posttoday

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

02 ธันวาคม 2557

ยุคที่ข่าวสารแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว ทั้งแบบปากต่อปาก เขาว่ามา หรือผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ

โดย...ชมดาว

ยุคที่ข่าวสารแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว ทั้งแบบปากต่อปาก เขาว่ามา หรือผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ ที่ไหลไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่มีเวลาจะกลั่นกรองว่าอะไรจริงอะไรชวนเชื่อ เป็นความเชื่อที่เข้าใจกันผิดๆ ก็มี ดีจริงบ้างไม่จริงบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องอาหารเสริม และสารพัดวิธีดูแลสุขภาพ แล้วแค่ไหนจึงจะพอดี ไม่มากไปน้อยไปจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือเป็นการเสียเงินไปฟรีๆ โดยที่ไม่ได้อะไร

คลอโรฟิลดีจริงหรือโม้

กระแสการดื่มคลอโรฟิลเป็นที่ฮิตมาก ทั้งเป็นผง เป็นน้ำ แบบเม็ด ว่ากันว่ากินแล้วเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย ขับถ่ายสะดวก ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชำระล้างพิษออกจากร่างกาย ป้องกันโรคร้ายได้ด้วย ถึงขั้นโฆษณาว่าชงให้เด็กทารกดื่มผสมไปกับนมจะทำให้ทารกตัวใหญ่แข็งแรง ร้อนถึงวงการกุมารแพทย์ต้องออกมาชี้แจงให้ข้อมูลตามหลักการแพทย์ที่มีงานวิจัยออกมายืนยัน ด้วยความห่วงใยกับเด็กน้อยแรกเกิดพญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด โรงพยาบาลบีเอ็นเอช  กล่าวด้วยความห่วงใยว่า คลอโรฟิลจดทะเบียนเป็นอาหารเสริม ไม่มีผลในการรักษาโรค ไม่มีงานวิจัยใดๆ ในการรองรับ ไม่รู้แน่ชัดว่ามีส่วนผสมอะไร มีสรรพคุณดีจริงไหม

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

คลอโรฟิล คือ อัลฟาฟ่า หรือธัญพืชที่ผสมด้วยสาหร่าย ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ใส่สีเขียวลงไป มีการใส่สีสังเคราะห์ ตัวคลอโรฟิลไม่ใช่เส้นใยธรรมชาติ เมื่อกินเข้าไปมันจึงไม่ได้ไปเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ให้ถ่ายได้ง่ายขึ้น มันไม่มีเส้นใย เมื่ออยู่ในลำไส้ใหญ่ก็ไม่ได้ช่วยดูดซับสารพิษเพื่อให้ขับถ่ายออกจากร่างกายได้เลย

 

เหตุผลเดียวกับกลไกการล้างพิษที่ไม่เป็นจริง และจากการศึกษาการวิจัยต่างๆ ยังไม่พบรายงานที่เชื่อถือได้ว่าสารนี้ที่อยู่ในรูปยากินหรือชาชงดื่มจะช่วยให้ล้างพิษทำให้หน้าใสแต่อย่างใด  สรุปคือไม่พบบทวิจัยใดๆ ที่จะมายืนยันว่าการกินคลอโรฟิลจะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างใด ถ้าอยากจะเสียเงินเพื่อสุขภาพ นำเงินไปซื้อผักผลไม้ที่มีสีเขียวเพื่อให้ร่างกายได้รับคลอโรฟิลธรรมชาติแท้ไปไม่ดีกว่าหรือ ที่จริงดื่มน้ำบัวบกยังได้ประโยชน์มากกว่า คลอโรฟิลแทบจะไม่ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายเลยในราคากล่องละเกือบพันบาท ซื้อผักผลไม้สดมาคั้นดื่ม หรือกินผลไม้สดยังได้ประโยชน์

เราสามารถได้รับสารคลอโรฟิลจากพืชทั่วๆ ไป การรับประทานผักผลไม้ที่มีสีเขียวจะช่วยให้ร่างกายได้รับคลอโรฟิลไปด้วย โดยสารคลอโรฟิลที่อยู่ในรูปธรรมชาตินี้จะอยู่ในรูปคลอโรฟิลที่ละลายในน้ำมัน เช่น ผักชีฝรั่ง 1 ถ้วย มีคลอโรฟิลสูงถึง 38 มิลลิกรัม ผักโขม 1 ถ้วย มีคลอโรฟิล 23.7 มิลลิกรัม หากรับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ ร่างกายก็ไม่จำเป็นจะต้องได้รับคลอโรฟิลเพิ่ม ถ้าดื่มมากไปอาจทำให้ท้องเสียได้

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

 

แต่ที่ห่วงที่สุดคือโฆษณาว่าเด็กทารกดื่มได้ นี่อันตรายเพราะเด็กแรกเกิดจนถึง 6 เดือน ไม่มีอะไรจำเป็นเท่านมแม่ และนมแม่ให้ประโยชน์มากเพียงพอ ลำไส้ของทารกออกแบบมาเพื่อรับของเหลวที่เป็นโปรตีนจากนมแม่เท่านั้น เขาไม่มีภูมิต้านทานมากเพียงพอ การเอาของอื่นไปผสมให้รับประทานจะทำให้ลำไส้เด็กอุดตันและติดเชื้อในลำไส้ได้ ถ้าติดเชื้อจนลำไส้ทะลุอาจถึงชีวิตเด็กได้ หมอเด็กจึงออกมาชี้แจงด้วยความวิตก

“ช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือนแรก ถ้าไม่จำเป็นหมอยังไม่แนะนำนมผงเลย อยากให้กินนมแม่เพียวๆ ซึ่งแม่สามารถให้นมได้จนถึง 2-3 ขวบ เพียงแต่พอเกือบขวบไปแล้วนมแม่อาจจะน้อยหรือไหลไม่ทันใจเด็ก เขาเลยงอแงดื่มไม่ทันใจ แม่ก็เข้าใจผิดว่าลูกไม่ชอบดื่มนมแม่ชอบนมขวดมากกว่า ถ้าให้นมบ่อยๆ กระตุ้นให้มีน้ำนมไหลมากพอ เด็กเขาชอบ เพียงแต่กินจุนมแม่ไหลไม่ทันใจ จึงอยากฝากคุณแม่พยายามให้นมจากเต้าให้นานที่สุด ถ้าต้องทำงานก็คั้นใส่ขวดแช่ช่องแข็งไว้ ถ้าแม่ยังมีน้ำนมมากพอให้เขากินจนถึง 3 ขวบก็ยังได้เลย” พญ.สุธีรา กล่าว

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

 

ล้างพิษตับ ลึกเกินจะล้าง

รศ.นพ.พูลชัย จรัสเจริญวิทยา สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า การไปล้างพิษตับเขาจะให้อดอาหารแล้วดื่มน้ำมันมะกอกถึง 150 ซีซี น้ำดีเกลือ น้ำแอปเปิ้ล น้ำมะนาว ซึ่งน้ำนี้มีผลในการกระตุ้นลำไส้ให้บีบตัว ดื่มเข้าไปแค่พักเดียว ยังไม่ทันดูดซึมก็ระบายออกมา ซึ่งก็ระบายน้ำที่ดื่มเข้าไปนั่นเอง ไม่ได้เอาของเก่าออกเลย ส่วนที่ถ่ายออกมาเป็นเมือกเป็นเม็ดแล้วเข้าใจว่าเป็นก้อนนิ่วก็ไม่ใช่ ว่าที่นิ่วจะหลุดจากท่อน้ำดีหลุดมาสู่ลำไส้ใหญ่ไม่ใช่ง่ายๆ สิ่งที่ออกมาคือสิ่งตกค้างที่ติดค้างอยู่ตามลำไส้ใหญ่นั่นเอง ซึ่งมันหลุดมาจากการกระตุ้นลำไส้จากน้ำที่เราดื่มเข้าไปในปริมาณที่มากกว่าปกติที่ร่างกายต้องการ

“นิ่วจริงจะมีความหนัก จะไม่ลอยน้ำ นิ่วต้องจมน้ำ แต่ที่มองเห็นกันมันลอยน้ำอยู่ ซึ่งมักเป็นสิ่งตกค้างปกติที่เราถ่ายออกมาทุกวัน แต่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยมาพิจารณาอุจจาระของเราโดยละเอียด จึงไม่เคยสังเกตเห็น แม้ทางแพทย์เองจะล้างพิษตับโดยใช้เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย นิ่วยังไม่ออกมาง่ายๆ เลย

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

 

การดื่มน้ำที่มีความเปรี้ยวสูงภายใน 1 วัน นิ่วไม่ออกมาง่ายๆ เช่นนั้น ส่วนการรู้สึกเบาสบายตัวเป็นเพราะก่อนล้างพิษให้ดื่มแต่น้ำ แล้วถ่ายออกมาเป็นน้ำ แน่นอนว่า มันจึงรู้สึกโล่งสบายตัว น้ำหนักลง แต่หลังจากนั้นไปกินอาหารตามปกติทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม” หมอพูลชัยว่า

สิ่งที่ได้คือการได้ล้างลำไส้ธรรมดา ไม่ใช่ล้างพิษตับ การไปกระตุ้นรบกวนร่างกายมากเกินไปไม่ใช่สิ่งที่ดี หากร่างกายอ่อนเพลีย เป็นโรคลำไส้อุดตัน เป็นริดสีดวงทวารอยู่ก็อาจจะเกิดอันตรายได้ ถ้าอยากสุขภาพดี กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้สด ปลา ออกกำลังกาย เท่านั้นก็พอ ที่มีผักผลไม้อัดเม็ดมาในปริมาณสูงเพื่อป้องกันมะเร็ง ทางการแพทย์ก็ไม่มีงานวิจัยยืนยัน อะไรที่กินมากเกินไปก็จะไปเป็นภาระกับตับไตทำงานหนักให้ร่างกายต้องขับออก สายกลางพอดีๆ นั่นดีที่สุด

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

 

อาหารเสริม-ดาบสองคม

ยุคที่คนหันมาใส่ใจกับสุขภาพ อาหารเสริมคือตัวช่วยแรกที่นึกถึง คนมักคิดว่าเสียเงินแพงแล้วต้องดี แต่มักจะเพิกเฉยกับการดูแลสุขภาพให้ดีโดยที่ไม่ต้องเสียเงิน เช่น การออกกำลังกายให้เยอะขึ้น นอนให้มากขึ้น ทำอาหารกินเองให้มากขึ้น เลือกกินให้มากขึ้น โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วย

ผศ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า อาหารเสริมถามว่ามีประโยชน์ไหม มีข้อเสียหรือเปล่า ถ้าเป็นหนุ่มสาวร่างกายแข็งแรงดี อาหารเสริมไม่มีความจำเป็น ทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น การกินวิตามินอีมากเกินไปมีความเสี่ยงต่อเส้นเลือดในสมองแตก  วิตามินเอไม่ดีกับคนเป็นโรคไต เป็นพิษกับไต จะทำให้ผู้ป่วยปวดหัว เซื่องซึม และอาจจะทำให้ตับอักเสบได้ วิตามินซีหากกินมากกว่าวันละ 2,000 มิลลิกรัม เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วที่ไต ระคายกระเพาะ

วิตามินมี 2 ชนิด คือ แบบละลายน้ำ คือกลุ่มวิตามิน B กับ C ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ปลอดภัย เมื่อกินมากไปร่างกายจะขับออกมาได้หมด แนะนำให้กินในกลุ่มนี้ได้ ส่วนแบบละลายในไขมัน คือกลุ่มวิตามิน A/D/E/K แพทย์มักไม่แนะนำให้ซื้อกินเอง

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ

 

คุณหมอบอกว่า วิตามิน A มีอยู่ในผักผลไม้สีเหลือง ส้ม แดง เครื่องในตับ เพียงพอแล้ว หากมากไปไม่ดี จะไปสะสมที่ตับ ส่วนวิตามิน D แค่โดนแดดจัดวันละ 10 นาทีก็ได้ครบ ไม่แนะนำให้กินในรูปอาหารเสริมเกินจำเป็นกับร่างกาย ส่วนวิตามิน E ก็อยู่ในพวกธัญพืช ถั่ว งา  น้ำมันพืช ที่ว่าต้านอนุมูลอิสระดีกับหัวใจหรือมะเร็งนั้น ก็ไม่เคยมีงานวิจัยใดรองรับเลย ส่วนวิตามิน K ร่างกายสร้างเองได้ในลำไส้ใหญ่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกินเสริมเข้าไปอีก

“เรามักจะคิดว่าได้ อย.แล้วสบายใจได้ การผ่าน อย.เขาดูว่าส่วนประกอบนั้นเป็นโทษกับร่างกายหรือไม่ ถ้าไม่ก็ผ่าน โรงงานสะอาดปลอดภัยในการผลิตไหม มีสารปนเปื้อนไหม ถ้าใช่ก็ผ่าน อย.ได้แล้ว เขาดู 2 อย่างหลักๆ เท่านั้น ส่วนให้ประโยชน์กับร่างกายจริงไหมนั้นเขาไม่ได้ดู ถ้าจะเลือกซื้อเพียงเพราะผ่าน อย.ก็ยังไม่พอค่ะ”

คุณหมอดรุณีวัลย์แนะว่า ไม่มีอาหารเสริมใดมีประโยชน์เป็นแก้วสารพัดนึกสำเร็จรูป แค่อาหารแคปซูล 3-4 เม็ดแล้วช่วยได้หมด ไม่มีจริง อย่ายอมจ่ายเงินกับของแพงแล้วคิดว่าดีเลย เราหาข้ออ้างในการมีสุขภาพดีแบบสำเร็จรูปมากเกินไป ของดีไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพงๆ แต่หันมาให้เวลากับร่างกายของเรา ได้มีเวลาทำอาหารกินเอง หาวัตถุดิบที่ใหม่สดสะอาดมาทำเอง ออกกำลังบ่อยขึ้น นอนเยอะขึ้น กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้สดให้มากๆ ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ความจริงเรื่องสุขภาพ ดีจริงหรือแค่เรื่องชวนเชื่อ