เวิลด์ไวด์เว็บ ในโลกน่ารื่นรมย์ของ ‘ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต’

โดย...พงศ์ พริบไหว ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

แม้ห่างหายจากหน้าจอโทรทัศน์มาหลายปีในบทบาทการแสดง แต่พ่อหนุ่มอดีตสมาชิกบอยแบนด์ ยูเอชที คนนี้ยังคงเสน่ห์ทุกครั้งที่ปรากฏตัว อย่างที่รู้กันดี เปปเปอร์ หรือ “ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต” คือชายหนุ่มแสนเพอร์เฟกต์ที่มีความสามารถหลายด้านอย่างที่พอจำได้เลาๆ เปปเปอร์ เคยเป็นอาจารย์ พระเอกก็หลายเรื่อง นายแบบก็มาก ร้องเพลงนี่ถนัด ไหนจะเป็นเจ้าของธุรกิจอีก แต่ในอีกมิติที่น่าสนใจยิ่งในเวลานี้คือการทำงานเป็นผู้อำนวยการเว็บไซต์ sanook.com เว็บอันดับ 1 ของเมืองไทย

เรียกได้ว่าเป็นงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ถึงตรงนี้อาจสงสัยแล้วว่าเปปเปอร์ จับพลัดจับผลูอีท่าไหนถึงมาผูกชีวิตไว้กับอาชีพนี้ได้ โดยในเมืองไทยเองเราอาจไม่คุ้นกับคำว่าผู้อำนวยการเว็บไซต์สักเท่าไรว่ามีหน้าที่เช่นไร ซึ่งตามตำแหน่งจริงๆ แล้ว หนุ่มหล่อคนนี้นั่งแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเนื้อหาและพัฒนาธุรกิจบริษัทสนุกออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทสนุกออนไลน์เป็นบริษัทลูกของเท็นเซ็นต์ โฮลดิ้ง บริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 3 รองจากกูเกิลและอเมซอน จากจุดนี้เจ้าตัวเริ่มเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มการทำงานด้วยรอยยิ้มอันเป็นสุข

“จริงๆ ใจผมพอเรียนจบปริญญาเอก ตั้งใจว่าจะไปเป็นอาจารย์เต็มตัวเลยนะ จริงๆ ผมก็รับปากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยไว้เรียบร้อยแล้วด้วย ที่ตัดสินใจแบบนั้นเพราะว่าที่ผ่านมาผมทำธุรกิจค่อนข้างหลากหลาย แล้วก็เปิดบริษัทเองมาก่อน เราก็รู้สึกว่าเราก็อิ่มๆ ตัวแล้วเหมือนกัน คือเราเหมือนกับว่าอยากจะเอาเวลาไปสอนหนังสือบ้าง เอาไปศึกษาหาความรู้บ้าง บังเอิญว่าพอเรียนจบปุ๊บก็มีผู้บริหารจากสนุกนี่แหละมาชักชวนผมเข้ามาทำงานที่นี่ ตอนแรกก็คุยกันตรงๆ ว่าผมไม่แน่ใจนะว่าจะชอบหรือเปล่า เพราะใจผมอยากสอนหนังสือ

แล้วเขาก็พูดกับผมว่าตอนนี้มีโปรเจกต์ใหญ่อยากให้เราดูแลจริงๆ ซึ่งเขาขาดคนที่มาดูแลโปรเจกต์นี้ แล้วเขาก็บอกผมว่าเอาอย่างนี้ไหม ให้ผมมาดูโปรเจกต์สัก 3 เดือน เสร็จแล้วค่อยมาว่ากันว่าผมอยากอยู่ต่อหรือไม่ สำหรับผมก็ถือว่ามันเป็นโอกาสได้อัพเดตตัวเอง ปรากฏว่าพอเข้ามาทำจริงๆ ไอ้โปรเจกต์ที่ว่าก็ยังทำอยู่ แต่มีอันอื่นเข้ามาอีกเพียบเลย แล้วก็เป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างยาว ทิ้งไม่ได้เลย มันจึงต้องทำต่อเรื่อยๆ จากจุดนั้นมาถึงจุดนี้ก็ 2 ปีกว่าๆ ละ” เขาหัวเราะตัวเองเมื่อพูดจบ แทนที่จะได้เป็นอาจารย์อย่างที่หวัง แต่โปรเจกต์ที่ทำก็ดันท้าทายเขาจนไม่อยากทิ้ง

เปปเปอร์เองอยู่กับระบบไอทีมานาน ทั้งยังเรียนจบตรงทางสายนี้ ทำให้เขาเองมีความรู้อยู่พอตัว ทั้งเป็นอาจารย์สอนคณะไอทีก็เคย นั่นเองจึงเป็นเสมือนเคมีบางอย่างดึงดูดให้เขาอยากทำให้เว็บไซต์ sanook.com ก้าวไปไกลกว่าเดิมทั้งในเรื่องเนื้อหาและความทันสมัยของระบบที่ต้องพัฒนาให้ไปคู่กัน และปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เขาเองหลงจนไม่อยากแบ่งเวลาไปให้อะไรอื่น ซึ่งนั่นก็เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่แทบไม่เห็นเขาเลยกับงานวงการบันเทิง

“การทำงานเว็บไซต์ เสน่ห์ของมันอย่างหนึ่งคือมันสามารถวัดได้ เหมือนบางทีเราทำหนังสือ ทำทีวี กว่าจะส่งรายการมันใช้เวลา แต่ของเราวัดกันชั่วโมงต่อชั่วโมง วันนี้ทำดีไม่ดีเราจะรู้เลย สิ่งที่เป็นมันเลยท้าทายเรา วันนี้ทำไม่ดีไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องทำให้ดีกว่าเดิมแล้วพอจบสิ้นเดือนเราก็เฮกันที อย่างปัจจุบันหน้าที่หลักๆ ของผมในการทำงาน หนึ่งเลยคือดูแลเว็บไซต์ให้เรียบร้อย นั่นคือเรื่องของเนื้อหา ผมคิดว่าการทำเว็บไซต์มันคล้ายๆ กับการทำหนังสือ คล้ายๆ กับการทำคลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ คือเราต้องเริ่มจากการที่มีทีมงานที่มีความสามารถในการค้นหาในการคัดสรรคอนเทนต์ ส่วนที่สองคือดูแลเรื่องของการพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสนุก แล้วก็เอาสิ่งนั้นมาพรีเซนต์ให้กับผู้ชม ส่วนที่สามคือดูเรื่องของการทำมาร์เก็ตติ้ง เช่น การจัดกิจกรรมต่างๆ ของเว็บไซต์ และส่วนที่สี่คือดูแลเรื่องของการซื้อการขาย ราคาเป็นยังไง ความโปร่งใส ถ้าพูดง่ายๆ คือผมก็ดูแลเว็บสนุกทั้งหมดทุกเรื่อง แต่ก็จะมีทีมงานมาช่วยดูต่ออีกทีในหลายๆ ส่วนที่พูดมา คือทุกวันนี้ผมต้องบอกเลยว่าที่สนุกเติบโตมีคนเข้ามาดู 24 ล้านคนทุกเดือนไม่ใช่เพราะผม แต่เป็นเพราะว่าทีมงานทุกคนตรงนี้มากกว่า พวกเขาเป็นคนสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ” แม้งานที่ทำจะดูมากมายในรายละเอียด แต่เปปเปอร์เองไม่เคยหยุดนิ่งและพยายามพัฒนาเว็บไซต์ sanook.com ให้ก้าวกระโดดไปสู่เป้าหมายที่สูงกว่า ทั้งเขาเองยังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกทีมได้รับสิ่งที่ดีที่สุดตอบแทน และเมื่อทุกคนทำงานในเป้าหมายเดียวกันอย่างมีความสุข ก็ไม่ยากที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ นั่นคือปณิธานของผู้ชายคนนี้ที่เขาตั้งหวังกับการทำงาน “คือผมมักบอกกับลูกทีมทุกคนเสมอว่าเราจะหยุดอยู่ตรงนี้ไม่ได้นะ ถ้าเราอยู่ที่เดิมเราจะตกเทรนด์ทันที เว็บไซต์ในอนาคตอันใกล้นี้มันจะไม่ใช่เว็บไซต์ละ มันจะเป็นสื่อนิวมีเดีย ซึ่งจะประกอบด้วย ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และเนื้อหา ฉะนั้นในการทำเว็บไซต์ของเราเนี่ย เราจะต้องทำสื่อที่มันหลากหลาย เทคนิคเก่าๆ ที่เราเคยใช้หรือสิ่งที่เราทำแล้วมันเวิร์กเนี่ย ในอีกไม่กี่เดือน กี่ปี มันจะไม่เวิร์กอีกต่อไป มันจะต้องคิดใหม่ทำใหม่กันอยู่ตลอด เหมือนเช่นชีวิตของเขาเองที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองหรือแม้กระทั่งหันไปหาความท้าทายใหม่อยู่เสมออย่างที่เขาได้พูดไว้ว่า ผมเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้ คือคนเราเวลาที่ทำอะไรสำเร็จแล้วพอไปทำอย่างอื่นแล้วเราจะกลัว สมมติทำตรงนี้แล้วมันโอเคแล้วไปทำงานใหญ่ไม่กล้า ถ้ามันทำไม่ดีมันจะเสีย มันจะมีความกลัว แต่ผมพยายามที่จะสลัดความกลัวทิ้งไปแล้วพยายามที่จะเปิดมุมมอง เปิดโอกาสให้ตัวเองในการเรียนรู้งานต่างๆ ฉะนั้นในอนาคตของผม ผมคิดจะลองไปจับงานที่ผมไม่ถนัด ลองดูว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป

แต่ตอนนี้ผมอยากทำให้เว็บเติบโตไปมากกว่านี้”