posttoday

In my bag

02 พฤษภาคม 2557

สมัยก่อนตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศจะทำกับข้าวเองทุกอย่าง ตอนเรียนมีเวลาทำอาหารเอง

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ (อาหาร) : กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย

กัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง

อายุ 47 ปี

อาชีพ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารผ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท บัตรกรุงไทย

ที่อยู่ มีนบุรี

แหล่งซื้ออาหาร

“สมัยก่อนตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศจะทำกับข้าวเองทุกอย่าง ตอนเรียนมีเวลาทำอาหารเอง พอกลับมาเมืองไทยก็จะซื้อตำราทำกับข้าวไป แล้วที่นิวยอร์กมีร้านขายของชำที่เป็นร้านไทยค่อนข้างเยอะ ซื้อในไชน่าทาวน์จะง่ายเพราะทุกอย่างอยู่ในที่เดียวกันหมด ตอนนั้นขนาดแหนมยังหมักเองเลย แต่พอกลับมาทำงานที่ไทย ทำอาหารแบบโขกเครื่องแกงเองไม่ได้ทำแล้ว ส่วนใหญ่จะทำอะไรง่ายๆ เร็วๆ สะดวก ไม่ต้องเตรียมมาก ไม่ต้องล้างมาก

ที่ซื้ออาหารก็จะซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วแต่สะดวก อย่างเช่น ใกล้ออฟฟิศ ใกล้บ้าน ถ้าวันเสาร์อาทิตย์อยู่บ้านจะไปซื้อที่ตลาดน้ำขวัญเรียม เนื่องจากอยู่ตรงข้ามบ้านเลย ตลาดน้ำขวัญเรียมจะมีของทานที่หาไม่ได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น ขนมไทยโบราณและพวกผักพื้นบ้าน อย่างผักเหลียง ผักกูด ตลาดน้ำจะเปิดวันเสาร์อาทิตย์ อยู่ในวัดบางเพียงใต้กับวัดบางเพียงเหนือ”

การเลือกซื้ออาหาร หีบห่อ บรรจุภัณฑ์

“ส่วนตัวเป็นคนชอบรับประทานผักมาก แบบเห็นผักแล้วกลืนน้ำลาย เวลาเลือกซื้อผักในซุปเปอร์ฯ จะเลือกแบบที่ขายเป็นผักสลัดหลายชนิดที่อยู่ในถุงเดียวกัน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ดูความสด คุณภาพ และวันหมดอายุ ผักก็มีอายุของมันเหมือนกัน การเลือกซื้ออาหารกระป๋องที่ต้องดูวันหมดอายุเป็นอันดับแรก เวลาที่ซื้อไปจะรู้ว่ามันโอเคหรือไม่ก็เปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น

อีกเรื่องที่สำคัญคือควรซื้ออาหารที่เหมาะกับร่างกายตัวเอง เคยไปตรวจร่างกายแล้วพบว่าร่างกายมีอนุมูลอิสระที่ทำให้แก่สูงมาก แล้วสารแอนตี้ออกซิแดนต์ (Antioxidant) ที่ทำให้ไม่แก่ก็ต่ำมาก จึงต้องกินผักและผลไม้พวกไฮซี (วิตามินซีสูง) เพื่อไปเพิ่มสารแอนตี้ออกซิแดนต์ให้ร่างกาย”

In my bag

 

ในถุงกับข้าววันนี้

“เวลาที่จะซื้อของก็จะเตือนตัวเองว่าต้องซื้อของที่มีประโยชน์ต่อร่างกายตามที่หมอแนะนำหรือตามที่อ่านในหนังสือ เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว เนื่องจากอายุมากแล้วจะซื้อผลไม้ที่บำรุงสายตา พวกเบอร์รีต่างๆ เช่น แบล็กเบอร์รี บลูเบอร์รี กูดเบอร์รี สตรอเบอร์รี อีกที่ซื้อคือโยเกิร์ต คุณหมอแนะนำว่าพออายุมากขึ้นระบบการย่อยของร่างกายจะไม่ดี และระบบการย่อยเป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง ถ้าย่อยไม่ดีการดูดซึมวิตามินต่างๆ ก็จะรวนไปหมด คุณหมอแนะนำให้กินเพลนโยเกิร์ต (Plain Yogurt) ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน แต่สำหรับตัวเองถ้าเพลนมากมันจะไม่อร่อย ก็เลยใส่ผลไม้ ใส่น้ำผึ้งลงไปเพิ่ม

สำหรับผักสลัดจะซื้อผักกาดแก้ว แครอต บีทรูต ร็อกเกต ข้าวโพด แล้วพวกไส้กรอกกับแฮม ไส้กรอกนี้ถ้ามีเวลาก่อนทานจะต้มเอาน้ำมันทิ้ง เพราะในไส้กรอกจะผสมไขมันสัตว์ การต้มมันก่อนจะช่วยลดไขมันได้ ส่วนน้ำสลัดถ้าซื้อเป็นสำเร็จรูปจะซื้อน้ำสลัดแบบญี่ปุ่น แต่หากทำเองจะเป็นบัลซามิก (Balsamic) แบบอิตาเลียน คือนำบัลซามิกผสมกับน้ำมันมะกอกที่เป็นเอ็กตร้า เวอร์จิ้น ตัวนี้จะไม่มีคอเลสเตอรอลและช่วยเรื่องหัวใจแล้วใส่เกลือ ใส่พริกไทยที่เป็นแบล็กเปปเปอร์ จะเป็นน้ำสลัดออกลดเปรี้ยวดีต่อสุขภาพ

อีกอย่างที่ชอบซื้อ คือ ช็อกโกแลต เป็นคนชอบทานช็อกโกแลต นูเทลล่า พีนัตบัตเตอร์ ไม่เคยกลัวอ้วนเลยเพราะต๋อยคิดว่าคนเราต้องบาลานซ์ไดเอต (Balance Diet) เคยคุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องลดทุกอย่างแต่ว่าต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ถ้าเราชอบอะไรก็สามารถทานได้ แต่ว่าทานอย่างมีสติ ทานให้รู้ว่าได้ทาน เพราะถ้างดทุกอย่าง ชีวิตมันก็ไม่มีสีสัน มันก็ไม่สนุก (ยิ้ม)”