เจ็ตสกีท้าทายเหนือผิวน้ำ

โดย...โยโมทาโร่

หากพูดถึงการแข่งรถที่สัมผัสธรรมชาติของถนนและสภาพแวดล้อมโดยรอบมากที่สุดก็ต้องยกให้กับการแข่งมอเตอร์ไซค์ แต่ถ้าเป็นการแข่งทางน้ำแล้วเราก็ต้องยกให้กับการแข่งเจ็ตสกีที่ให้ผู้เล่นสัมผัสกับน้ำและความเร็วในแบบที่ยากจะหาได้ในกีฬาอื่น

การเล่นเจ็ตสกีเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ได้กำลังทั้งช่วงแขน ขา และลำตัว ในการบังคับและควบคุมตัวเรือให้ไปในทิศทางที่เราต้องการ ยิ่งถ้าเราใช้เครื่องยนต์แรงๆ แล้ว คนบังคับก็จะต้องแรงตามไปด้วย จึงจะสมดุลกันทั้งคนขี่และตัวเรือ โดยเจ็ตสกีนั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ แบบนั่งและแบบยืน ในการบังคับและการควบคุมนั้นแบบยืนจะยากกว่ามาก

ดังนั้น หากใครที่คิดจะเริ่มเล่นเจ็ตสกีขอแนะนำว่า ควรเริ่มจากแบบนั่งก่อนเพราะจะง่ายในการบังคับ แต่ก็ยังได้ความสนุกในการขับขี่สไตล์เจ็ตสกีอยู่

 

อุปกรณ์การเล่น

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นเจ็ตสกีนั้นก็จะมีหมวกกันน็อก ซึ่งสามารถใช้หมวกของการแข่งขันมอเตอร์ครอสได้ การเลือกหมวกที่ดีนั้นควรเลือกที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และกันน้ำ นอกจากนี้ ก็จะมีถุงมือกันลื่น รองเท้ากันลื่น เสื้อสูทสำหรับแข่ง ที่เราต้องใช้ก็เพราะว่าเพื่อกันน้ำกระเด็นมาโดนตัวหรือขาเวลาที่ใช้ความเร็วสูงๆ

นอกจากนี้ ยังต้องมีเสื้อชูชีพที่ช่วยเวลาตกน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของเราได้ แต่ถ้าเราคิดจะเล่นโดยทั่วไปแล้วละก็ ใส่ชุดแค่พร้อมสำหรับการลงน้ำและเสื้อชูชีพบวกกับความกล้าอีกหน่อย เท่านี้ก็สามารถเล่นได้แล้ว

 

เล่นง่ายกว่าที่คิด

การเล่นเจ็ตสกีนั้นง่ายมากๆ เพราะทั้งส่วนบังคับมีแค่ตัวสตาร์ทเครื่องและคันเร่งเท่านั้น โดยเริ่มต้นสตาร์ทเครื่อง บิดคันเร่ง เพื่อออกตัว เท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่ต้องมองหาเบรก เพราะเจ็ตสกีจะไม่มีเบรก แต่จะใช้ผิวน้ำเป็นตัวเบรกแทน แค่การปล่อยคันเร่งก็จะชะลอความเร็วเองอัตโนมัติ

หลังจากนั้นก็ต้องเรียนรู้ทักษะต่างๆ ด้วยตัวเองแต่โดยมากแล้วจะใช้เวลาไม่มาก ร่างกายจะค่อยๆ เรียนรู้การบังคับด้วยตัวเอง เทคนิคเวลาเลี้ยงต้องบังคับแฮนด์ไปพร้อมๆ กับการบิดคันเร่ง เพื่อบังคับให้เรือเลี้ยวไปพร้อมๆ กับการถ่ายน้ำหนัก ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเจ็ตสกีมีส่วนของท่อใบพัดและเป็นหางเสืออยู่ที่เดียวกัน เวลาเลี้ยวจึงต้องบิดคันเร่งเพื่อส่งแรงบังคับให้เรือสามารถเลี้ยวได้ ส่วนเจ็ตสกีแบบยืนหรือที่เราเรียกกันว่าแบบสปอร์ตนั้น การบังคับการเลี้ยวก็จะเหมือนๆ กับแบบนั่ง แต่จะยากตรงที่เราจะต้องสลับขาเวลาเข้าโค้งเพื่อช่วยถ่ายเทน้ำหนัก เพียงเท่านี้เราก็จะได้สัมผัสกับความมันเหนือผิวน้ำทุกที่กันแล้ว

สำหรับผู้ที่อยากจะเล่นนั้น ราคาค่าเช่าสำหรับการเล่นก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,500 บาทต่อชั่วโมง ลองเล่นกันดู ไม่แน่ว่าอาจจะติดใจ กลายเป็นเกมกีฬาสุดโปรดอย่างหนึ่งของคุณก็ได้