posttoday

'คนรู้จักฉันในสิ่งที่ฉันทำ' บริกิต โมรทิล ศิลปินบอดี้เพนต์

28 ธันวาคม 2557

เพราะศิลปะทำให้เธอได้เดินทาง และเพราะศิลปะทำให้เราได้มีโอกาสได้พบกับ “บริกิต โมรทิล”

เพราะศิลปะทำให้เธอได้เดินทาง และเพราะศิลปะทำให้เราได้มีโอกาสได้พบกับ “บริกิต โมรทิล” (Birgit Moertl) ศิลปินบอดี้เพนต์ชาวออสเตรียฝีมือระดับแชมป์โลกเจ้าของตำแหน่ง “World Champion in Special Effect Painting” 2 ปีซ้อน เธอได้มีโอกาสมาเมืองไทยเพื่อสร้างสรรค์ศิลปะบนเรือนร่างของนางเอก “เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” ในคอนเซปต์ “World of Beauty” เป็นหนึ่งในไฮไลต์สำหรับการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 9 ปี ศูนย์การค้าสยาม พารากอน

 ผู้หญิงคนนี้ชื่นชอบงานศิลปะมาตั้งแต่จำความได้ เพราะเกิดในครอบครัวศิลปิน คุณพ่อเป็นนักทำตุ๊กตา ตั้งแต่เด็กเธอก็มีประสบการณ์กับการใช้เครื่องมือออกแบบสร้างสิ่งต่างๆ ซึ่งดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ติดตัวมาอยู่แล้วบวกกับพรแสวงที่เธอบอกว่า สนุก มีความคิดทุกครั้งที่ได้ลงมือทำงานใหม่ๆ นั่นหมายถึงเธอจะได้คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นบนโลกนี้

'คนรู้จักฉันในสิ่งที่ฉันทำ' บริกิต โมรทิล ศิลปินบอดี้เพนต์

 

 บริกิตเคยศึกษาด้านการออกแบบเสื้อผ้าการละคร ทำให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมถึงเทคนิคการสร้างหน้ากากและเครื่องประดับอื่นๆ ร่วมด้วย เมื่อเธอได้ก้าวสู่โลกศิลปะอีกแขนง นั่นคือ “บอดี้เพนต์” จึงนำทุกอย่างมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

“ในการทำงานมีทั้งคิดคอนเซปต์เองและมีคอนเซปต์จากทางเจ้าของงาน แต่ในรายละเอียดเราต้องเป็นคนคิดเองหมด ส่วนใหญ่จะดูบริบทของงานเขา งานจ้างกับงานแข่งขันก็ทำไม่เหมือนกัน อย่างการแข่งขันมีเวลาเตรียมตัว 3-4 เดือน การแข่งขันมี 2 วันต้องเตรียมตัวให้ดีจะใช้อะไรเป็นธีมหลัก และไม่ทำงานเฉพาะกับตัวนางแบบแต่จะให้ความสำคัญกับฉากหลังองค์ประกอบอื่นๆ ด้วยทุกอย่างจะถูกดีไซน์ไว้หมด เพราะเรียนและทำงานด้านละครเวทีมาก่อน เวลาส่งประกวดก็คือทั้งหมดให้ความสำคัญกับแบ็กกราวด์ทั้งหมดให้เป็นหนึ่งชิ้นงาน”

'คนรู้จักฉันในสิ่งที่ฉันทำ' บริกิต โมรทิล ศิลปินบอดี้เพนต์

 

 บริกิตกวาดรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย ไม่ว่าการคว้าแชมป์โลก “World Body Painting Special Effect” ถึง 2 ครั้ง จากการประกวด “World Body Painting Festival” ในปี 2004 และ 2011  ซึ่งถือเป็นการประกวดที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของวงการศิลปะบอดี้เพนต์ที่มีศิลปินจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน และยังกวาดรางวัลรองชนะเลิศจากเวทีนี้มาอีกถึง 3 รางวัล นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดระดับชาติอย่าง “Traismauer Body Painting Competition”  ในปี 2005 และ  “Austrian Body Painting Championship” ในปี 1999  อีกด้วย ส่งให้ชื่อชั้นบริกิตถูกจัดให้เป็นหนึ่งในศิลปินบอดี้เพนต์ระดับแนวหน้าของโลก โดยเฉพาะแนวสเปเชียล เอฟเฟกต์  แต่เธอก็ยังไม่หยุดที่จะแข่งขัน เพราะเธอเชื่อว่าการแข่งขันได้มากกว่ารางวัล

 “ฉันเคยได้อันดับต่ำสุดจากการแข่งขันคือที่ 5 ไม่กังวลว่าจะต้องได้แชมป์เท่านั้น การแข่งขันมีหลายอย่าง แอร์บลัช สเปเชียล เอฟเฟกต์ อินสตอลเลชั่นอาร์ต ทำให้งานของฉันไม่หยุดอยู่กับที่ ทุกครั้งที่ทำได้เกิดการสร้างสรรค์และการเรียนรู้ อาชีพนักบอดี้เพนต์ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นความหลงใหล (Passion) ทำแล้วมันเติมชีวิต มันคือหน้าที่ในชีวิต ฉันมีโอกาสได้มาเมืองไทยก็เพราะงานที่ฉันทำ ได้ไปประเทศอื่นๆ เพราะคนรู้จักฉันจากสิ่งที่ฉันมีการแข่งขันฉันก็คิดว่าจะประกวดไปเรื่อยๆ เพราะเป็นงานที่ฉันทำยิ่งมีความสุข มันคือความสุขที่มาจากใจ”

 เหตุผลที่บริกิตหลงใหลศิลปะบอดี้เพนต์ เพราะเธอได้เนรมิตงานศิลปะที่คาดเดาปลายทางได้ยากบนพื้นที่ทำงานมีชีวิต ทำให้ศิลปะของเธอมีชีวิต

'คนรู้จักฉันในสิ่งที่ฉันทำ' บริกิต โมรทิล ศิลปินบอดี้เพนต์

 

 “ในปี 1999 ฉันได้ทำงานบอดี้เพนต์ หลังจากนั้นฉันก็แทบไม่ได้ทำงานอื่นเลย ฉันหลงใหลไปกับมัน เพราะการทำงานบนตัวคนนั้นเป็นศิลปะ 3 มิติ คนรูปร่างต่างกันก็ให้งานที่ต่างกัน แต่ฉันชอบทำงานบนเรือนร่างผู้หญิงมากกว่า เพราะผู้หญิงมีส่วนเว้าโค้งที่สวยงามให้มุมมองที่แตกต่างและสร้างงานที่ท้าทายได้ เสน่ห์ของบอดี้เพนต์คือศิลปะเคลื่อนไหวได้ แม้ว่าสุดท้ายต้องล้างออกแต่ก็สามารถถ่ายรูปเก็บเป็นภาพถ่ายได้ เป็นศิลปะที่มีชีวิต ทำงานศิลปะ 3 มิติ บนพื้นที่ 3 มิติ เป็นการทำงานบนเรือนร่าง ดึงทุกส่วนมาใช้ และในส่วนต่างๆ ของร่างกายก็สร้างงานและให้มุมมองการดูที่แตกต่างกัน หันซ้ายเห็นอีกอย่างหันขวาเห็นอีกอย่าง เคลื่อนไหวตัวก็เห็นงานอีกมุม แม้กระทั่งคนอ้วนผอมก็ยังใช้เทคนิคที่ต่างกัน ทำงานบอดี้เพนต์ต้องมีความคิดสร้างสรรค์สูง ภาพที่อยากวาดในหัวต้องเป็นสามมิติ ต้องประยุกต์สูง เหมือนเอาการละครเข้าไปด้วยแต่ละงานไม่ตายตัว”

 สำหรับงานบอดี้เพนต์ที่บริกิตบินตรงมาจากกรุงเวียนนา มาสร้างสรรค์บนเรือนร่างนางเอกของไทย เธอเล่าว่าคอนเซปต์เป็นการเฉลิมฉลอง 9 ปี สยามพารากอน เบื้องต้นทางเจ้าของงานได้ส่งโปสเตอร์มาให้ดูก่อน จึงเกิดไอเดียผู้หญิงสีน้ำเงินมีเครื่องเพชรสีเงิน ใส่เลข 9 ให้ซ่อนอยู่บนตัวนางแบบดูโค้งๆ และโทนสีน้ำเงิน ฟ้า เงิน ก็เป็นสีวินเทอร์ เหมาะกับเทศกาลฉลองด้วย