บริหารเวลาอย่างคุ้มค่า 2 สไตล์

โดย...อนุสรา ทองอุไร ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี / กิจจา อภิชนรจเรข

ยุคที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าส่งผลให้คนยุคนี้จะนั่งทำงานที่ไหนก็ได้แล้วส่งงานออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต จึงสามารถบริหารจัดการเวลาได้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ส่งผลให้มีเวลาเหลือมากพอเพราะไม่ต้องเสียเวลาวันละ 12 ชั่วโมง ไปกับรถติดช่วงเช้าเย็น เมื่อมีเวลาเพิ่มขึ้นมีหนุ่ม 2 วัยโสดและเกษียณ เขาใช้ชีวิตกันอย่างไรให้มีความสุขกับช่วงเวลาแบบนี้

โสด...

จัดเวลาให้เหมาะสม ออกแบบชีวิตได้

ชายหนุ่มวัย 28 ปี แบรนด์ปรกฤษฎ์ หงษ์โสภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.เอ็ม.จี แมสชีนเนอรี่ เจ้าของอู่ล้างรถและเคลือบสีระดับ “โปรสตีม” อู่ล้างรถประหยัดพลังงานย่านเรียบทางด่วนรามอินทรา ด้วยความที่สร้างธุรกิจของตัวเองมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วตามสไตล์คนรุ่นใหม่ไฟแรงเพราะไม่อยากทำงานออฟฟิศตอกบัตร เขาจึงสามารถจัดเวลาให้ตัวเองได้อย่างเหมาะสม ออกแบบชีวิตได้ตามแบบที่ต้องการ เพราะไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ทำให้เขามีเวลาที่จะได้ไปออกกำลังกายทุกวัน ทำงานออนไลน์ หาความรู้และบันเทิงจากอินเทอร์เน็ต ได้ทำงานอดิเรกที่รักก็คือ สะสมรถเก่าระดับซูเปอร์คาร์ แล้วนำมาตกแต่งใหม่ให้ดูดีสวยงาม ใครๆ มักคิดว่าการทำงานอยู่ที่บ้านอาจจะยากในการควบคุมเพราะทุกอย่างดูสบายๆ เกินไป

เขาแนะนำว่าในแต่ละวันเขาจะจดโน้ตไว้ว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างไล่ตามความสำคัญ 56 ข้อ แล้วทำตามนั้นเพื่อให้ได้งานตามที่ต้องการ รวมทั้งฝึกตัวเองให้มีวินัย ไม่หยวนๆ กับเรื่องการทำงานโดยใช่เหตุ

 

นอกจากนั้นเขาเริ่มสะสมรถเก่ามาได้ 23 คัน แล้ว “เป็นงานอดิเรกที่ผมชอบ มันสอดคล้องกับธุรกิจที่ทำอยู่ด้วย เราอยู่ในวงการนี้ก็สามารถต่อยอดไปได้อีก และผมมองว่าในอนาคตมันอาจจะต่อยอดเป็นงานที่ทำเงินให้ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่คิดจะทำขอเป็นงานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข ถ้าหาสะสมได้สัก 10 กว่าคันก็อาจจะลุกขึ้นมาทำให้ได้ประโยชน์ขึ้นมา มีคนรู้จักซื้อเฟอรารีเก่ามาคันละ 3 ล้านกว่าบาท ตกแต่ง ทำเครื่องใหม่สวยดูดีขึ้น ขายไปได้ 7 ล้านบาท ถ้าคิดจะต่อยอดทำเป็นธุรกิจแล้วละก็ถือว่าไปได้ดีทีเดียวได้ทั้งเงินและความสุข”

แต่ละวันของเขานอกจากทำงานส่วนตัว ซึ่งมักจะทำงานอยู่ที่บ้านเป็นหลัก การออกไปหาลูกค้าหรือประชุม เพียง 23 ครั้งต่อสัปดาห์ ที่เหลือเขาก็มีงานอดิเรกที่มีความสุข แล้วเขายังจัดเวลาในช่วงสุดสัปดาห์ไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด และปีละ 2 ครั้งที่จะหยุดยาวสัก 10 วัน เพื่อท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อเป็นการเปิดโลกและชาร์ตแบตให้กับชีวิต เขาคิดว่าชีวิตต้องมีความสมดุลเวิร์กฮาร์ดแต่ก็เพลย์ฮาร์ด เช่นกัน ล่าสุดเดือนมิ.ย.นี้ เขาเตรียมตัวไปดูบอลโลกที่บราซิลกับแก๊งเพื่อนๆ

เขาบอกว่าเขาตั้งใจจะเกษียณอายุจากการทำงานใน วัย 4850 ปี ดังนั้นทุกวันนี้คือการวางแผนและเตรียมตัว ทางด้านการเงินเพื่อไว้ใช้หลังเกษียณอย่างมั่นคง โดยตั้งใจว่าหลังเกษียณจะเดินทางรอบโลก

 

เกษียณ

เตรียมชีวิตเกษียณตั้ง 40 ปี แต่ละวันไม่เคยเหงา

ผู้ชายวัย 68 ปี สถาพร สิริสิงห อดีตผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขามีวัยเกษียณที่หลายๆ คนอิจฉา เขาทำงานจนอายุ 63 ปี เพิ่งเกษียณเมื่อ 5 ปีเขามีความสุขกับวัยเกษียณอย่างแรงส์ เพราะเขามีงานอดิเรกที่รักแถมยังสร้างรายได้ที่ดีอีกด้วย ทุกวันนี้เขาแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นบูทีคโฮเทลขนาด 8 ห้อง บริหารจัดการเอง และมีนวดไทยอยู่ด้วยย่านรัชโยธิน ชื่อสิรีณ แถมมีงานอดิเรกในการซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่ามาตกแต่งให้ดูสวยงามน่าใช้ เอาไว้ตกแต่งตามคอนโดและบ้านเช่า ที่เขามีอยู่เกือบ 10 หลัง เอาอันนั้นไปใส่อันนี้ เอาอันนี้ไปใส่หลังนั้น ใครชอบอยากซื้อก็ขาย

เขาเล่าว่า แต่ละวันของเขามีกิจกรรมทำตลอดไม่เคยเหงา ทุกเช้าตรู่เขาจะไปวิ่งที่สวนรถไฟ เสร็จแล้วส่งหลานไปโรงเรียน กลับมาก็มาดูแลสวนเพราะบริเวณบ้านของเขามีสวนอยู่รอบบ้านไม่มีคนสวนทำทุกอย่างเองมีกรรไกรคู่มือ 1 อัน คอยตัดคอยเล็ม เปลี่ยนกระถาง ใส่ปุ๋ย ลงต้นไม้ใหม่ ทุกวันพุธไปซื้อต้นไม้ที่สวนจตุจักร วันเสาร์อาทิตย์ไปเดินหาเฟอร์นิเจอร์เก่ามาตกแต่ง บ่ายๆ ก็ท่องโลกอินเทอร์เน็ตเล่มเกมบ้างหา ข้อมูลโน่นนี่นั่น เขาเว็บเซกันแฮนดอทคอม หาของเก่าเก๋ๆ มาทำอะไรแก้เหงาเพลินๆ

 

“ผมเตรียมชีวิตหลังเกษียณไว้ตั้งแต่ตอนอายุ 40 ปี ตอนนั้นทำงาน ททท. อยู่ที่สิงคโปร์มีเวลาว่างเยอะ ผมก็ไปหาเฟอร์นิเจอร์เก่างานไม้เก๋มาทำของแต่งบ้านเริ่มจากใช้เองก่อนพอมีคนชมคนชอบก็เลยทำขาย ปรากฏว่าไปได้ดีก็ทำมาเรื่อยจนถึงตอนนี้ มันเป็นงานอดิเรกที่ทำรายได้ให้ดีทีเดียว”

นอกจากนี้ เขามีบ้านที่เขาใหญ่ หัวหิน ทุกวันหยุดก็ขับรถไปปลูกต้นไม้บ้าง ไปดูบ้านบ้าง ทุกปีจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกับภรรยาครั้งละ 10 วัน เขาออกแบบชีวิตหลังเกษียณว่ามีอะไรที่อยากทำ ไม่ใช่ต้องทำ ถ้าเราเตรียมพร้อมไว้ดีและเร็วก็จะมีชีวิตหลังเกษียณที่มีความสุข