อรวิภา-อัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์ พี่น้องนางงาม สวยไม่ทิ้งแถว

โดย...พุสดี สิริวัชรเมตตา ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เวทีนางสาวไทยไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับสองสาวสวยแห่งบ้าน “กนกนทีสวัสดิ์” เพราะไม่บ่อยนักที่จะมีสาวสวยจากบ้านไหน สามารถคว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครองได้ทั้งพี่ทั้งน้อง แต่พวกเธอทำได้!

ฝ่ายพี่ โจอี้อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ เอาชนะใจกรรมการสามารถคว้าตำแหน่งนางสาวไทยประจำปี 2552 พร้อมอีกหลายตำแหน่งพ่วงท้าย อาทิ รางวัลขวัญใจช่างภาพ นางงามบุคลิกภาพ นางงามหุ่นดี ขณะที่น้องสาว จีน่าอัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์ ก็ดำเนินตามรอยตามพี่สาวมาแบบสวยไม่ทิ้งแถว เพราะคว้าตำแหน่งนางสาวไทยประจำปี 2556 พร้อมอีกหลายตำแหน่งพ่วงท้ายเช่นกัน อาทิ รางวัลขวัญใจช่างภาพและมิสอินเทลลิเจนต์

เบื้องหลังความสวยจนลูกสาวบ้านอื่นต้องอิจฉา พี่น้องสุดซี้ โจอี้จีน่ายังมีอีกหลากหลายแง่มุมดรามา คอมมิดี้ ให้ทำความรู้จัก

 

จีน่า : นางงามสุดห้าว

โจอี้ พี่สาวคนสวย เจ้าของคาแรกเตอร์ สาวหวาน บอกว่า บ้าน “กนกนทีสวัสดิ์” มีกัน 4 พี่น้อง เป็นลูกสาวหมด อายุห่างกันไม่มาก อย่างโจอี้เป็นลูกสาวคนรองห่างกับพี่สาวคนโตไม่ถึงปี เพราะเกิดหัวปีท้ายปี ส่วนกับน้องจีน่าก็อายุห่างกันแค่ 3 ปี ดังนั้น ความสนิทสนมกันไม่ต้องพูดถึง ยิ่งทั้งสี่สาวต้องมาเข้าโรงเรียนประจำด้วยกันที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ ยิ่งสนิท เพราะต้องคอยดูแลกัน

“อยู่ที่โรงเรียน เราสี่สาวเหมือนเป็นกลุ่มอิทธิพล ประมาณว่าใครอย่ามารังแกน้องฉัน ตอนจีน่าเข้ามาเรียนมีรับน้อง โดนรุ่นพี่ดุ พี่ๆ ก็จะไปช่วย ประมาณว่า รู้มั้ยนี่น้องใคร นามสกุลอะไร มองย้อนกลับไปก็ขำ เพราะตอนนั้นเป็นความคิดแบบเด็กๆ ประมาณว่าอย่ามารังแกน้องฉัน แต่จริงๆ ก็เป็นเรื่องเล็กๆ เอง”

ตอนที่จีน่ามาประกวดนางสาวไทย ตามความฝันของเขา เป็นช่วงที่เราพี่น้องต้องอาศัยความเข้าใจกันมาก ต้องเป็นกำลังใจให้น้อง คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำ เพราะเรารู้ว่า น้องไม่ใช่แค่ไปเดินประกวด แต่น้องแบกความกดดันไว้มหาศาล ยิ่งมีพี่สาวเคยได้ตำแหน่งนี้มาแล้ว คนนอกก็ต้องจับตา

“ที่ห่วงเป็นพิเศษคือ จีน่าเป็นเด็กที่พูดตรง ติดห้าวนิดๆ โจอี้ก็ต้องคอยเตือนน้องว่า ควรวางตัวอย่างไร ช่วงนั้นเราก็มีทะเลาะไม่เข้าใจกันบ้าง เหมือนจีน่าก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมโจอี้ต้องคอยปรามไม่ให้ทำนั่นทำนี่ ทั้งที่เขาอยากเป็นตัวของตัวเอง”

เคล็บวิชาที่โจอี้สอนน้องก่อนขึ้นเวที คือ การยิ้ม โจอี้สอนจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาตอนประกวดว่า จงเป็นคนที่เลือกเอง ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก จะยิ้มให้สวยต้องยิ้มเหมือนกับยิ้มให้กับแม่ของเรา เพราะนั่นคือ รอยยิ้มที่สวยที่สุด

“ถ้าให้เปรียบเทียบจีน่าเป็นอะไรสักอย่าง คงเจาะจงไม่ได้ เพราะน้องเป็นทุกอย่าง อย่างตอนที่โจอี้แสดงละครเรื่องแรก ภูผา แพรไหม ด้วยความที่จีน่าชอบดูละคร เขาก็จะช่วยโจอี้ซ้อมบท เหมือนเป็นแอ็กติ้ง โค้ชส่วนตัว บอกว่าพูดแบบไหนดีไม่ดี เวลาไปกองถ่าย ก็ไปด้วย ไปนั่งถ่ายวิดีโอจากจอมอนิเตอร์ แล้วก็เอากระดาษไปจดเลยว่า วันนี้โจอี้ทำตรงไหนดีไม่ดีบ้าง โจอี้เองก็มีหน้าที่เป็นนักเรียนที่ดี รับฟังความคิดเห็นเอามาปรับปรุง”

 

สำหรับกิจกรรมที่สี่พี่น้องมักทำด้วยกันเป็นประจำ คือ ดูหนัง เข้าครัว และไปปฏิบัติธรรม พวกเราติดนิสัยว่าต้องสวดมนต์ก่อนนอนทุกคน พอว่างก็ไปปฏิบัติธรรม

“สิ่งที่โจอี้ได้รับจากการไปปฏิบัติธรรม คือ ได้เรียนรู้เรื่องการใช้ชีวิต รู้จักปล่อยวาง ณ จุดที่มีโอกาสทำความดีจงทำ ไม่ไขว้คว้าอะไรจนเกินตัว แต่โจอี้ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ขวนขวาย เพียงแต่ต้องทำในจุดที่เรายืนอยู่ให้ดีที่สุด ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ได้มา

โจอี้ : นางงามขี้เกรงใจ

จีน่าเจ้าของคาแรกเตอร์สวยห้าว เล่าอย่างออกรสว่า สี่พี่น้องจะมีกิจกรรมร่วมกัน คือ ทุกเย็นเราต้องมารวมตัวกันที่ห้องคุณแม่ นั่งล้อมเตียง เพื่อให้แต่ละคนเอาเรื่องที่เจอมาในแต่ละวันมาเล่า ใครมีปัญหาก็เอามาแชร์กัน ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา แต่เดี๋ยวนี้โตขึ้น บางคนอาจจะกลับบ้านดึก เราก็จะรอมาปาร์ตี้ขนมปังกันตอนเช้า

สำหรับพี่สาวในใจของจีน่า คือ เป็นพวกขี้เกรงใจมาก เกรงใจคนอื่นไปทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลามีความรัก จีน่าจะสวมบทเป็นศิลาณีส่วนตัว พอไปเดตก็มีจีน่าตามไปด้วยทุกครั้ง ช่วยสแกนหนุ่มๆ ให้

“พี่โจอี้เป็นคนขี้เกรงใจมาก อย่างเวลาไปเดต คู่เดตถามว่าจะกินอะไร เขาก็จะเกรงใจตอบว่าไม่เป็นไรค่ะ ไม่เอาค่ะ อีกฝ่ายก็งงทำไมชวนมากินอาหารแล้วไม่กิน จีน่าเลยต้องเป็นคนตอบแทนว่ากินอันนี้ๆ แทน”

นอกจากขี้เกรงใจแล้ว พี่สาวคนสวยยังเป็นพวกขี้น้อยใจและขี้งอนสุดๆ จีน่าเล่าว่า ด้วยเป็นพวกพูดตรง มีอะไรพูดเคลียร์ บางทีดูเหมือนพูดแรง แต่พี่โจอี้จะน้อยใจ รู้สึกว่าทำไมน้องพูดแรง ไม่รักกันเหมือนเดิมแล้วเหรอ

ถามถึงความประทับใจที่มีต่อพี่สาวคนนี้ จีน่าบอกว่า ยกให้พี่โจอี้เหมือนเป็นแม่คนที่ 2 เพราะเราอยู่ด้วยกันมาตลอด เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก บางอย่างที่ยาก เราไม่คิดว่าเขาจะอดทนหรือมีศักยภาพทำได้ แต่ด้วยความพยายามและตั้งใจของเขา เขาก็ทำจนสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเวทีประกวด หรือการเป็นนักแสดง สิ่งเหล่านี้ทำให้พี่โจอี้เป็นไอดอลในใจจีน่า

“ตอนที่พี่โจอี้มาประกวด ตอนอยู่บนเวทีจีน่ามั่นใจมากว่าพี่โจอี้ต้องได้ตำแหน่ง เพราะจากประสบการณ์ที่จีน่าเป็นแฟนพันธุ์แท้การประกวด เป็นคู่หูกับคุณแม่ จะดูด้วยกันทุกปี และเดาว่าใครจะเป็น 3 คนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกต้อง อย่างปีที่จีน่าประกวด จีน่ายังบอกพี่ที่เป็นรองอีก 2 คน ว่า ให้ตั้งใจนะ พวกเราน่าจะได้เป็น 3 คนสุดท้าย (หัวเราะ) แต่ก็มีระทึกเหมือนกัน เพราะก่อนประกาศตำแหน่งนางสาวไทย พี่โจอี้คว้ารางวัลอื่นๆ ไปเยอะมาก จนเริ่มคิดว่า หรือจะไม่ได้แล้ว แต่สุดท้ายพี่โจอี้ก็ทำสำเร็จ”

มาถึงวันนี้ ทั้งโจอี้และจีน่ายังยืนยันเจตนารมณ์ของทั้งคู่ ว่าอยากจะตอบแทนเวทีนางสาวไทย ซึ่งเป็นเวทีอันทรงเกียรติ ด้วยการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างไม่ลังเลเมื่อมีโอกาส และอย่างน้อยการพูดคุยในวันนี้ ก็พิสูจน์แล้วว่า พี่น้องนางงามคู่นี้ งามอย่างมีคุณค่าจริงๆ

เอื้อเฟื้อสถานที่โดย ร้านลิตเติ้ล ฮ่องกง สาขาเดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9