เลือกกลิ่นให้เข้ากับฤดูกาล

โดย...พุสดี

ดร.พหล โกสิยะจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ปริมมาลัย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ นิวยอร์ก แนะนำการเลือกใช้กลิ่นเพื่อบำบัดให้เหมาะกับฤดูกาลว่า กลิ่นที่เหมาะสมกับช่วงสปริง-ซัมเมอร์ คือกลิ่นเปรี้ยวสดชื่นของส้มซิตรัส ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ลักษณะของกลิ่นที่เหมาะกับหน้าร้อน คือ ไม่หนักและติดทน แต่ไม่หอมฟุ้งจนรบกวนผู้อื่น ส่วนฤดูฝนเหมาะกับกลิ่น "ดอกพิกุล" ส่วน "กลิ่นเสาวรส" ที่ออกเปรี้ยวฉุนจะเหมาะมากสำหรับฤดูหนาว ในอากาศจะมีความชื้นน้อยจะทำให้กลิ่นฉุนของเสาวรสมีความหอมสดชื่นแบบพอดีๆ ไม่ฉุน

"เคล็ดลับง่ายๆ ของการเลือกกลิ่นดอกไม้ว่าจะเหมาะกับฤดูกาลไหน ก็คือ ช่วงไหนดอกไม้อะไรบาน ช่วงนั้นกลิ่นของธรรมชาติรอบๆ ก็จะเข้ากันกับอากาศฤดูกาลนั้นๆ ถ้าเราสามารถจะเก็บกลิ่นพิเศษที่มีอยู่ในแต่ละฤดูกาลเอาไว้ได้ จะทำให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์ความละมุนละไมของกลิ่นบำบัด ซึ่งทุกอย่างถูกกำหนดไว้โดยธรรมชาติ"

เช่นเดียวกับ ผิง-สุดคนึง กองอำนวยสุขผิง ผู้อำนวยการแบรนด์ บาธ แอนด์ บลูม (Bath&Bloom) บอกว่า "กลิ่น" เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการสร้างความประทับใจครั้งแรก ทั้งยังช่วยเติมความสุขให้กับตัวเองด้วย เมื่อเราอยู่กับกลิ่นที่ชอบ จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ส่งผลให้จิตใจสบายขึ้น โดยส่วนตัวชอบกลิ่นผลไม้ออกรสเปรี้ยว แต่ต้องไม่แหลมจนเกินไปต้องมีกลิ่นหวานของดอกไม้ผสมด้วย อย่างในคอลเลกชั่นนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 12 กลิ่นจะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ

ยกตัวอย่างเดือน พ.ค.นี้ สายลมอุ่นของฤดูร้อนได้พัดพาความสดชื่นจากทะเลทรายและหาดทราย หลอมรวมกับความเขียวของทุ่งหญ้า ก่อให้เกิดกลิ่นหอมสะอาดสดใส กลิ่นของเดือนนี้จึงเน้นกลิ่นหอมสะอาดจากดอกฟรีเซีย ใบสนสด และแอปเปิ้ลเขียว หรือในเดือน ธ.ค.ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว เราจะใช้กลิ่นวานิลลาเป็นหลัก เพราะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นต้น

ส่วนเทรนด์กลิ่นหอมที่กำลังมาแรง ผิงบอกว่า กลิ่นดอกไม้ไทยยังค่อนข้างได้รับความนิยมในตลาดสปาและสกินแคร์ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นมะลิไทย ลีลาวดี หรือชบา เรียกว่าเป็นกลิ่นอมตะ เพราะเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ ไม่หวานเลี่ยน แต่เย้ายวน