posttoday

เปิดสตูดิโอฮอตทีวี ของคนที่ถูกเรียกว่า ‘บ้า’ ชื่อลีน่าจัง

13 กันยายน 2557

จากนักธุรกิจขายเสื้อผ้าสู่นักการเมืองโนเนม ผู้ลงสมัครแทบทุกครั้ง ทุกสนาม

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

จากนักธุรกิจขายเสื้อผ้าสู่นักการเมืองโนเนม ผู้ลงสมัครแทบทุกครั้ง ทุกสนาม และกลายเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ “พูดคนเดียว” 24 ชั่วโมง พ่วงด้วยอาชีพขายเครื่องสำอาง ครีมหน้าเด้ง นมเด้ง ชีวิตของ “ลีน่า จังจรรจา” หรือลีน่าจัง ดูจะผิดแผกแหวกแนวจากคนทั่วไปอยู่มากโข และด้วยบุคลิกเสียงดัง โวยวาย จนหลายคนมองว่าเธอเป็น “คนบ้า”

แน่นอน คนที่มีอาชีพเป็นทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ ทนายความ และสื่อมวลชน ย่อมมีชีวิตที่น่าสนใจ คลิปล่าสุดที่ลีน่าจังอัดเทปขณะเล่น Ice Bucket หรือเอาน้ำผสมน้ำแข็งราดตัวนั้น กลายเป็นคลิป Ice Bucket ที่คนดูมากที่สุดในประเทศถึง 3 แสนวิว แม้หลายคนจะค่อนขอดเธอว่าทำเพราะ “อยากดัง” ก็ตาม

เรามีนัดเยี่ยมพื้นที่ส่วนตัวของลีน่าจังบนชั้น 3 ของอินทราสแควร์ หลังโรงแรมอินทรา ประตูน้ำ ซึ่งถูกเนรมิตให้เป็นสตูดิโอของทีวีดาวเทียม 24 ชั่วโมง ที่ทำขึ้นแบบง่ายๆ มีทีมงานเพียง 1 คน คอยบริหารจัดการสถานีโทรทัศน์ แม้วันนี้จะถูกคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปิดอย่างถาวร แต่สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ก็ยังออกอากาศในรูปแบบ “คลิปวิดีโอ” ผ่านเว็บไซต์ยูทูป ซึ่งแม้คนดูแต่ละคลิปมากบ้าง น้อยบ้าง แต่ส่วนใหญ่ ลีน่าจัง ก็ยังมีความสุขกับการทำคลิปวิดีโอ สื่อสารด้านเดียว กับคนดูอยู่ดี

“ก่อนหน้านี้ เราลงทุนไป 25 ล้าน เช่าสัญญาณเสียเงินให้ กสทช. กับบริหารสถานี เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท ถามว่าได้อะไร ก็มีความสุขกับการได้ช่วยเหลือด้านกฎหมายให้คนดู ส่วนผลตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ก็มาจากการขายเครื่องสำอางผ่านรายการและการรับบริจาค ช่วงที่เรามีคนดูเยอะๆ เราได้ค่าบริจาคมากถึงหลักแสนบาท” ลีน่าจัง เล่าให้ฟัง

น่าแปลกว่าถึงแม้จะออกอากาศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่ลีน่าจังมีทีมงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายเทคนิคเพียงคนเดียว และวันไหนที่ผู้ช่วยไม่มา ลีน่าจังก็จัดการเปิดเครื่องถ่ายทอดสดด้วยตัวเอง ซึ่งลีลาการจัดการรายการก็ยังคงเผ็ดร้อนเหมือนเดิม เพียงแต่บลูสกรีนข้างหลัง ไม่มีภาพแบ็กกราวด์ขึ้นเท่านั้น

“พอตื่นเช้ามาดิฉันก็นั่งดูข่าว ข่าวก็มาจากเว็บพวกคุณนั่นแหละ (หัวเราะ) แล้วก็เตรียมสคริปต์ว่าเราจะเล่าข่าวยังไง เหมือนจัดรายการวิทยุนะ สมัยก่อนเราจัดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม สดล้วนๆ แต่พอโดนปิด ดิฉันก็อัดเป็นคลิปสั้นๆ พูดเรื่องดาราบ้าง การเมืองบ้าง ตั้งเป้าไว้ว่าวันหนึ่งก็คาดว่าจะอัพได้สัก 30” ลีน่าจัง เล่าให้ฟัง

ทุกวันนี้ลีน่าจังเป็นเจ้าของห้องเช่าถึง 2 ห้องของอินทราสแควร์ โดยแต่ละเดือนเธอจะได้เงินมากกว่า 4 แสนบาท เพื่อมาใช้เป็นค่าเช่าสัญญาณ อย่างไรก็ตามหลังสถานีโทรทัศน์ถูกปิดตายถาวร ลีน่าก็ไม่คิดจะขอยื่นเปิดใหม่ อย่างที่สถานีโทรทัศน์บลูสกาย หรือเอเชียอัพเดททำ

แต่แม้จะมีความสุขกับการจัดรายการคนเดียวมากเท่าไร ลีน่าจังก็ยังไม่ละทิ้งความฝันเดิมคือการเป็นนักการเมืองเพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภา เมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา เธอเพิ่งตั้งพรรคใหม่ในชื่อ “พรรคมหาประชาชน” โดยมีลีน่าจังนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเอง

ถามลีน่าจังว่า รู้สึกอย่างไรที่ลงการเมืองมาตลอด 10 ปี ตั้งแต่ ผู้ว่าฯ กทม. สว. สส. รวมถึงล่าสุด สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาว เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสินใจเพิกถอนสิทธิเป็น สปช. เนื่องจากการหาเสียงเลือกตั้ง สว.ครั้งที่ผ่านมามีข้อความหลอกลวง ทำให้ลีน่าจังเครียดมากจนคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะกลัวว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจตัดสิทธิคนที่เคยมีความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งไปตลอดชีวิต

“คนไม่เข้าใจก็คิดว่าเราอยากดัง อยากเป็นข่าว สอบตกก็แย่แล้ว เราก็เครียดนะเวลาได้คะแนนน้อยๆ 3-4 หมื่นคะแนน แล้วนี่จะมาเพิกถอนสิทธิอีก 10 ปี คนมันอยากเข้าสภา คนเรามันต้องสู้ แต่บ้านเรามันไม่เข้าใจกัน ต่างประเทศเขาจะยกย่องเลยว่าคนนี้เป็นนักสู้ไง แต่ของเราบอกว่า อีบ้านี่ลงได้ไง ไม่เสียดายตังค์เหรอ ดิฉันนั่งแท็กซี่ยังโดนแท็กซี่ด่า เลยว่าอีนี่มันไม่กลัวเสียดายตังค์เหรอ เรานั่งส้วม แม่บ้านที่ขัดส้วมที่ กกต.มันก็ด่าเรา ทำไมคุณไม่คิดว่าฉันสู้วะ ฉันอยากเข้าสภาไปแก้กฎหมาย”

“คุณเห็นไหมแต่ละคนเข้าไปมันก็ไม่ได้คุยกันเรื่องกฎหมายเลย มีแต่เอามือถือถ่ายรูปกัน ดูรูปโป๊ นั่งหลับ คนแก่ๆ ก็บอกว่า ผมนั่งรถมาจากต่างจังหวัด ผมเหนื่อย ต้องมีนั่งหลับบ้าง แต่ดิฉันเสียภาษีปีละเป็นแสน มาเจอแบบนี้มันเครียดนะ เสียดายภาษี ถ้าดิฉันได้เข้าไป เห็นใครนั่งหลับ นั่งเล่นโทรศัพท์ จะไปตบโต๊ะทุกคนเลย แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์เขาก็ไม่เลือกฉันหรอก” ลีน่าจังพูดไปขำไป

ลีน่าจังยืนยันว่าตราบใดที่สนามโอกาสแห่งการเมืองยังเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนได้ เธอก็จะลงสมัครต่อไปทุกครั้ง โดยที่หวังว่าสักวันหนึ่ง ประตูรัฐสภาฯ จะเปิดกว้างให้คนบ้าๆ อย่างเธอเข้าไปทำหน้าที่บ้าง หลังจากเปิดโอกาสให้คนที่ไม่บ้าคนอื่น เข้าไปทำลายประเทศมานักต่อนักแล้ว