โฮ่งเหมียว ซุป’ตาร์สุดฮอตบนโลกออนไลน์
สังเกตมั้ยว่า หน้าวอลล์เฟซบุ๊กของใครหลายๆ คน ตอนนี้ไม่ได้มีแต่ฟีดของเพื่อนๆ ดาราคนโปรด
โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา
สังเกตมั้ยว่า หน้าวอลล์เฟซบุ๊กของใครหลายๆ คน ตอนนี้ไม่ได้มีแต่ฟีดของเพื่อนๆ ดาราคนโปรด หรือความเคลื่อนไหวของกำนัน (สุเทพ เทือกสุบรรณ) เท่านั้น เพราะในโลกใบใหญ่แต่ถูกย่อส่วนให้อยู่ในจอสี่เหลี่ยมของใครหลายคนตอนนี้ ได้ถูกแบ่งสัดส่วนให้กับเพื่อนรักสี่ขาแสนน่ารักในหลากหลายอิริยาบถ บางคนเป็นเอามาก ถึงขั้นต้องตามกดไลค์ทุกภาพ ตามคอมเมนต์เพราะอดเทใจให้ความน่ารักของพวกมันไม่ได้
เหล่านี้เอง จึงไม่แปลกเลยที่วันนี้ ในโลกออนไลน์จะมีเพจของเหล่ามะหมาและน้องเหมียวแจ้งเกิดฐานะซุป’ตาร์ มียอดไลค์เพจถล่มทลาย ชนิดเพจของคนดังๆ หลายๆ คนยังต้องชิดซ้าย
เพจที่มาแรงสุดๆ นาทีนี้ ต้องยกให้เพจที่มีชื่อสะดุดหูอย่าง ทูนหัวของบ่าว ใครที่ไม่ใช่พวกปลื้มน้องเหมียว อาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องทูนหัวของบ่าว หาคำตอบได้จาก นัชญ์ ประสพสิน เจ้าของเพจ เฉลยให้หายคล้องใจว่า ถ้าสาวกน้องเหมียวคงรู้ดีว่า ลองได้รักได้เลี้ยงแมวแล้ว ไม่ช้าจะต้องเป็นทาสของแมว พอมันร้องทีก็ต้องคอยปรนเปรอมัน แต่ทุกอย่างก็ทำด้วยความสุข
นัชญ์ เปิดฉากเล่าถึงที่มาของเพจยอดนิยม ซึ่งมียอดไลค์ 109,238 ไลค์ (ถึงวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา) ว่า เริ่มจากต้นทุนที่รักแมวอยู่ตั้งต้น เลี้ยงอยู่ 3 ตัว คือ มะลิ เสือโคร่ง เสือสมิง และที่มาแมวทั้ง 3 ตัว ก็เป็นขวัญใจของเพื่อนๆ เธออยู่แล้ว เพราะเธอชอบเอารูปของแมวทั้ง 3 ตัวมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยความฮอตที่มี เลยเกิดไอเดียว่าน่าจะทำเป็นเพจเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย แล้วชื่อ “ทูนหัวของบ่าว” ก็ปิ้งขึ้นมา เพราะช่วงที่เปิดเพจมีละครพีเรียดเรื่องหนึ่งกำลังออกอากาศอยู่ ได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ เลยเอามาใช้เลย
“จากวันแรกที่เริ่มทำก็ไม่คิดนะว่า เพจจะได้รับความนิยมขนาดนี้ เรียกว่า มีวันนี้เพราะแมวให้จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เพจได้รับความสนใจขึ้น คือตอนที่เราไปเอาแมวอโศก (แมวจรจัดสุดฮฮต ที่ใครผ่านไปผ่านมาแถวสถานีรถไฟฟ้าอโศกต้องเคยเห็น หรือได้ยินเรื่องราวมาบ้าง) มาเลี้ยง ตอนที่เอามาสภาพของอโศกก็แย่มาก หางขาด โดนทำลายมา เราจำวันที่เก็บเขามาเลี้ยงได้เลยคือ เราใช้รถไฟฟ้าแถวนั้นประจำ วันนั้นเห็นอโศกในสภาพสะบักสะบอม เห็นตั้งเต่เช้า แต่เราต้องไปทำงานเลยปล่อยไว้ก่อน ตั้งใจว่าเย็นจะพากลับบ้าน พอตอนเย็นผ่านมา เห็นอโศกกำลังโดนรังแกพอดี เลยเข้าไปอุ้มพากลับบ้านไปรักษา จนทุกวันนี้กลับมาน่ารักเหมือนเดิมแล้ว”
ใครที่เป็นห่วงว่าอโศกจะโดนรับน้องจาก 3 เหมียวจอมซ่าหรือเปล่า นัชญ์ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่เลย ทั้งหมดเข้ากันได้ดีมาก ที่สำคัญ อโศกยังเป็นแมวนำโชคสำหรับนัชญ์สุดๆ เพราะตั้งแต่เอาอโศกมารักษา และรับเป็นอีกหนึ่งสมาชิก 4 ขาของบ้านได้ 3 เดือน นัชญ์ก็ถูกหวยทุกงวด แต่บางงวดก็ไม่ได้ไม่ได้ซื้อ เพราะไม่เชื่อว่าใครจะโชคดีขนาดนั้น
“เรายกให้อโศก เป็นอภิชาตแมวเลยนะ เพราะเขาให้โชคทุกงวด เพราะเวลาพี่ซื้อ ก็ซื้อแบบไม่มีหลักอะไร มีงวดหนึ่ง พาเขามาบ้าน ก็ซื้อบ้านเลขที่ก็ถูก พี่ขับรถไปชนก็ซื้อ กท.รถก็ถูก หลังๆ แฟนคลับอโศกจะรอเลยพอใกล้ๆ วันหวยออก มีวันหนึ่งเราถามเขาว่างวดนี้ให้เลขอะไร เขาก็ชูอุ้งมือขึ้นมา เป็นเลข 5 เราก็เอาไปบวกกับแมวเบอร์ 9 ซื้อก็ถูกอีก”
อย่างไรก็ตาม พอเป็นแมวซุป’ตาร์แล้ว สิ่งที่นัชญ์ตั้งใจจะให้อโศกทำคือเอาความรักที่ทุกคนมีให้มาต่อยอดให้อโศกร่วมทำบุญให้แมวจรจัดตัวอื่น ที่อาจไม่โชคดีเหมือนอโศก ด้วยการบริจาคเลือด ใช้เพจนี้เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนแมวจรจัด ทำปลอกหมอนขาย หาเงินซื้ออาหารให้หมาแมวจรจัด เป็นต้น
“เราอยากฝากไปถึงคนที่เลี้ยงแมวว่า แมวแต่ละตัวมีอายุประมาณ 10-15 ปี ดังนั้น ก่อนจะเอาเขามาเลี้ยง อย่าเลี้ยงแค่แฟชั่น แต่ต้องคิดให้ยาวๆ ว่า มีเวลา มีพื้นที่ มีกำลังทรัพย์พอที่จะดูแลเขาตลอดไปมั้ย จะได้ไม่ต้องทิ้งเขากลางคันให้เป็นแมวจรจัด”
กลูตาจากข้างถนนสู่นางแบบ 4 ขา
นอกจากเจ้าเหมียวที่แฟนคลับนับแสนแล้ว อีกหนึ่งผู้ท้าชิงหัวใจคนรักสัตว์ที่กำลังมาแรง คือ “เจ้ากลูตา” หมาจรจัด เจ้าของรอยยิ้มสะกดใจที่คนรักหมาเห็นแล้วต้องอดใจกดไลค์ให้ความน่ารักของมันไม่ได้
เพจกลูตา (Gluta) นี้โด่งดังมาจากเว็บไซต์พันทิป ในฐานะ 1 ใน 10 กระทู้สุดยอดแห่งปี 2013 กระทั่งกลายเป็นเพจในเฟซบุ๊ก ซึ่งปัจจุบันมียอดไลค์อยู่ที่ 38,404 ไลค์ เชื่อหรือไม่ว่า เบื้องหลังของเพจนี้เป็นฝีมือของ ยอร์ช-สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่โชคชะตาพาให้เขามาเจอกับเจ้ากลูตาแบบไม่คาดฝัน
“ผมพักอยู่ในหอพักแถวมหาวิทยาลัย ตอนที่ได้เจอกลูตาครั้งแรกเป็นช่วงน้ำท่วมใหญ่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฝนตกหนักมากจนไฟดับ ผมก็กลับมาที่หอตามปกติก็เจอมัน หลบอยู่ที่ใต้หอ ตอนแรกผมยังไม่ได้เลี้ยงมัน กระทั่งพอมันป่วยหนัก ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ให้มีหมาจรจัด คือ หมาจะอยู่ได้ ต้องมีเจ้าของเลี้ยง ด้วยความสงสารผมก็เลยตัดสินใจเอามันมาเลี้ยง และหาคนช่วยรักษามัน เพราะผมก็ยังเป็นนักศึกษาไม่ได้มีเงินทองมากมาย”
ตอนแรกที่รับกลูตามาเลี้ยง กลูตาป่วยเป็นหลายโรคมาก เริ่มจากเป็นขี้เรื้อน ต่อมาเริ่มมีน้ำหนองไหลออกมา ซึ่งเป็นอาการของมดลูกอักเสบกับมะเร็งปากมดลูก แล้วก็ยังมีโรคผิวหนังอีกด้วย โชคดีมีพี่ที่รู้จักมาช่วยรักษา ต้องทำคีโมไป 6 ครั้ง อาการเขาเหมือนคนเลย เดินแทบจะไหว ตาลอยๆ แต่สุดท้ายกลูตาก็ต่อสู้มาจนทุกวันนี้
“พอกลูตาหายดี ผมรู้สึกว่า เขาเป็นหมาระแวง กลัวจะโดนทิ้ง เวลาไปไหน ผมเห็นว่าเขาจะคอยมองตามผมตลอด เราก็ไปไหนด้วยกันตลอด ผมเองก็ชอบถ่ายรูป กลูตาเองก็เป็นหมาที่หน้ายิ้มตลอด ผมก็เลยจับแต่งตัว หามุมถ่ายให้ แล้วเอามาแชร์เป็นอัลบั้ม ปรากฏว่ามีคนไลค์เยอะมาก ไลค์มากกว่ารูปผมเองอีก ผมก็เลยเอามาเปิดเพจซะเลย แต่ช่วงแรกๆ เพจก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ผมเลยเอาเรื่องราวของกลูตาเป็นเขียนเป็นกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปจนติดอันดับกระทู้ยอดนิยม
สำหรับที่มาของชื่อกลูตา ยอร์ช เล่าว่า เพราะกลูตาเป็นหมาสีขาว ประกอบกับช่วงนั้นกระแสฉีกสารกลูตาให้ตัวขาวมาแรง เลยตั้งชื่อนี้ซะเลย
ซุป’ตาร์หมา-แมว อินเตอร์
มาวินอับดับ 1 ต้องยกให้เจ้าบู (Boo) น้องหมาที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นสุนัขที่น่ารักสุดในโลก พันธุ์ปอมเมอเรเนียนเพศผู้ ล่าสุด จำนวนคนที่เข้ามาคลิกติดตามหน้าเฟซบุ๊กของเจ้าบูมีมากถึง 9.8 ล้านไลค์ หลังจากเจ้าของที่ใช้นามแฝงว่า “เจ.เอช. ลี” เริ่มโพสต์รูป “บู” ลงในเฟซบุ๊กในปี 2552
นอกจากนี้ เจ้าบูยังฮอตสุดๆ ได้เป็นแอมบาสซาเดอร์ของสายการบินเวอร์จิ้น เพื่อสื่อถึงภาพลักษณ์ทางด้านการเป็นสายการบินที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ตามติดมาด้วย เจ้าเหมียวญี่ปุ่นผู้โด่งดังอย่าง “เจ้าเหมียวมารุ” แมวพันธุ์สก๊อตติชโฟลด์ ตัวอ้วนกลมที่รักการมุดถุง มุดกล่อง กระโดดเข้าๆ ออกๆ กล่องอยู่เป็นประจำ ปัจจุบันหน้าเพจของมารุมียอดสมาชิกไปไลค์แล้วถึง98,026 ไลค์ แถมยังการันตีความฮอตด้วยการเป็นพรีเซนเตอร์ของยูนิโคล่ แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของญี่ปุ่นอีกด้วย