posttoday

Mobile Workers + Virtual Leadership บริหารคนช่วง Bangkok Shutdown (1)

10 กุมภาพันธ์ 2557

สัปดาห์ก่อนเราคุยเรื่องการบริหารองค์กรและพนักงานในช่วงเวลาที่พื้นที่กรุงเทพฯ บางส่วนถูกยึดโดย กปปส.

โดย รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / ภาพ เอพี

สัปดาห์ก่อนเราคุยเรื่องการบริหารองค์กรและพนักงานในช่วงเวลาที่พื้นที่กรุงเทพฯ บางส่วนถูกยึดโดย กปปส. เพื่อเป็นพื้นที่รณรงค์ประท้วงขับไล่รัฐบาล ทั้งนี้ผู้เขียนมีเจตนาที่จะหาทางออกให้กับองค์กร พ่อค้าแม่ขาย ตลอดจนผู้ประท้วงเองที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นพนักงาน ให้สามารถดำเนินกิจการทำมาหากินหารายได้มาเลี้ยงพนักงาน เลี้ยงตัวเอง และยังมีเหลือบริจาคให้กับกลุ่มชุมนุมใดๆ ที่สนับสนุนได้อย่างต่อเนื่อง จะมีสักกี่คนล่ะคะที่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะหยุดงานได้ยาวๆ

ในสัปดาห์นี้ ผู้เขียนอยากนำเสนอแนวคิดเรื่อง Mobile Workers (หมายถึงพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ จะเรียกเล่นๆ ว่า “พนักงานเคลื่อนที่” ก็คงจะได้ เหมือนกับที่เรามีโทรศัพท์เคลื่อนที่นั่นไงคะ) เพื่อให้ข้อมูลว่าเวลาที่เราจำเป็นต้องให้พนักงานทำงานนอกสถานที่ทำงาน เราจะมีวิธีการบริหารอย่างไร เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าพนักงานจะสามารถสร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องมีคนไปจับตาดูว่าพนักงานตั้งใจทำงานหรือเปล่า หรือว่าลูกค้าได้รับการบริการจากพนักงานตามมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่ เป็นต้น ทั้งนี้ในการที่องค์กรจะมีระบบบริหาร Mobile Workers ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวผู้บริหารเองก็ต้องมีทักษะในการบริหารและการนำโดยผ่านเทคโนโลยีสื่อสารแบบดิจิตอลเช่นกัน ผู้เขียนจึงจะนำเสนอเรื่องการพัฒนา Virtual Leadership (ภาวะผู้นำเสมือน หมายถึงการที่ผู้นำบริหารงานผ่านเทคโนโลยีสื่อสารโดยที่ไม่ต้องมีตัวเป็นๆ ให้ลูกน้องเห็นหน้า) ด้วย เพราะว่าหลักการ 2 เรื่องนี้มันต้องไปด้วยกัน

การจะเป็น Virtual Leader นั้น ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ 1.สนใจ ชอบและใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ 2.มีทัศนคติเปิดกว้าง ใจกว้าง ไม่หวงอำนาจ นิยมประชาธิปไตย ไม่ใช่อัตตาธิปไตย 3.รู้จักไว้ใจ เชื่อใจคนอื่นตามความเหมาะสม 4.ทำตัวเป็นโค้ชที่ดี และทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี (Good Rolemodel) และ 5.เป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เหตุที่ต้องมีคุณสมบัติดังกล่าว ก็เพราะว่าการบริหารพนักงานที่ไม่อยู่ในที่ทำงาน หรือตัวผู้นำเองก็ไม่อยู่ที่ทำงาน หรือองค์กรเป็นองค์กรเสมือน (Virtual Organization) ไม่มีที่ทำงาน แต่เป็นการเปิดธุรกิจทางอินเทอร์เน็ต การติดต่อพนักงานและลูกค้าก็เป็นการติดต่อทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมดหรือเป็นส่วนใหญ่

การทำงานแบบนี้จำเป็นต้องมีผู้นำที่เก่งการใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอแพด แท็บเล็ต แล็ปท็อป ฯลฯ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้หมด เพราะเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้คือ “เครื่องมือทำมาหากิน” ของทั้งผู้นำและพนักงาน ผู้นำต้องเป็นคนใจกว้าง เพราะการบริหารพนักงานเคลื่อนที่ซึ่งไม่อยู่ในสายตาของผู้บังคับบัญชา ผู้นำต้องรู้จักกระจายอำนาจ (Decentralize) ให้แก่พนักงานแต่ละระดับอย่างพอเพียง ที่พวกเขาจะสามารถตัดสินใจทำงานและแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหน้างานได้ทันท่วงที เพราะถ้าการตัดสินใจทุกอย่างต้องรอผู้บริหารตัดสินใจ จะทำให้ทำงานไม่ทันใจลูกค้าผู้รอรับบริการ ไม่ทันคู่แข่งอื่นๆ ที่พร้อมจะแซงหน้าไปแย่งลูกค้าของเรา การทำงานผ่านเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ที่ต้องอาศัยการพิมพ์ ทำให้แนวโน้มของการใช้ภาษาง่ายๆ สั้นๆ เกิดเพิ่มมากขึ้น

ถ้าผู้นำเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง เน้นพิธีรีตอง ต้องการให้ลูกน้องเขียนจดหมายแบบเต็มยศให้ระหว่างการสื่อสาร มันก็คงทำให้ลูกน้องเมื่อยมือแล้วพลอยเบื่อที่จะสื่อสารกับหัวหน้า ทีนี้เลยไม่ต้องได้รับข้อมูลครบถ้วนกันละ ผู้นำจึงต้องใจกว้างสักหน่อย อย่าถือตัวมากนัก ต้องรู้จักไว้ใจและเชื่อใจว่าลูกน้องของตนมีความสามารถมากพอที่จะตัดสินใจและทำงานได้ดี ทั้งนี้ก่อนที่จะส่งเขาออกไปท่องยุทธจักร ผู้นำก็ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี รู้จักวิธีในการโค้ชและฝึกอบรมลูกน้องในเรื่องต่างๆ จนมั่นใจว่าเขาพร้อมที่จะบินเดี่ยว ไม่ใช่รับพนักงานมือใหม่หัดขับมาได้ไม่กี่วันก็โยนเขาลงมหาสมุทรให้ลอยตัวว่ายน้ำเลย แบบนี้ไม่จมน้ำตายก็เลี้ยงโตยาก ยกเว้นลูกน้องเป็นยอดมนุษย์มาจากที่อื่นแล้ว

สุดท้ายที่สำคัญมากๆ ก็คือ ต้องเป็นนักสื่อสารที่ดี การที่ใช้เครื่องมือสื่อสารไฮเทคเก่ง ไม่ได้หมายความว่าท่านเป็นนักสื่อสารที่เก่ง การบริหาร Mobile Workers ผู้บริหารต้องเก่งในการสื่อสารรอบทิศ ทั้งพูด ฟัง เขียน เพราะธุรกิจขององค์กรในแต่ละแผนกที่มีพนักงานทำงานตามที่ต่างๆ จะดำเนินไปอย่างมีบูรณาการ ก็ต้องอาศัยการสื่อสารเป็นเครื่องมือเชื่อมโยง การสื่อสารที่ดีต้องเป็นการสื่อสารที่มีระบบตรวจสอบว่าผู้ส่งและผู้รับสารเข้าใจสารตรงกัน ต้องส่งสารหรือข้อมูลให้ทันเวลาที่ต้องการใช้ ส่งสารแล้วทุกฝ่ายรู้สึกดีต่อกัน ทักษะการสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่ต้องฝึกหัดกันทั้งผู้นำและลูกน้อง เพราะมันเป็นเรื่องที่สะท้อนถึงค่านิยมขององค์กรว่ามีสไตล์การสื่อสารแบบใด