posttoday

ทำงานสุจริต

29 เมษายน 2557

งานสุจริตคืองาน หนึ่ง “ถูกธรรม” สอง “ถูกกฎหมาย”

โดย...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย&<2288;

งานสุจริตคืองาน หนึ่ง “ถูกธรรม” สอง “ถูกกฎหมาย”

คนทั่วไปเวลาทำงานมักเน้นความ “ถูกใจ” เป็นหลัก บางคนต้องการทำงานที่ถูกใจ “สามปีสิบสี่นาย” หางานที่ถูกใจตลอด อยู่ที่ไหนก็บอกว่านายไม่ดี นายเขี้ยว นายเค็ม นายอยุติธรรม ทั้งที่ความจริงตัวเองนั่นแหละคือตัวปัญหา

การทำงานขอให้ทำงานสุจริต เมื่องานเป็นสุจริตแล้ว ขอให้เชื่อมั่นว่าไม่มีงานไหนต่ำ ถ้าทำงานด้วยใจ

ที่กรุงเทพมหานครของเรานี่เอง มีช่างซ่อมรองเท้าคนหนึ่งเปิดร้านซ่อมรองเท้า ชื่อร้าน “ ก.เปรมศิลป์” แกทำงานนี้มากว่ายี่สิบปี เพื่อนๆ มักดูถูกว่าทำงานกับของต่ำ เป็นงานไม่มีเกียรติ แต่ตัวแกเองกลับมีความเชื่อมั่นว่างานของตัวเองเป็นงานสุจริต และเมื่อเป็นงานสุจริตจึงมีเกียรติอยู่ในตัวเอง

แล้ววันหนึ่งความเชื่อของแกที่ว่า “ไม่มีงานไหนต่ำ ถ้าทำด้วยใจสูง” ก็ได้รับการพิสูจน์

วันหนึ่งมีนายทหารราชองครักษ์ นำฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาให้แกซ่อม พอแกซ่อมเสร็จ พระองค์โปรดฝีมือของแกมาก จึงส่งฉลองพระบาทมาให้ซ่อมอยู่เรื่อยๆ

พอเรื่องนี้แพร่หลายไปถึงสื่อมวลชน แกเลยกลายเป็นคนมีชื่อเสียงขึ้นมาทันตาเห็น คนที่เคยมองแกด้วยความเหยียดหยามก็หันกลับมาเป็นเพื่อน

บางคนไม่เพียงแต่เป็นเพื่อน หากยังอิจฉาด้วยซ้ำไป เพราะแกกลายเป็นคนที่มีเกียรติมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นช่างซ่อมฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

งานใดก็ตามที่เป็นงานสุจริต แม้เป็นงานใช้แรงงาน แม้เป็นงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ก็ขอให้เราภูมิใจว่า งานนั้นเป็นงานที่มีเกียรติ เป็นงานที่มีคุณค่า

เกียรติของงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนเป็นเงินตรา แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลงานที่เกิดจากการทำอย่างสุดฝีมือ และผลกระทบที่งานนั้นมีต่อตัวผู้ทำงานเป็นสำคัญ

บางคนทำงานได้เงินเดือนเป็นล้าน ซ้ำยังทำงานนั้นอยู่บนยอดตึกสูงกว่าร้อยชั้น แต่หากงานนั้นเป็นงานที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉล กลโกง เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์และสังคม งานชนิดนี้แม้จะทำแล้วได้เงินเดือนสูงแต่ก็เป็นงานที่มีเกียรติต่ำ

แม้ทำงานบนตึกสูงแต่เกียรติภูมิก็ต่ำยิ่งกว่าคนที่ทำงานอยู่ใต้สะพานทางด่วน หรือด้อยค่ายิ่งกว่างานของชาวนาชาวสวนที่ต้องทำงานด้วยการออกแรงวันแล้ววันเล่าอยู่กลางแดดกลางฝน

ดังนั้น เวลาที่เราทำงานของให้ยึดหลักความ “ถูกต้อง” และ “ถูกธรรม” อย่าเน้นเรื่องถูกใจมาก

คนบางคนเน้นงานที่ถูกใจตัวเอง เช่น ฉันเชื่อว่าขายยาบ้ารวยเร็วแน่นอน ก็เลยทำงานเป็นคนขายยาบ้า นี่คือถูกใจ แต่ส่วนมากถูกใจจะมีปัญหากับถูกธรรม เพราะฉะนั้นไม่ว่างานอะไรก็ตามที่คุณจะทำในชีวิตขอให้เป็นงานสุจริต

ถ้าวันหนึ่งเรามานึกถึงเงินที่เราได้มาเป็นเงินเย็น ก็สบายใจ แต่ถ้าเราทำงานไม่สุจริต เงินที่เราได้มามากมายเป็นเงินร้อน เงินร้อนไม่เคยทำให้เจ้าของเงินมีความสุข

ส่วนเงินเย็นถึงแม้จะมีจำนวนน้อย แต่มันจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายเรา เงินร้อนถึงแม้จะมีจำนวนมาก แต่มันจะเผาผลาญเราเหมือนไฟสุมขอน ขอให้เลือกเงินเย็น อย่าเลือกเงินร้อน

อยากได้เงินเย็น งานต้องเย็น นั่นคืองานสุจริต

เกณฑ์วัดว่างานอะไรสุจริตง่ายมาก เอาศีลห้าเป็นบรรทัดฐาน งานอะไรก็ตามที่ไม่ขัดศีลห้านับได้ว่าเป็นงานสุจริตทั้งหมด อย่าหวังว่าต้องเป็นงานสูงงานต่ำตามที่สังคมวางบรรทัดฐานเสมอไป

งานสุจริตนั้น ถ้าเราทำด้วยใจสูง มันก็เป็นงานสูง ความสูงต่ำของงานเขาวัดกันที่เนื้องาน ไม่ใช่ที่สังคมเขาประเมิน ไม่ใช่ที่ปากคนคอยพร่ำพูด

งานใดก็ตามที่ทำแล้วไม่ผิดศีลธรรม ไม่ขัดต่อกฎหมายอันดีของบ้านเมือง นั่นคืองานสุจริต คนที่ทำงานสุจริตทั้งชีวิตมีแต่ความร่มเย็น คนที่ทำงานทุจริตทั้งชีวิตเหมือนกันยาพิษเข้าไปในร่างกาย