posttoday

นักธุรกิจพันธุ์ใหม่ ปลุกพลังความสำเร็จให้ SME

01 กุมภาพันธ์ 2557

จุดมุ่งหมายของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมี เช่นเดียวกับเป้าหมายการจัดตั้งบริษัท

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

จุดมุ่งหมายของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมี เช่นเดียวกับเป้าหมายการจัดตั้งบริษัท สิ่งที่เจ้าของกิจการต่างต้องการ คือ สร้างยอดขาย กำไร และทำให้บริษัทเติบโตและอยู่รอด ถือเป็นเป้าหมายที่นักธุรกิจทุกคนปรารถนาสูงสุด แต่ยิ่งไปกว่านั้น หากการจัดตั้งบริษัทเพื่อสร้างธุรกิจให้เป็นเอสเอ็มอีต้นแบบของประเทศ และส่งต่อแรงบันดาลใจให้เอสเอ็มอีมีไฟแห่งความสำเร็จและกล้าเปลี่ยนองค์กรไปสู่อนาคต ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งกว่า

“รวิศ หาญอุตสาหะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ เจ้าของแบรนด์ผงหอมศรีจันทร์ อายุ 34 ปี ได้เข้ามารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ มาประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นทายาทรุ่น 3 ที่เข้ามาเพื่อสืบทอดธุรกิจครอบครัว เพราะแบรนด์นี้มีตำนานยาวนานถึง 66 ปี จากจุดเริ่มต้นของบริษัทที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2491 จากรุ่นแรกคือ คุณปู่ รุ่นที่สองเป็นคุณลุง และรุ่นที่สามคือ “รวิศ”

การตัดสินใจเข้ามาทำงานเพราะรู้ดีว่าแบรนด์นี้มีประวัติและเป็นสินค้าที่มีลูกค้าเหนียวแน่น จากกลุ่มลูกค้าฐานใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ที่ชื่นชอบใช้สินค้ามาก ภายใต้คุณค่าของแบรนด์ผงหอมศรีจันทร์ที่เป็น “สูตรลับระดับตำนาน” แต่การนำแบรนด์ที่มีอายุยาวนานกว่า 60 ปี มาพัฒนาให้เป็นสินค้าของคนรุ่นใหม่ ถือเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่ก็เป็นความท้าทายที่น่าสนใจ

นักธุรกิจพันธุ์ใหม่ ปลุกพลังความสำเร็จให้ SME

 

ก่อนหน้านี้ รวิศได้ทำงานเป็นนักบริหารการเงินกับธนาคารพาณิชย์ต่างชาติมานานหลายปี ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวิชาที่เรียนจบมาด้านวิศวะไฟฟ้าแต่อย่างใด รวมถึงการเข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัวครั้งนี้ ก็ถือเป็นความรู้ใหม่ที่ต้องอาศัยแรงบันดาลใจในการก้าวต่อไป

หลังจากได้เข้ามาทำงานประมาณ 56 ปี จึงถึงจุดที่คิดว่าเราเกิดขึ้นมาเพื่อทำอะไร รวมไปถึงการถามหาความหมายของการอยู่บนโลกนี้ ซึ่งคิดว่าทุกคนต้องเคยถามคำถามนี้กับตัวเอง และคำถามนี้ก็ได้มาจากการชื่นชอบการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2 เล่มต่อสัปดาห์ จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

นี่คือที่มาที่รวิศตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจต่อจากครอบครัว พร้อมกับมีเป้าหมายอยากสร้างบริษัทไทยขนาดเล็กๆ หรือธุรกิจเอสเอ็มอีให้ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างตำนานใหม่ให้ทุกคนจดจำ เพราะคนส่วนใหญ่จะชื่นชอบและนึกถึงแต่คนที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งเชื่อว่าจะช่วยส่งต่อแรงบันดาลให้แก่เอสเอ็มอีไทยรุ่นใหม่ให้สืบทอดเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จต่อไป และเห็นตัวอย่างจากบริษัทไทยจำนวนมากที่สามารถสู้กับคู่แข่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากต่างชาติได้

นักธุรกิจพันธุ์ใหม่ ปลุกพลังความสำเร็จให้ SME

 

“ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ผมก็อยากทำหน้าที่นักบริหาร เพื่อบริหารบริษัทให้ประสบความสำเร็จให้ได้ เพราะถ้าวันหนึ่งผมต้องจากโลกนี้ไป ก็จะได้ไม่เสียชาติเกิด” รวิศ กล่าว

สำหรับเป้าหมายที่จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จนั้น คือการทำให้องค์กรเติบโตเป็นเอสเอ็มอีที่แข็งแกร่ง และเป้าหมายระยะยาวต้องการนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อก้าวสู่องค์กรมืออาชีพ คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปี 2563 โดยที่ผ่านมาสามารถสร้างแบรนด์ “ผงหอมศรีจันทร์” ให้คนทั่วประเทศรู้จักผ่านการขยายช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่อย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น

รวมทั้งได้ปรับระบบภายใน นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ทำให้บริษัทจากอดีตกว่า 60 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีคอมพิวเตอร์ก็มีคอมพิวเตอร์ พนักงานสามารถทำงานผ่านมือถืออย่างสะดวก สบาย ที่สำคัญข้อมูลทุกอย่างอยู่บนระบบคลาวด์ เสมือนว่าทำให้แบรนด์ผงหอมศรีจันทร์เกิดและเติบโตใหม่ภายใต้ยุคดิจิตอล

ขณะเดียวกัน เมื่อบริษัทเริ่มเติบโตแล้ว จึงอยากส่งเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จให้แก่เอสเอ็มอี จึงเริ่มทำโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “ครีเอทีฟ ฟาร์ม” (Creative Farm) ร่วมกับเจ้าของเอสเอ็มอีที่มีขนาดบริษัทระดับกลาง เพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทำธุรกิจให้แก่เอสเอ็มอีรายเล็กๆ ฟรี ซึ่งได้เริ่มโครงการในปีนี้ คาดว่าจะมีเอสเอ็มอีเข้ามาร่วมโครงการได้ปีละ 34 บริษัท ให้คำแนะนำด้านต่างๆ เพื่อส่งต่อและสร้างแรงบันดาลให้เอสเอ็มอีไทยรุ่นใหม่

นักธุรกิจพันธุ์ใหม่ ปลุกพลังความสำเร็จให้ SME

 

“เป็นโครงการที่อยากทำด้วยใจ และพร้อมทุ่มเทช่วยเต็มกำลัง” รวิศ ย้ำอย่างหนักแน่น

เขามองว่า จุดเริ่มต้นของความสำเร็จของคนมาจากตัวเราเองคือ การบริหารเวลา เพราะหากสามารถบริหารเวลาได้ดีและแบ่งเวลาได้ถูกต้องจะส่งผลดีให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ประสบความสำเร็จก็มาจากการบริหารเวลาให้เป็นนั่นเอง

อีกหนึ่งงานที่รวิศต้องการจะส่งต่อแรงบันดาลให้แก่เอสเอ็มอี คือ การเขียนหนังสือ โดยได้เขียนหนังสือ มาร์เก็ตติ้ง เอฟเวอร์ธิง (Marketing Everything) อยากถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ จากการทำงาน และการพบเจอพ่อค้า แม่ค้า โดยไม่มีทฤษฎีการตลาดเพราะตนเองก็ไม่ได้เรียนมาด้านนี้ แต่หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นเล็กๆ ให้เอสเอ็มอีไทยกล้า พร้อมรุกธุรกิจ หากมีเป้าหมายของชีวิตและเป้าหมายของธุรกิจอย่างชัดเจน ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายหนังสือทั้งหมดจะมอบให้กับมูลนิธิเด็ก

เป็นพลังให้เอสเอ็มอีรุ่นใหม่ กับ “รวิศ” เพราะผู้ชายคนนี้มีความฝัน ความศรัทธา มีเป้าหมายชีวิตชัดเจน พร้อมกับความมุ่งมั่นเต็มกำลัง จึงทำให้ความฝันที่ตั้งไว้สามารถเกิดขึ้นจริงได้