posttoday

ฝันของนิวเจน

11 มกราคม 2557

เด็กไทยยุคใหม่มีสิ่งเร้ามากมายต่างจากสมัยก่อน เทคโนโลยีทันสมัย ทำให้เจ้าหนูหลายคนฉลาด เรียนรู้เร็ว

โดย...กองบรรณาธิการ ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เด็กไทยยุคใหม่มีสิ่งเร้ามากมายต่างจากสมัยก่อน เทคโนโลยีทันสมัย ทำให้เจ้าหนูหลายคนฉลาด เรียนรู้เร็ว มีความคิด ก้าวหน้า มีทักษะ แล้วฝันของเด็กไทยในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 11 ม.ค.มีอะไร @weekly ภูมิใจนำเสนอ

น้องณัชชา :

คนไทยแชร์ริ่งแคร์ริ่งให้มาก

จากการแจ้งเกิดด้วยคลิปสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีน ในรายการที่คิดชื่อขึ้นมาเอง นั่นคือรายการ “ณัชชาลูกสาวพี่บ็อบ” น้องณัชชา “ณัชชาวีณ์ โกศลพิศิษฐ์” ก็ถูกทาบทามให้มาร่วมงานกับช่อง 3 ทำรายการเอเชีย คอนเน็ค ช่วงณัชชาลูกสาวพี่บ็อบด้วยรูปแบบเดียวกับคลิปวิดีโอ ซึ่งก็ดังเป็นพลุแตก จนลูกเล็กเด็กแดง รวมทั้งคุณลุงคุณป้าคุณน้าคุณอาทั่วฟ้าเมืองไทยต่างติดตามชมอยู่เป็นประจำ

วันเด็กปีนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็กเก่งอย่างน้องณัชชา ซึ่งสาวน้อยผู้นี้เผยว่า เธออยากให้มีหิมะตกในประเทศไทย เพราะจะได้เล่นหิมะ และโยนหิมะใส่คุณแม่ ใส่ปะป๊า ใส่คุณตาคุณยาย

“หนูจะชวนเพื่อนสนิทชื่อแชนาและดีโนมาเล่นด้วยกันค่ะ”

นอกจากอยากให้มีหิมะตกในเมืองไทยแล้ว น้องณัชชายังเผยอีกว่า เธออยากให้ไม่มีใครทะเลาะกัน

ฝันของนิวเจน

 

“ถ้ามีใครทะเลาะกัน ประเทศไทยก็จะวุ่นวายเข้าไปใหญ่ หนูอยากให้คนไทยแชร์ริ่งและแคร์ริ่งกันให้มากๆ ค่ะ เหมือนเรามีตุ๊กตาตัวหนึ่ง แล้วเพื่อนขอเอาไปเล่น แล้วเราให้เพื่อนไป นั่นคือแชร์ริ่ง แล้วถ้าเพื่อนหกล้ม แล้วเราช่วยเพื่อนให้ลุกขึ้นยืน นั่นก็คือแคร์ริ่ง”

นอกจากนี้ น้องณัชชายังอยากให้เมืองไทยสวยและสะอาดที่สุดอีกด้วย

“หนูอยากให้เมืองไทยไม่มีขยะบนดิน ในน้ำ และทุกที่เลย หนูทิ้งขยะในถังขยะตลอด หนูเลยอยากให้คนไทยทิ้งขยะในถังขยะ หนูอยากให้ถังขยะมีตัวการ์ตูน เพื่อนๆ หรือทุกคนจะได้ขยันเอาขยะมาทิ้งลงในถังขยะ ถ้าเป็นถังขยะของผู้หญิงหนูจะให้มีรูปเจ้าหญิงออโรร่า ซึ่งเป็นเจ้าหญิงนิทรา และถังขยะของผู้ชายเป็นสไปเดอร์แมน เพราะหนูรู้ว่าผู้ชายชอบสไปเดอร์แมน และถ้ามีคนให้ของขวัญวันเด็กแก่หนู หนูก็อยากได้ตุ๊กตาเจ้าชายและเจ้าหญิง และมีปราสาทหลังใหญ่ๆ ด้วยค่ะ”

ถามว่า ถ้าวันหนึ่งน้องณัชชาโตขึ้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอะไรบ้าง น้องณัชชาเผยว่า เธอจะขอให้ผู้ใหญ่เลี้ยงลูกให้ดีๆ โตขึ้นจะได้เป็นคนดี

“แต่หนูว่าไม่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีเลยค่ะ หนูอยากเป็นคนธรรมดา ที่ใช้ชีวิตปกติธรรมดา ไปไหนก็ได้ อยากทำอะไรก็ได้ หนูอยากเป็นเชฟมากกว่าค่ะ เพราะเชฟได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับของกิน อ้อ มีอีกอย่าง หนูอยากเป็นคุณครูสอนศิลปะ เพราะคุณแม่บอกว่าหนูวาดรูปดีกว่าคุณแม่อีก (หัวเราะ)”

ในฐานะที่น้องณัชชาพูดได้หลายภาษา แถมยังเป็นพิธีกรสอนภาษาอีกด้วย เราเลยถามน้องณัชชาว่า ถ้ามีเด็กขี้เกียจไม่ชอบเรียนภาษา ทั้งไทย อังกฤษ หรือภาษาอะไรก็แล้วแต่ น้องณัชชาอยากจะบอกเด็กๆ เหล่านั้นว่าอย่างไร น้องณัชชายิ้มก่อนตอบ

“หนูจะบอกเด็กๆ เหล่านั้นว่า เธอต้องเรียนรู้นะ ถ้าเธอไม่เรียน เธอก็จะไม่รู้ภาษาอะไรเลย แต่ถ้าเธอสนใจอยากจะเรียน ก็ให้เธอตั้งใจเรียนกับคุณครู และพยายามดูดีวีดีสอนภาษา เพื่อฝึกภาษาที่เธอสนใจ หรือจะดูรายการณัชชาลูกสาวพี่บ็อบก็ได้นะคะ (หัวเราะ) ตอนนี้หนูกำลังฝึกภาษาสเปนอยู่ค่ะ ก็พอพูดได้นะคะ”

นอกจากการเป็นพิธีกรสอนภาษา งานในวงการบันเทิงอีกงานหนึ่งที่ณัชชาสนใจทำ เธอเผยว่า เธออยากเป็นนักแสดง

“หนูอยากแสดงเป็นนางเอก เหมือนนางเอกการ์ตูนเรื่องโฟรเซ่น หนูชอบเอลซ่า ชอบตัวสโนว์แมน ตลกดี แล้วก็ชอบเพลงด้วย เลท อิท โก (ฮัมเพลงประกอบ) หนูอยากเป็นนางเอกละครตลกๆ เพราะตอนนี้หนูชอบดูละครเรื่องรักสุดฤทธิ์ หนูชอบพี่อาไทที่เล่นเป็นน้องนางเอก ในเรื่องเขาเล่นเป็นตัวละครที่ชื่อ ชิน เขาตลกมาก ตลกสุดๆ ตลกกว่านางเอกอีก พี่เจมส์ จิรายุ ก็ตลก”

ท้ายสุด น้องณัชชาได้บอกเราเกี่ยวกับบ้านในฝันของเธอว่า ถ้าเธอมีบ้านในฝัน เธออยากให้บ้านของเธอเป็นสีรุ้ง

“ที่หนูอยากให้บ้านเป็นสีรุ้ง เพราะหนูชอบสายรุ้ง หนูอยากให้บ้านมีม้าตัวเล็กๆ สีขาว และมียีราฟ ทั้งสองตัวนี้เป็นสัตว์โปรดของหนู และในบ้านหลังนี้ต้องมีหนู มีปะป๊า คุณแม่ คุณตา คุณยาย อากง น้องพุฒ น้องพร้อม และน้องในท้องคุณแม่อีกคนหนึ่งด้วย”

สำหรับบ้านในฝันของน้องณัชชา เธอได้แบ่งบ้านออกเป็น 4 ห้อง “มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องหนึ่งมีปะป๊า คุณแม่ หนู และพร้อม นอนด้วยกัน ส่วนอีกห้องให้คุณตา คุณยาย อากง และพุฒ นอนด้วยกัน ที่เหลืออีก 2 ห้อง เอาไว้เป็นห้องนั่งเล่นค่ะ”

ฝันของนิวเจน

 

เมื่อมีบ้านในฝันแล้ว หน้าที่ของน้องณัชชา คือการช่วยปะป๊าและคุณแม่เลี้ยงน้อง กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า และตากผ้า “เวลาเลี้ยงน้อง หนูชอบเล่นตลกให้น้องดู น้องจะได้หัวเราะ หนูไม่เคยแกล้งน้องเลยนะคะ ถามปะป๊าและคุณแม่ได้เลย (หัวเราะ)”

เดียวพัทธดนย์ :

ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี

“น้องเดียวพัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์” หรือที่รู้จักกันในนาม น้องเดียว เจ้าหนูอัจฉริยะ 200 หน้า แห่งรายการเกมทศกัณฐ์เด็กตั้งแต่ปี 2549 มาถึงวันนี้น้องเดียวกำลังเติบโตเป็นหนุ่มน้อยวัย 12 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และไม่ทำให้เสียชื่อชั้นเจ้าหนูอัจฉริยะ ผลงานเรียนที่ผ่านๆ มาของน้องเดียว เรียกว่า ดีติดเพดาน นอกจากนี้ยังเป็นเด็กกิจกรรม ล่าสุดน้องเดียวเป็นพิธีกรรายการ “สภาเสียงไร้เดียงสา” ออกอากาศเวลา 16.00 น. ในวันพฤหัสบดีและศุกร์ ทางช่องไทยพีบีเอส

น้องเดียว บอกว่า อยากขอให้ผู้ใหญ่ทำสิ่งดีๆ ประพฤติตัวดีๆ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กๆ ประเทศไทยในฝันของน้องเดียวเบ่งบานไปด้วยประชาชนที่รักใคร่สามัคคีกัน ประเทศไทยมีความเจริญ มีพัฒนาการต่างๆ ที่ดี แต่น้องเดียวย้ำว่า ทุกอย่างต้องเริ่มด้วยการเปลี่ยนแปลง

“สิ่งที่ผมอยากให้ประเทศไทยของเรามี ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงใกล้ตัวเรา อย่างที่ใกล้ตัวเด็กอย่างผมที่สุดคือ เรื่องการศึกษา การศึกษาตอนนี้เน้นวิชาการ ไม่ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เด็กเก่งอย่างเดียวไม่มีคุณธรรม ตอนนี้คนเก่งหาง่าย แต่คนที่เก่งและดีหายาก เราจึงหาคนเป็นผู้นำที่ดียาก

“เรื่องของการเมืองผมก็อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะการเมืองเป็นสิ่งที่มีผลกระทบเกี่ยวเนื่องกับทุกสาขาอาชีพ เด็กก็เกี่ยว ที่เคยพูดกันว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องของเด็ก ไม่ใช่แล้ว เมื่อผู้ใหญ่ไม่เป็นผู้นำที่ดีเป็นแบบอย่างที่ดี เราจึงต้องติดตามเหตุการณ์แล้วพิจารณา จะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของเราไม่ได้แล้ว”

เจ้าหนูอัจฉริยะ เล่าต่อว่า เราต้องเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ประเทศไทยถึงจะเปลี่ยนแปลงได้ ที่สำคัญที่สุด เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ชนะใจตัวเองก็ชนะทุกอย่าง จัดระเบียบจากข้างในเราก่อน ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ที่ไม่ใช่เรื่องของเราก็ไม่สนใจ คนเดี๋ยวนี้มีทัศนคติที่ไม่เกี่ยวกับเราไม่เข้าไปยุ่ง ต้องปรับเปลี่ยนมุมมองเรา เปลี่ยนตัวเอง เพราะเราเป็นฟันเฟืองชิ้นเล็กๆ ที่จะทำให้ประเทศไทยดีได้

ผมว่าเด็กจะเติบโตมาเป็นแบบไหน อยู่ที่สิ่งแวดล้อมด้วย อยู่ที่ผู้ใหญ่จะขัดเกลา ครอบครัวมีทัศนคติแบบไหน เมล็ดพันธุ์มาจากต้นเดียวกันก็เจริญเติบโตไม่ต่างกันมาก ผมจึงอยากให้ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างที่ดี พอผู้ใหญ่เป็นคนดี เด็กเขาก็ดีตามสิ่งแวดล้อมที่เขาอยู่”

เจ้าหนูอัจฉริยะ

อยากเห็นปฏิรูปการศึกษา

ด.ช.ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี เด็กอัจฉริยะของประเทศไทยที่เคยสร้างชื่อเสียงจากคลิบปวิดีโอการแสดงเดี่ยวไวโอลินเมื่ออายุเพียง 4 ขวบ ในเว็บไซต์ ยูทูบ ด้วยยอดการเข้าชมกว่า 23 ล้านครั้ง และผลงานศิลปะจนได้ชื่อว่าเป็นจิตรกรที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกที่สามารถจัดนิทรรศการเดี่ยว หรือ Solo Art Exhibition และสามารถจำหน่ายผลงานศิลปะสีน้ำในแนวนามธรรม หรีอ Abstract

ปัจจุบัน น้องธนัช อายุ 11 ขวบ ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 15 เด็กที่มีความสามารถพิเศษระดับอัจฉริยะของโลก ทำให้ได้รับโอกาสให้เข้าไปศึกษา และทำงานวิจัยในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

น้องธนัช บอกกับพี่ๆ ว่า สิ่งที่อยากเห็นในประเทศไทย ก็เรื่องการพัฒนาเรื่องการศึกษา “ตัวผมเองก็ได้รับการศึกษาแบบโฮมสคูลจนสามารถพัฒนาความรู้ความสามารถที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่

“เท่าที่ผมได้ฟังจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่อยู่ในระบบโรงเรียน ส่วนใหญ่จะบ่นเรื่องการบ้านที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่กลับต้องใช้เวลามาก ของผมโชคดี คุณพ่อคุณแม่ให้ทำการบ้านแบบฝึกหัดเท่าที่ควรจะต้องทำ เพื่อฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ ผมจึงมีเวลาที่จะไปทำอย่างอื่นที่ผมอยากทำ อยากเรียนรู้ ที่ผู้คนมักจะเรียกผมว่าเด็กอัจฉริยะ จริงๆ แล้ว ผมว่าผมก็เป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งนะครับ แต่เผอิญผมมีโอกาสได้เรียนรู้และเข้าใจอะไรๆ หลายอย่างเร็วและก่อนเด็กคนอื่นๆ เท่านั้น

“ผมคิดว่าระบบการศึกษาของประเทศไทย เราควรเปิดโอกาสและสนับสนุนให้เด็กแต่ละคนค้นหาความถนัด ความชอบและส่งเสริมพัฒนาให้เป็นความสามารถในระดับสูง ให้แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ประเทศเราก็จะมีคนเก่งในทุกๆ สาขาอาชีพ พร้อมที่จะแข่งขันกับนานาประเทศ

“เพราะศักยภาพของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับความชอบ ความถนัด มากกว่าที่ทุกคนจะต้องเรียนสิ่งที่เหมือนๆ กัน การวัดความเก่งกันเพียงแค่เรื่องการทำข้อสอบทางวิชาการ แล้วคนเก่งก็ไปกระจุกกันอยู่ในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง แทนที่จะกระจายคนเก่งเหล่านี้ ให้ไปช่วยกันพัฒนาทุกๆ วิชาชีพให้เข้มแข็ง และจะเป็นการช่วยกันพัฒนาประเทศโดยรวมมากกว่าครับ” น้องธนัช เผยความเห็นเรื่องความสำคัญของระบบการศึกษาที่จะช่วยพัฒนาประเทศได้ดีที่สุด

เด็กโอลิมปิก

ตจว.สำคัญไม่แพ้ กทม.

มาดูเด็กเก่งขั้นเทพ วิชัย กลั่นกล้า วัย 15 ปี นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ผู้เพิ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกเอเชีย 2013 ที่ผ่านมา บอกว่า อยากให้ประเทศไทยพัฒนาที่สุด คือ ระบบการศึกษา โดยโรงเรียนควรจัดติวพิเศษสำหรับนักเรียนในองค์ความรู้ต่างๆ เเต่ละวิชา โดยเฉพาะวิชาคณิต