“จิตติพร จันทรัช” หรือ “คิด” กรรมการผู้จัดการอายุ 41 ปี และ “วาสนา จันทรัช” หรือ “ยุ้ย” รองกรรมการผู้จัดการ อายุ 36 ปี สองพี่น้องผู้บริหาร บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหาร เช่นซอสพริก น้ำจิ้มไก่ เครื่องประกอบอาหาร เช่น กะทิและเครื่องแกงต่างๆ เพื่อการส่งออก ขยายการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังได้เงินที่ได้จากการระดมทุนและเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่เสริมกำลังการผลิตให้มีความแข็งแกร่งขึ้น
หากพูดถึงหน้าที่การงานของพี่น้องคู่นี้ เรื่องใหญ่ นโยบาย หรือตัวเลขต่างๆ ยกให้พี่ชายเป็นคนดูแล ส่วนเรื่องงานปฏิบัติการโดยเฉพาะการขยายกำลังการผลิต จะเป็นหน้าที่ของน้องสาว แต่หากไม่ได้อยู่บนหน้าที่หรือความรับผิดชอบในงาน ต้องถือได้ว่า “คิด & ยุ้ย” เป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันมากและรักกันมาก แถมพี่ชายจะมีการหยิกแกมหยอกน้องสาวคนนี้ให้ได้เห็นตลอด ถือว่าเป็นบรรยากาศที่น่ารักไม่น้อย
ยุ้ยเป็นผู้หญิงเก่ง
จิตติพร จันทรัช : ถือว่าเราเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากเพราะห่างกันเพียง 5 ปีครึ่ง แม้จะเรียนกันคนละโรงเรียนกัน ต่างคนจะช่วยกันปกปิดเรื่องของอีกคน คือเขาจะเป็นน้องที่คอยช่วยเหลือผมเรียกว่าทุกเรื่องจริงๆ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น หรือมหาวิทยาลัย ผมมีอะไรเรียกว่าจะบอกเขาทุกอย่างปัญหาส่วนตัว เวลาไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ เมื่อก่อนยุ้ยมารับหน่อย หรือแม้กระทั่งตอนจีบภรรยา บอกยุ้ยช่วยพี่หน่อย เขาก็จะแนะนำโน่นนี่ให้ หรือแม้กระทั่งเวลาปลอบใจ
ปกติผมจะชอบหยอกน้องแต่ว่าถือว่าตัวผมโชคดีมาก เพราะถือว่าเขาช่วยผมได้เยอะมากในการบริหารงานและดูแลบริษัท เพราะผมจะเป็นคนที่ติดครอบครัว ทำงานที่ไหนก็ได้แต่ส่วนใหญ่จะทำงานที่บ้าน มีเวลาอย่างน้อยที่ต้องรอส่งหรือรับลูกกลับบ้าน แต่นั่นเป็นเพราะผมมีเครื่องมือที่สามารถดูหน้าจอที่ไหนก็ได้
“ยุ้ยช่วยผมทำงานได้มาก หากมองเข้าจริงๆเขาถือเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่ง เรียนก็เก่ง ทำงานก็เก่ง เป็นระเบียบ มีความละเอียด และก็ลุยเต็มที่ถ้าเป็นเรื่องงาน เพราะอย่างงานที่เขารับผิดชอบหลักคือการขยายกำลังการผลิตสร้างโรงงานแห่งนี้ เขาลุยจริงๆ ท่ามกลางแดดร้อนอย่างไรพานักวิเคราะห์เดินตะลุยไป เขาไม่บ่นเลย”
เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องงาน ปกติของคนทำงานร่วมกัน หรือปกติของคนเป็นพี่น้องกันที่มีการแกล้งและหยอกล้อกันเสมอการปรึกษาเรื่องงานของเราจะไม่ซีเรียสหรือต้องเป็นทางการกันมาก เวลาไหนคุยได้หมด มีอะไรก็พร้อมคุยกันตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เราสองคนจะรู้กันคือเมื่อต่างแสดงความคิดเห็นอะไรกัน เราจะหารือเราพูดกันอย่างมีเหตุผล ยกกันมาเต็มที่และเราจะรู้กันเองว่า ประเด็นที่ยกมานั้นเหตุผลใครมีน้ำหนักหรือมีความเป็นไปได้มากที่สุด ก็จะตกลงตามนั้น เพราะสุดท้ายที่มาของความคิดเห็นอาจต่างกันหรือคล้ายกัน มันจากเหตุผลเดียวกันนั้นคือ ต่างคนก็ต้องการให้งานมันดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ตอนนี้ผมไม่ห่วงอะไรเขานะ เพราะเขาเป็นผู้หญิงเก่งจริงๆ ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย ทุกอย่างเขาสามารถแก้ไขหรือเอาตัวรอดได้ และที่สำคัญเป็นคนที่มีความตั้งใจมากเวลาจะทำอะไรสักอย่าง ผมเชื่อนะว่าถ้าเอายุ้ยไปปล่อยเกาะไว้ 24 ชั่วโมง เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย ผู้หญิงคนนี้เก่งที่สุด ยิ่งเขาเก่งเท่าไร ผมก็ยิ่งมีเวลาและโล่งใจ เวลาที่ผมต้องพาลูกและภรรยาไปเที่ยวประจำปี เพราะผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ปรึกษาพี่ได้ทุกเรื่อง
วาสนา จันทรัช : จำความได้ตั้งแต่เด็กมาพี่คิดก็จะชอบแกล้งชอบยั่วโมโหเรา ให้เราโกรธเขาบอกว่ายุ้ยโมโหแล้วสนุกดี โตมาก็ใช่ว่าจะหยุด แกล้งตลอดจริงๆ เด็กๆ ชอบนำเล่นอะไรแรงๆ ออกแนวผจญภัย สงสัยคิดว่าเราเป็นเด็กผู้ชาย เขาจะสอนและนำเราทำทุกอย่างเลย ปีนป่ายตีลังกา แต่ก็ทำให้เราสนิทกันมากก็เพราะมีกันอยู่สองพี่น้องนี่แหละ
มีอะไรก็ปรึกษากันทุกเรื่อง ช่วงวัยรุ่นหรือหนุ่มๆ เขาก็จะปรึกษาเรานะอย่างเวลาจะจีบสาว หรือตีสองมาบอกหิวข้าวก็จะมาปลุกเราช่วยหาของกินให้หน่อย บางครั้งเขาไปข้างนอกบ้านดึกๆ มีอุบัติเหตุรถชนกันก็จะโทรมาแล้ว ยุ้ยมารับพี่หน่อยพี่อยู่ตรงนี้นะ
หรือยุ้ยเองพอมีอะไรก็จะโทรหาเขาได้ตลอด ปรึกษาได้ทุกเรื่องจริงๆ นะ แต่จะช่วยได้ทุกเรื่องหรือเปล่าไม่รู้ ข้อดีการมีเขาคือเขาผ่านและมีประสบการณ์ก่อนเราหลายครั้งก็จะได้เขาช่วยตัดสินใจในหลายๆ เรื่อง หรือมุมกลับกันเขามีประสบการณ์มาก่อนเราเขาก็คงเป็นห่วงเราในหลายๆ เรื่องที่เราค่อยๆ เติบโตขึ้น
“หลายคำพูดของเขาก็ช่วยเราตัดสินใจได้หลายเรื่องนะแม้วิธีการพูดของพี่คิดแบบจะกวนๆ แต่เรารู้ว่ามันแฝงอะไรไว้หลาย พอเราต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนเมืองนอก ก็ทำให้รู้นะว่าเราก็ยังต้องการปรึกษาเขาอยู่ เหมือนมีกันแค่นี้เอง ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะตั้งแต่เด็กจนโต สองคนพี่น้องก็ต้องดูแลกันไป”
ส่วนเวลาทำงานก็ถือว่าไม่มีปัญหานะ เพราะเราต่างรู้ว่าเราถนัดอะไรกัน อย่างยุ้ยต้องดูแลเรื่องโรงงานใหม่และการปรับปรุงระบบสารสนเทศในบริษัท พี่คิดถนัดอะไรก็ปล่อยให้เขาดูไป เรื่องตัวเลข เรื่องการคำนวณ เรื่องนโยบายคนนี้เขาจะเป๊ะมาก ส่วนเรื่องการติดต่อลูกค้าหรือขยายตลาดใหม่ๆก็แบ่งโซนกันหรือช่วยๆ กันมากกว่า
แต่เอาเข้าจริงถ้าอีกคนไม่อยู่ไปต่างประเทศ อีกคนก็สามารถทำแทนกันได้ เพราะปกติเราเน้นการสื่อสารที่ไหนกันก็ได้ ขอเพียงต้องเรียลไทม์ แก้ไขปัญหาหรือดูแลลูกค้า หรือบางวันโทรคุยกันเรื่องงานวันละ 6-7 รอบก็มี
ถ้าพูดถึงพี่คิด ไม่ห่วงอะไรเขาเลย เพราะเขาเป็นคนที่มีการบริหารจัดการและมีการวางแผนที่เก่งมาก แถมเป็นคนละเอียดรอบคอบด้วย ไม่รู้จักพูดอะไรมากกว่านี้แล้วแม้ตอนนี้ต่างคนต่างมีครอบครัวของตัวเองกันแล้ว ก็ยังต้องดูแลกันต่อไปอย่างนี้แหละเพราะมีกันอยู่แค่นี้ เราก็ต้องโดนเขาหยอกเขาแกล้งต่อไป
ถือเป็นพี่น้องผู้บริหารที่น่ารักมากอีกหนึ่งคู่ เพราะระหว่างการสัมภาษณ์บรรยากาศมีความเป็นกันเองมาก และเชื่อว่าทุกคำหยอกล้อ ทุกคำแซวนี้ คือสีสันของความรักที่สองพี่น้องคนนี้มีให้กันมากจริงๆ