใจ เจิงกว๋อฝานและหลี่หงจางผู้นำทหารจัดตั้งเกลียดชังกบฏเมืองแมนแดนสันติยิ่งนัก เพราะนอกจากเป็นกบฏต่อราชสำนักยังเป็นกบฏต่อวัฒนธรรมจีน-ขงจื๊อ Strike Back!

ฝั่งหงซิ่วฉวนทยอยแตกแยกกันภายใน นับวันพื้นที่และกำลังทหารก็ถดถอย ตึงเครียดมากเข้า ถึงขนาดลูกน้องหงซิ่วฉวนแกล้งองค์ลงเป็นพระบิดามาคัดง้างพระบุตรคนรอง สุดท้ายหงซิ่วฉวนสั่งเก็บ ฆ่ากันเองไปเป็นหมื่น

ยิ่งนานยิ่งแย่ สุดท้ายตกในวงล้อมที่หนานจิง สูญสิ้นเสบียง หงซิ่วฉวนบอกกับทุกคนว่าให้กินหญ้าตามบัญชาสวรรค์และเพื่อความน่าศรัทธา หงซิ่วฉวนจึงประเดิมกินให้ดูเป็นคนแรก จนล้มป่วยและตายลงในที่สุด

แต่กองทัพหงซิ่วฉวนยังคงสู้ต่ออย่างน่าสะพรึง ทุกคนสู้จนตัวตาย ที่หนานจิงไม่มีใครในบรรดากบฏที่ยอมแพ้โดยดี มีหลายคนจุดไฟคลอกตัวตาย โดยไม่อาลัยอาวรณ์ หรือแสดงความเจ็บปวด-ยอมตายยังดีกว่าตกไปเป็นเชลยปีศาจขงจื๊อ

เจิงกว๋อฝาน แม่ทัพฝ่ายราชวงศ์ชิง กล่าวว่า “กบฏที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันยากนักที่จะพบเห็น”

อาณาจักรเมืองแมนแดนสันติ 14 ปี จึงจบลงด้วยเลือดนองแผ่นดิน พร้อมยอดสังเวยชีวิตหลายสิบล้านคน

ผู้อ่านประวัติศาสตร์บางคนมีมุมชื่นชมหงซิ่วฉวน ในแง่เปิดศักราชแห่งระบอบเท่าเทียมใหม่ บ้างชื่นชมเป็นผู้เกิดก่อนกาล แต่ถ้าดูอย่างไม่อ้างวิชาการ หงซิ่วฉวน คือคนบ้าคนหนึ่งนี่เอง เป็นคนบ้าที่เคียดแค้นในระบอบขงจื๊อ และอุปโลกน์โลกใหม่ที่ตัวเองไม่ได้เข้าใจอะไรชัดเจน ได้แต่เอาคำที่เคยรู้เคยได้ยินมาตีฟูป่าวประกาศ

ชาวบ้านที่ออกมาเข้าร่วมคือปรากฏการณ์อยากปลดปล่อยความเคียดแค้นคับข้องในชีวิต เพียงใครก็ได้ที่ให้ความหวังว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นอยู่ก็พร้อมจะเข้าร่วม ในสภาพวิธีคิดและการศึกษาแค่นั้น พอเสริมเรื่องความเชื่อความศรัทธายิ่งได้ผล

ผลที่ว่าคือความแตกแยก กับกองกำลังที่ไร้ทิศทางและศรัทธาที่ไม่มีวันเป็นจริง

ราชวงศ์ชิงปราบปรามหงซิ่วฉวนลงไปได้ แต่ก็ตามมาด้วยกบฏไสยศาสตร์อีกหลายระลอก กองทัพต่างชาติเข้ารุมขย้ำ ตามมาด้วยความอ่อนแอและวุ่นวายนับร้อยปีในแผ่นดินจีน

ความเละเทะต่อมา จะโทษหงซิ่วฉวน โทษศาสนาต่างชาติ โทษชาวบ้าน โทษขงจื๊อ หรือจะโทษข้าวโพด มันฝรั่ง กับสันติสุขนับร้อยปีก่อนหน้านั้นดี

ซึ่งจะโทษอะไรดี เท่ากับจะแก้ที่ไหนดี