ค่าโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ แพงเกินไปรึเปล่ารู้บ้างไหมว่าเสียประโยชน์กันไปเท่าไรแล้ว?

ปัจจุบันสมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่ง ในไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ไปแล้วเพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนเล่นโซเชียลฯ เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม, แชทไลน์ กันทั้งนั้น

ไม่แปลกใจเลยว่ายอดการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแบบรายเดือน หรือที่เรียกว่า Postpaid ทุกวันนี้จะพุ่งสูงกระฉูดแค่ไหน แต่ก็ยังน่าสงสัยว่าทำไมและทำไมแพ็กเกจมือถือของหลายค่ายกลับไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเท่าไรนัก โดยเฉพาะในเรื่องค่าเน็ตและค่าโทร ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ใช้สมาร์โฟน เพราะหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับแพ็กเกจแบบไหน เลยใช้วิธีกะประมาณหรือเชื่อคำแนะนำของพนักงานขาย เมื่อลองใช้งานไปจริงๆ กลับพบว่าแพ็กเกจที่ไว้นั้นไม่เหมาะกับตัวเอง ไม่ค่าโทรหมดก่อนก็ค่าเน็ตหมดก่อน ทำให้ต้องมาหงุดหงิดกับเน็ตช้า หรือรอใช้งาน Wi-fi ตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ สุดท้ายทนไม่ไหวก็ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมไปอีก! เป็นแบบนี้แทบจะทุกเดือน ส่วนบางกลุ่มใช้มือถือสมาร์ทโฟน แต่เน้นโทรอย่างเดียว เน็ตที่ได้ในแพ็กเกจก็ปล่อยทิ้งให้เสียของ

ความไม่ลงตัวของการใช้งานนี้ทำให้เราเห็นกระแสผู้ใช้มือถือไปโพสต์บ่นตามกระทู้ยอดนิยมอย่าง Pantip.com หรือ เพจของเครือข่ายต่างๆ กันบ่อยๆ บ้างก็บอกว่าเสียดายเงินที่หายไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเหมือนกัน หากนับดูแล้วก็เอาไปกินอาหารหรูๆ ได้หลายมื้อ บ้างก็ว่าหลายค่ายมือถือขายแพ็กกันมาแบบเหมาจ่ายมัดมือชก จำกัดค่าโทร ค่าเน็ตอีก! แบบนี้ผู้บริโภคอย่างเราก็เลือกยาก ท้ายที่สุดก็ต้องยอมซื้อตามแพ็กเกจที่พนักงานขายแนะนำมาอยู่ดี

คงจะดีไม่น้อย ถ้าแพ็กเกจมือถือยุคนี้สามารถปลดล็อกให้ผู้ใช้สามารถดีไซน์การใช้งานระหว่างค่าเน็ตและค่าโทรได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ไม่ต้องใช้งานตามแพ็กเกจที่ซื้อมากันแบบงงๆ อีกต่อไป โดยสามารถปรับหรือสลับ ค่าโทรที่เหลือเป็นค่าเน็ตหรือเปลี่ยนค่าเน็ตเป็นค่าโทรได้ด้วยตนเอง แบบ Real Time

เช่น หากเดือนนี้ใช้เน็ตน้อยก็อาจปรับ Data ไปเป็นค่าโทรแทน หรือถ้าหากเดือนนี้คุยโทรกับเพื่อนบ่อย ก็อาจปรับ Data เน็ตเปลี่ยนมาเป็นค่าโทรเพิ่มขึ้นแทน กระเป๋าตังค์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างเราคงสบายขึ้นอีกเป็นกอง ใช่มั้ยล่ะ!!

Advertorial