มุมโปรดคนติดออฟฟิศ รณพงศ์ คำนวณทิพย์
บนถนนเพชรบุรีในบ่ายวันนั้นเนืองแน่นด้วยรถราเฉกเช่นทุกวัน แต่เมื่อหลุดพ้นจากอากาศร้อนๆ
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน
บนถนนเพชรบุรีในบ่ายวันนั้นเนืองแน่นด้วยรถราเฉกเช่นทุกวัน แต่เมื่อหลุดพ้นจากอากาศร้อนๆ และความวุ่นวายบนท้องถนนแล้วย่างกรายเข้าสู่ห้องทำงานส่วนตัวของผู้บริหารค่ายเพลงอินเตอร์ยักษ์ใหญ่ ณ ชั้น 17 ของอาคารวานิช เราก็ได้สัมผัสกับความเย็นฉ่ำและรื่นรมย์ด้วยเสียงดนตรีซึ่งส่งเสียงเคล้าคลอมาให้ได้ยินเบาๆ
เจ้าของห้องนี้ คือ รณพงศ์ คำนวณทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) ผู้ที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่งนายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงไทยมาใหม่หมาด
สำหรับสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงไทย หรือเทก้า เป็นการรวมตัวของบริษัทบันเทิง อาทิ ยูนิเวอร์ซัลมิวสิค วอร์นเนอร์ มิวสิค โซนี่ มิวสิค เคพีเอ็นมิวสิค สไปซี่ดิสก์ ฯลฯ มีบทบาทและหน้าที่หลักๆ คือ สนับสนุนส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมบันเทิงไทย เป็นต้น
“เมื่อก่อนเราก็ดูแลยูนิเวอร์ซัลค่ายเดียว แต่ตอนนี้ก็ต้องมามองภาพรวมหรือความอยู่รอดของทั้งอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้วงการนี้อยู่ได้และแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ”
รณพงศ์หอบหิ้วประสบการณ์ทำงานจากเป็ปซี่โคล่า ลีเวอร์บราเธอร์ ฯลฯ มาเริ่มต้นในอุตสาหกรรมดนตรีเมื่อ 6 ปีที่แล้วกับยูนิเวอร์ซัลมิวสิค “หลายคนพูดว่า ธุรกิจของเขา คือ พีเพิลส์ บิซิเนส แต่พอผมมาอยู่ที่นี่ก็รู้ว่านี่ล่ะคือ พีเพิลส์ บิซิเนสของจริง เพราะสินค้าของเราก็คือ คน เป็นศิลปินที่มีชีวิตจิตใจหรือแฟนเพลง งานส่วนอื่นก็เกี่ยวข้องกับคนทั้งนั้น” ความท้าทายรอเขาอยู่เมื่อโลกได้หมุนเข้าสู่ยุคดิจิทัล “การทำงานต้องเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อก่อนค่ายเพลงเป็นเหมือนตัวกลางเชื่อมต่อกับแฟนเพลง แต่ทุกวันนี้ศิลปินกับแฟนสามารถติดต่อกันได้โดยตรง วิธีคิดวิธีทำตลาดใหม่หมด มีบิสิเนสโมเดลใหม่ๆ เกิดขึ้น ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาวงการเพลงก็เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อาจจะยังไม่ถึงยุครุ่งเรืองอย่างในปี 1999 หรือปี 2000 แต่ก็เป็นขาขึ้นชัดเจน”
หัวใจของยูนิเวอร์ซัลมิวสิค (หรืออาจจะเป็นทั้งวงการดนตรี) คือคำว่า “ฮิต” รณพงศ์บอกว่า “เรามีหน้าที่สร้างเพลงฮิต ทำศิลปินใหม่ให้เกิด ถ้าเพลงฮิตแล้ว ยอดขายก็จะตามมา อีกส่วนหนึ่งคือการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ อย่างเช่น นำเพลงและศิลปินที่เรามีอยู่มาทำมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ให้กับพาร์ตเนอร์ นอกจากนี้ก็มีเรื่องเมอร์ชานไดส์ หรือของที่ระลึกศิลปินซึ่งขายได้ตลอดทั้งปี”
ผู้บริหารวัย 46 ปี จะเข้าประจำการที่ออฟฟิศแห่งนี้ทุกวันจันทร์ศุกร์ ตั้งแต่ประมาณ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น “จะเรียกผมว่าเป็นคนติดออฟฟิศก็ได้นะ บางทีออกจากออฟฟิศไปนานๆ ก็อยากจะกลับมา เพราะรู้สึกว่ามันสบาย บางทีป่วยพอได้เข้าออฟฟิศมาแล้วรู้สึกดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะว่ามันมีเพลง ที่นี่เราสามารถจะเปิดเพลงฟังได้โดยไม่ต้องมีข้ออ้าง ที่นี่มีเพลงให้ฟังเยอะ เพลงก็ช่วยทำให้เรามีสมาธิ สบายใจ มีความสุข ก่อนจะมาทำงานที่นี่ผมก็ชอบเพลงร็อก เพลงแจ๊ส เพลงป๊อปบ้าง แต่อยู่ที่นี่ต้องฟังทุกอย่าง เพราะมันเป็นงาน”
ออฟฟิศของรณพงศ์ตกแต่งเรียบง่ายแต่ก็พร้อมด้วยสิ่งจำเป็น ของชิ้นสำคัญในห้องทำงานนี้คือ คอมพิวเตอร์ “เก็บทุกอย่าง แล้วเวลาแอพพรูฟอะไรต่างๆ ก็ต้องผ่านเครื่องนี้ด้วย ถ้าอยู่นอกออฟฟิศต้องมีไอแพด ไว้ตอบอีเมลหรือดูข่าว ถ้าคิดงานไม่ออกผมก็จะเดินรอบออฟฟิศ ไปคุยกับทีมงานได้ไอเดียมาคิดต่อ ในออฟฟิศก็โปรดทุกมุมนะ เพราะว่าเราต้องเดินไปทั่ว ไม่ว่าจะห้องประชุม ห้องทำงานของแต่ละคน ด้วยเทคโนโลยีทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ แม้แต่อยู่ในรถ บางทีก็ออกไปนั่งทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟแถวนี้ได้มองเห็นต้นไม้เขียวๆ บ้าง”
บนชั้นวางของในห้องทำงานของรณพงศ์เต็มไปด้วยซีดีเพลงมากมาย นอกจากนั้นยังมีภาพครอบครัวตั้งไว้ให้เห็นยามคิดถึง ภาพผลงานศิลปะชิ้นใหญ่สร้างสีสันให้กับห้อง ของที่ระลึกเกี่ยวกับเรื่องงานอันน่าภาคภูมิใจ รวมถึงโล่รางวัลจากการแข่งขันจักรยานอันเป็นกิจกรรมสุดโปรดหลังเลิกงานของเขา
“ผมเป็นคนที่ชอบเอาต์ดอร์ ถ้าได้ไปต่างจังหวัด ได้เห็นภูเขา ต้นไม้เขียวๆ ก็จะเป็นแรงบันดาลใจ ได้ชาร์ตแบต สมองโล่ง บางทีก็ไปสวนหลวง ร.9 เพราะอยู่ใกล้บ้าน ไปนั่งเล่น ขี่จักรยานชมวิว แล้วก็มีบึงหนองบอน เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำ ถนนมีต้นไม้อยู่สองข้างทางสวยมาก บรรยากาศเหมือนเมืองนอกเลย ไปขี่จักรยาน นั่งเล่น ชมวิว
“หลังเลิกงานผมชอบออกกำลังกาย จักรยานนี่ก็ขี่มาเป็น 10 ปีแล้ว ชอบเสือภูเขา วันเสาร์อาทิตย์ก็จะขี่แถวๆ บ้านประมาณ 20 กว่ากิโล ตอนนี้ที่สุวรรณภูมิก็มีสนามเขียวซึ่งผมจะไปขี่กับเพื่อนๆ ซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยประถม ในก๊วนก็มีประมาณ 10 คนก็ไปขี่กันประจำ ส่วนใหญ่จะเป็นเช้าวันเสาร์อาทิตย์ บางทีวันธรรมดาก็ตื่นตี 5 แล้วไปขี่สักรอบหนึ่ง กลับบ้านสัก 67 โมง แล้วอาบน้ำไปทำงาน ขี่จักรยานแล้วมันสดชื่น ตอนออกกำลังกายก็จะได้ไอเดียใหม่ๆ”
ความคิดและแรงบันดาลใจในการทำงานของรณพงศ์ยังเกิดจากการคุยกับผู้คน “ประสบการณ์ของหลายคนกับของเราเองช่วยได้เยอะ การได้พูดคุยเปิดหูเปิดตา รวมทั้งทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในอุตสาหกรรมของเรา ความคิดความรู้ของคนอื่นเราก็สามารถนำมาพัฒนาปรับใช้ได้”
ห้องทำงานส่วนตัวแห่งนี้ไม่ต่างกับเป็นกองบัญชาการที่ผู้บริหารอย่าง รณพงศ์ คำนวณทิพย์ จะนำพาค่ายเพลงอินเตอร์ยักษ์ใหญ่เดินไปบนถนนธุรกิจอย่างมั่นคงยั่งยืน ทว่าความคิดและแรงบันดาลใจในการทำงานรวมทั้งการใช้ชีวิตนั้นเกิดได้ทุกที่