หนาวแล้ว...ระวังปอด

ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์เรื่อยมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) เริ่มรับรู้ได้ถึงลมหนาวกันบ้างแล้ว  บางคนอาจสนุกสนานรื่นเริงอารมณ์ดี แต่บางคนอาจเริ่มไม่สบายเนื้อสบายตัว รู้สึกว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น

เป็นเพราะเมื่ออากาศเย็นลง ความชื้นในอากาศก็เพิ่มสูง การแพร่กระจายของเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรีย ที่แฝงมากับอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็มากขึ้น

เริ่มตั้งแต่กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุและเด็กเล็กซึ่งปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ได้ สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือการป่วยเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่

สัญญาณของโรคสังเกตได้ไม่ยาก เริ่มแรกจะครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อไอ จาม น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ... หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ต้องรีบพบแพทย์ทันที

สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 เดือน จะมีอาการไม่ดื่มน้ำ นม มีไข้สูง หายใจหอบ ปากและเล็บมือเท้าเขียว และกระสับกระส่าย ถ้าอาการเข้าข่ายเช่นนี้เมื่อใด ต้องรีบไปพบแพทย์เช่นกัน

อีกโรคที่มักจะเกิดในฤดูหนาวก็คือ โรคปอดบวม ซึ่งหากดูตัวเลขจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทย จะเห็นได้ว่าค่อนข้างน่าวิตก กล่าวคือ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2557 จนถึง 2 พ.ย. 2557 มีผู้ป่วยแล้ว 1.65 แสนคน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 772 คน โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประเมินว่าตัวเลขสิ้นปีอาจพุ่งทะลุ 2 แสนคน

โรคปอดบวมเป็นโรคติดเชื้อระบบหายใจชนิดรุนแรง เกิดได้ทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส อาการเริ่มต้นของโรค ได้แก่ มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ หลังจากนั้นจะเริ่มหายใจเหนื่อยหอบ หายใจเร็วและลำบาก อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีการหนาวสั่น ซึม อาจมีอาเจียนร่วมด้วย เชื้อนี้จะอยู่ในเสมหะ น้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วย และติดต่อกันทางไอ จาม

หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน และมีไข้สูงขึ้น น้ำมูกเปลี่ยนสีจากปกติสีเหลืองใสเป็นสีเขียวข้น ไอเจ็บหน้าอกในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็กเล็ก ขอให้ผู้ปกครองสังเกตอาการ หากเด็กซึมลง ไม่กินน้ำไม่กินนม ไข้สูง ไอ หายใจลำบาก หายใจหอบเร็วหรือหายใจจนซี่โครงบุ๋ม หรือมีเสียงดังวี้ด ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคปอดบวม ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาโดยเร็วและทันท่วงที

โรคที่ต้องเฝ้าระวังต่อมาก็คือ โรคปอดชื้น หรือปอดอักเสบเช่นกันอีก ก็คือพบมากในเด็กและผู้สูงอายุ โดยโรคนี้เกิดได้ทุกฤดูกาล มีระยะฟักตัว 1-3 วัน อาจนานถึง 7 สัปดาห์ในบางราย

อาการของโรคปอดชื้น ปอดอักเสบนั้น จะเริ่มจากการมีไข้สูง ตัวร้อนจัด ร่วมกับอาการหายใจหอบคล้ายคนเป็นไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการหนาวสั่นเจ็บบริเวณหน้าอก และอาจมีโรคแทรกซ้อนได้ถ้าหนักมากๆ อาจถึงขั้นมีน้ำในช่องปอด มีหนองในปอด ร่วมกับการอุดตันของหลอดลม ปอดชื้นเป็นโรคหนัก รุนแรงเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

ดังนั้น หากพบว่าตัวเองนั้นเริ่มมีอาการเป็นไข้สูง ไอ เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน

ปกติแล้วร่างกายจะมีความต้านทานโรคในระดับหนึ่ง แต่หากอยู่ในสภาวะที่ร่างกายเปียกชื้น หนาว อ่อนเพลีย และดื่มสุรา สูบบุหรี่จัดติดต่อกัน พักผ่อนน้อย ความต้านทานโรคก็จะลดลงไป

นอกจากโรคเหล่านี้แล้ว ที่ต้องระวังอีกก็คือโรคหัด สุกใส โรคมือ เท้า ปาก และอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก