สุขและปลงของ ‘ตัน’ ในสวนสาธารณะ

โดย...รัชนีย์

หลังจากโดนกระแสการเมืองกระหน่ำจนทำให้ “ตัน ภาสกรนที” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตัน เก็บตัวเงียบนานร่วม 1 เดือน ในสถานที่ที่เขาไปบ่อยๆ เพื่อหลบหลีกจากความวุ่นวาย ปล่อยชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ณ สวนสาธารณะบ่อทอง

มุมว่างของชายที่ย่างก้าวเข้าวัย 54 ปีคนนี้คือการปลูกต้นไม้ โดยมีฝันอยากปลูกต้นไม้ในสวนสาธารณะบ่อทอง จ.ชลบุรี ให้ได้แสนต้น บนพื้นที่ที่มีอยู่ร่วม 30 ไร่ แม้ว่าตอนนี้จะปลูกได้แค่เพียงหมื่นกว่าต้นเท่านั้น แต่หลายปีมานี่เขาได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่นานมากขึ้น

หากมีเวลาว่างหรือหลบหนีจากความวุ่นวายในกรุงเทพฯ ก็จะมาที่สวนสาธารณะบ่อทอง เป็นสถานที่ที่อยากมามากจริงๆ ในวัยนี้ อยากกลับไปทุกครั้งที่ว่าง ใช้ชีวิตขี่มอเตอร์ไซค์สบายๆ เข้าสวน และใช้เวลาอยู่นานร่วม 45 ชั่วโมง การปลูกต้นไม้สวนบ่อทอง ช่วยให้เราใจเย็น ผ่อนคลาย และมีแนวคิดดีๆ ทั้งการทำธุรกิจ การบริหารงาน เมื่อคิดอะไรได้ก็จะโทรสั่งงานกับลูกน้อง เพราะการทำงานตอนนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่ออฟฟิศแล้ว

สวนสาธารณะบ่อทอง ยังเป็นสถานที่คัดกรองกระบวนคิดมุขเด็ดๆ ผมจะเดินไปได้ยินเสียงจากธรรมชาติ สายลม แสงแดด เสียงนกร้อง และอัดเสียงผ่านโทรศัพท์ผ่านไอโฟนไปเรื่อยๆ เผื่อได้มุมดีๆ ทำทอล์กโชว์ที่กำลังจะมีขึ้นวันที่ 8-9 ก.พ.นี้ ซึ่งอาจจะจัดเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แถมยังเป็นสถานที่ออกกำลังกาย ช่วงนี้น้ำหนักลดไป 5 กิโลกรัม เพราะการออกกำลัง

ที่สำคัญเป็นสถานที่ที่ทำให้มีความสุขและปลงกับสิ่งรอบข้างกับเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้น

“นาทีนี้ต้องยอมรับว่ามุมมองการทำธุรกิจเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ไม่ใช่แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เพราะมีแต่จะสูญเสีย ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ผมใช้เวลาอยู่กับตัวเอง 1 เดือน และปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ส่วนมุมมองธุรกิจถึงเวลาที่จะต้องปล่อยให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้น เราแค่อยู่เบื้องหลังเป็นที่ปรึกษา ผมรู้สึกเต็มที่กับชีวิต และรอวันส่งมอบธุรกิจให้กับทายาทหรือลูกหลานตระกูลภาสกรนทีต่อไป” ตัน กล่าว

ผมมีลูกทั้งหมด 3 คน คนแรกน้องกิ๊ฟ วริษา เป็นลูกสาวคนโต เรียนจบแล้ว และได้เริ่มทำธุรกิจส่วนตัวบ้างแล้ว ซึ่งผมคอยดูอยู่ห่างๆ และเป็นที่ปรึกษาให้ตลอด ส่วนลูกอีก 2 คน เก็ท ภาสกร เป็นลูกชายคนกลาง และน้องนุชคนสุดท้อง ใกล้ใกล้ ใกล้นที กำลังอยู่ในวัยเรียน

หลังจากนี้ไปธุรกิจที่สร้างมาทั้งหมดของชีวิต ตั้งใจว่าจะส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกๆ ก็เปรียบเสมือนการวิ่ง 4x100 ถึงเวลาก็ต้องส่งไม้ผลัดให้กับคนรับช่วงวิ่งให้ถึงเส้นชัย ผมจะเกษียณตัวเองออกจากธุรกิจเมื่อไรยังไม่รู้ แม้ว่าจะเหลืออีกเพียงไม่กี่ปีก็จะเข้าสู่อายุ 60 ปีแล้วก็ตาม

หากถามว่าผมชอบปลูกต้นไม้อะไร ตอบได้ทันทีเลยว่า เป็นต้นยางนา เพราะภรรยาของผมชอบต้นไม้ชนิดนี้มากเป็นพิเศษ ยางนาเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่สูง 40-50 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นตรง เปลือกเรียบหนาสีเทา โคนต้นมีพูพอน เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ใบเดี่ยวรูปไข่แกมรูปหอกกว้าง ปลายใบสอบเรียว เป็นต้นที่สูงและมีความสง่า และยังเป็นพืชที่สร้างรายได้อีก สวนที่ผมปลูกส่วนใหญ่เป็นต้นยางนาแทบทั้งสิ้น

ที่บ่อทองตอนนี้ปลูกป่าได้หมื่นต้น แต่จะปลูกให้ได้แสนต้นเมื่อไหร่ คงตอบไม่ได้ จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ทั้งโซนป่า โซนดอกไม้นานาพรรณ สวนผลไม้ บ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงหมู หรือมีทุกอย่างเกี่ยวกับธรรมชาติ หากเข้ามาในสวนแล้วสามารถเก็บผลไม้หรือมีปลาไว้กินได้เลย ไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหน คนสวนที่นี่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อของกิน เป็นการเรียนรู้และใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ และสถานที่แห่งนี้ผมจะทิ้งไว้ให้ลูกหลานต่อไป

ตอนนี้ชอบการท่องเที่ยวดูงาน เที่ยวในที่ที่อยากจะไป เพื่อเปิดโลกทัศน์ของตัวเองให้กว้างขึ้น การท่องเที่ยวแม้ว่าจะทำให้เสียเงิน แต่สิ่งที่ได้มาเสมอคือความรู้สิ่งใหม่ๆ ว่าโลกไปถึงไหน ใครทำอะไรมุมมองของเขา การเรียนรู้มีหลายวิธีที่จะทำให้เกิดปัญญา หากมีเงินสักหนึ่งก้อน สิ่งแรกที่ควรทำต้องลงทุนสร้างปัญญา และเมื่อมีปัญญาก็จะก่อให้เกิดทรัพย์ตามมาและชื่อเสียง

คนเรามีทั้งโชคดีและบางครั้งก็โชคร้าย แต่จะทำให้แกร่งและแข็งแรงขึ้น ค่อยๆ สะสมประสบการณ์ใหม่ไปเรื่อยๆ

นั่นคือชีวิตของผู้ชายที่ชื่อว่า ตัน ภาสกรนที ที่มักบอกใครต่อใครว่า ชีวิตไม่มีทางตัน