posttoday

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่

12 ธันวาคม 2556

เดี๋ยวนี้ในแต่ละประเทศส่วนใหญ่มักจะมีฝ่ายหญิงมากกว่าฝ่ายชาย โดยเฉพาะประเทศไทย จำนวนเพศหญิงต่อเพศชาย

โดย...ชมดาว / ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

เดี๋ยวนี้ในแต่ละประเทศส่วนใหญ่มักจะมีฝ่ายหญิงมากกว่าฝ่ายชาย โดยเฉพาะประเทศไทย จำนวนเพศหญิงต่อเพศชาย เป็นอัตราส่วนที่ต่างกันเยอะ ยังไม่นับรวมฝ่ายชายที่ผันกลายเป็นหญิง และชายรักชายที่เขาอยากจะกินกันเอง ทำให้ฝ่ายชายน้อยลงไปอีก ฮือๆ เศร้าอ่ะ!!! อย่างนี้ก็ต้อนผู้หญิงเข้าสู่ทางตันน่ะสิ ทำให้หญิงโสดถึงได้แต่งงานช้าลงทุกวัน และมีแนวโน้มว่าจะโสดกันอีกนาน เนื่องจากสเปกที่แต่ละคนตั้งไว้โดยไม่ค่อยจะยอมยืดหยุ่นกัน เรื่องนี้เป็น Global Trend ไปแล้ว ที่สำคัญอัตราความเป็นโสดจะเกิดกับฝ่ายหญิงมากกว่าฝ่ายชาย เนื่องด้วยปัจจัยหลายประการ

นอกจากนี้ หากได้แต่งตัวเลขก็สูงขึ้น จากเมื่อ 10 ปีที่แล้วอายุเฉลี่ยของเจ้าสาวประมาณ 28-29 ปี เริ่มมีลูกตอน 32-33 ปี แต่ปัจจุบันนี้เจ้าสาวจะอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 35-36 ปี กว่าจะมีลูกก็ 38-39 ซึ่งจะทำให้การตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อ 50 ปีก่อน พีระมิดประชากรไทย ก็เป็นรูปพีระมิดจริงๆ กล่าวคือ ฐานใหญ่ ปลายเล็ก หรือผู้สูงอายุมีจำนวนน้อย ในขณะที่เด็กมีจำนวนเยอะ แต่ตอนนี้ตรงกันข้าม คนแก่เยอะกว่าเด็กน้อย เป็นวิกฤตไปทั่วโลก ประชากรเด็กลดลงจนเข้าขั้นวิกฤตในประเทศที่เจริญมากๆ

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่

 

ช้าแต่ชัวร์

เกรซ มหาดำรงค์กุล นักแสดงและนักธุรกิจ สาวสวยวัยเลข 4 ที่เพิ่งตัดสินใจแต่งงานเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สาวสวยการศึกษาดีมีชาติตระกูล ใช้เวลาในการตัดสินใจนานมาก เธอเล่าว่า มีแฟนคนแรกตอนเรียนต่างประเทศ คบกันมาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนเรียนจบ ที่บ้านของทั้งสองฝ่ายให้แต่งงานกันได้แล้ว คบกันมา 10 ปีแล้ว แต่เธอคิดว่ายังไม่อยากแต่ง อยากทำงานอยากเรียนต่อ มีเรื่องที่รอให้ทำอีกเยอะแยะเลย แฟนก็อยากแต่ง แต่เธอยังไม่อยาก ที่สุดก็เลิกกัน ก็คบคนอื่นมาอีก 23 คน แต่ไม่ลงตัวกับใคร จนถึงขั้นจะตัดสินใจแต่งสักที

เธอเล่าว่า ตอนนั้นมีเรื่องให้ทำเยอะ กำลังสนุกกับเพื่อน สนุกกับงาน ไม่เห็นจะต้องรีบแต่งงานเลย อยากใช้ชีวิตวัยโสดของเราให้คุ้ม ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติของใจ ตอนนั้นไม่อยากแต่งก็ไม่แต่ง จนกระทั่งสามีคนนี้ที่ลงตัว เพราะเราใช้ชีวิตโสดมาจนพอ ถึงวันที่อยากสร้างครอบครัว หน้าที่การงานมั่นคงลงตัว พร้อมทั้งจิตใจ วัยวุฒิ หน้าที่การงาน ก็ตัดสินใจ

“ถ้าแต่งงานตอนอายุ 20 กว่าๆ อาจจะอยู่กันไม่ทนก็ได้ อาจจะเลิก เพราะเรายังเด็ก อารมณ์ไม่มั่นคงหนักแน่น ไม่มีประสบการณ์ในการคบคน การงานยังไม่เข้าที่ ชีวิตโสดก็ยังใช้ไม่คุ้ม มีเรื่องอยากทำเต็มไปหมด พอแต่งงานอายุเยอะ เรารู้สึกมั่นคงและมั่นใจในหลายๆ ด้าน คิดว่าแต่งตอนนี้ดีกว่า เป็นผู้ใหญ่กันแล้วจริงๆ ข้อเสียมีเรื่องเดียวก็คือ เราจะมีลูกยากแค่นั้นเอง นอกนั้นโอเคลงตัวมาก” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่

 

ยิ่งดูนานยิ่งมั่นใจ

ผู้พันเบิร์ด-พ.ท.วันชนะ สวัสดี นายทหารและนักแสดง หล่อเข้มยิ้มแย้มอารมณ์ดี เล่าว่า เขาก็เป็นอีกคู่ที่แต่งงานช้า ทั้งที่รู้จักกับภรรยามาตั้งแต่เด็ก คบกันมานานเกิน 10 ปี ตอนแรกตั้งใจแต่งงานตั้งแต่ภรรยาอายุ 30 ต้นๆ แต่ตอนนั้นเขาเองติดภารกิจหลายอย่าง ทำให้ล่าช้า มาแต่งเมื่อภรรยาอายุ 36 ปี กว่าจะมีลูกก็ 38 ซึ่งก็เป็นเรื่องยากในการตั้งครรภ์มาก ในที่สุดต้องทำกิฟต์ จนได้ลูกชายน่ารักวัย 4 เดือน มาเติมเต็มความเป็นครอบครัวให้สมบูรณ์

เขาเล่าว่า การแต่งงานช้าสำหรับผู้ชายไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ผู้ชายวัยไหนก็ยังมีลูกได้ ผู้หญิงจะมีข้อจำกัดในเรื่องนี้มากกว่า แต่ถ้าเราจะแต่งงานก็คงคิดเรื่องความรักและความพร้อมของตัวเองเป็นหลัก การจะแต่งช้าหรือเร็วคงไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่ ถ้าเราเจอคนที่ใช่ ใจมันจะบอกได้เอง แต่การดูใจพิจารณากันนานก็เพื่อความรอบคอบดูให้ดีดูให้แน่ใจ ตัวเขาเองชอบศึกษาดูใจกันนานๆ เพื่อความชัวร์

“เราแต่งกับใครก็อยากอยู่กับเขาไปจนตายจาก เราต้องอยู่กันอย่างน้อย 3040 ปี มากกว่าเราอยู่กับพ่อแม่เราเองเสียอีก ผมจึงเลือกนาน บางทีการศึกษาดูคนให้ละเอียดมันก็สำคัญมาก ในแบบผม ผมชอบดูนานให้แน่ใจที่สุด ป้องกันความผิดพลาด พอดูนานผมก็แน่ใจจริงๆ ว่า เลือกถูกต้องที่สุด ป้องกันความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด”

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่

 

ถึงเวลาที่ใช่ใจจะบอก

ไก่-มีสุข คุณดิลกชัยพัฒน์ พิธีกรที่เพิ่งสละโสดมาได้เกือบปี ขณะนี้ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว แต่งงานอายุเกือบ 40 ปี เพราะเป็นคนคิดเยอะ คิดช้า คิดนาน ที่ผ่านมามีแฟนมา 3 คน คบกัน 7 ปีบ้าง 4 ปีบ้าง 3 ปีบ้าง แต่สามีคนปัจจุบันคบเพียง 4 เดือน ก็ตัดสินใจแต่งทันที ตอนนั้นใจมั่นบอกเองว่า คนนี้แหละใช่ แล้วเป็นช่วงที่เวลาที่พร้อมทั้งอายุ การงาน การเงิน จิตใจ จังหวะเวลามันถูกต้องเหมาะสมตอนนั้น

เธอว่า ไม่ได้มีแผนแน่ชัดว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะต้องแต่ง ให้เป็นไปตามใจ ถ้าใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่รีบร้อน แล้วก็ไม่มีข้อกังวลว่าจะต้องรีบมีลูกด้วย เพราะเคยตั้งใจไว้แต่สาวๆ ว่า ไม่อยากมีลูก ไม่หวังให้ลูกเลี้ยงตอนแก่ ไม่อยากมีลูกไว้แก้เหงา แม้แต่งครั้งนี้ก็บอกกับสามีว่าไม่มีลูกนะ คิดกันว่าปีหน้าจะไปทำหมัน ก็คุมอยู่พักใหญ่แล้วปล่อยอยู่ช่วงหนึ่ง แต่บังเอิญน้องเขามา เราก็ยินดีต้อนรับ

สำหรับเธอนั้น การแต่งงานช้าเป็นข้อดี เพราะได้คิดได้ทบทวนมานาน อะไรที่เคยผิดพลาดในการคบคนอื่นมาเราจะไม่อยากให้ผิดพลาดซ้ำ เราจะเอามาแก้ไข มีประสบการณ์ในชีวิต ใช้ชีวิตคนเดียวมานานพอแล้ว มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อารมณ์เย็นขึ้น พร้อมสร้างครอบครัวจริงๆ ถ้าแต่งเร็วเรายังไม่รอบด้านพอในการใช้ชีวิต ถ้าแต่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วอาจจะไปกันไม่รอดแน่ๆ

“คิดว่าแต่งงานตอนอายุเยอะๆ น่าจะมั่นคงในเรื่องชีวิตคู่ดีกว่า เป็นไปได้ว่าอัตราการหย่าร้างน้อยกว่าแต่งงานเร็วๆ นะ เราเป็นผู้ใหญ่ก็มีความระมัดระวังในคำพูดและการกระทำมากขึ้น” เธอให้ความเห็น

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่

ลดสเปกมองโลกตามความเป็นจริง

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ความเห็นว่า ถือว่าเป็นปัญหาในระดับโลก โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้วอย่างยุโรป อเมริกา และแถบเอเชียในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ที่ข้อมูลล่าสุดอัตราการเกิดต่อครอบครัวคือ 1.05 คือ 1 ครอบครัวมีลูกแค่คนครึ่ง ซึ่งถือว่าน้อยมาก ต้องแทนพ่อแม่อย่างละ 1 คือ อยู่ที่ 2 ใน 1 ครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่เกิดผลดีในระยะ 20 ปีข้างหน้า ที่เราจะมีคนวัยทำงานลดลง

เนื่องมาจากรูปแบบสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงไม่ต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิง พ่อ พี่ชาย หรือสามีมากเหมือนในอดีต ผู้หญิงมีการศึกษาดี มีหน้าที่การงานดี มีโอกาสเติบโตในสายงาน เลี้ยงตัวเองได้ ชีวิตมีเรื่องอื่นๆ ให้ทำมากกว่าแต่ก่อน เมื่อมีโอกาส มีความคิด เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีทางเลือกในการใช้ชีวิตมากขึ้น จะมีครอบครัวเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ใจต้องการ ยิ่งไม่คิดจะมีลูก จะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ได้ที่คิดว่าใจพร้อมจริงๆ สังคมก็ไม่ได้สนใจ ถ้าจะแต่งงานเมื่อสูงวัย การแต่งงานในช่วงวัยที่เหมาะสม ก็ยังทำให้การใช้ชีวิตคู่มีความราบรื่นมากขึ้น และทำให้อัตราการหย่าร้างลดน้อยตามไปด้วย

ผู้หญิงจึงใช้เวลาคิดและเลือกมากขึ้น ใช้สมองมากพอๆ กับหัวใจ ถ้าไม่ดีจริงจะเลือกทำไม ก็รอไปจนกว่าจะเจอที่ดีจริงๆ ซึ่งข้อดีคือ จะเลือกอย่างรอบคอบ มีเหตุผล ยิ่งวัยเกิน 35 ปี ก็จะมีความมั่นคงทั้งเรื่องอารมณ์ การเงิน การงาน เพียงพอกับชีวิตอิสระวัยสาวมาพอแล้ว มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดี ข้อที่จะเป็นข้อเสียบ้างก็คือ อัตราการตั้งครรภ์จะยากลำบากขึ้น แต่ไม่มองว่าเป็นปัญหามันก็ไม่มีปัญหา

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่

 

หมอเบิร์ท แนะนำว่า บางครั้งอาจจะต้องมองโลกแบบยืดหยุ่นตามที่เป็นจริงลงบ้าง หากเราตั้งสเปกไว้มากมาย เราเองจะแข่งกับตลาดไม่ไหว “พูดง่ายๆ ให้เห็นภาพ อย่างเวลาเราทำงาน เราก็คงไม่ได้รักที่ทำงานของเราไปซะทุกอย่างใช่ไหม เช่น นายอาจจะใจร้อนเกินไป ปากจัด เพื่อนร่วมงานอาจจะมีช่างนินทาบ้าง สวัสดิการอาจจะดี แต่เงินเดือนขึ้นน้อย โบนัสไม่ดี แต่ทำไมเราถึงยังอยู่ เพราะเราดูภาพรวมว่าบริษัทนี้มั่นคง ดูรวมๆ แล้วก็ดีน่ะ ดีกว่าไปหางานใหม่ เพราะบริษัทไหนก็มีปัญหาทั้งนั้น นี่คืองานที่เราจะต้องทำเกือบตลอดทั้งชีวิตเรายังยืดหยุ่นกันได้ คนเราก็มีทั้งดีและไม่ดีล่ะ หัวล้านบ้าง เชยบ้าง แต่งตัวไม่เป็นบ้าง แต่หากเขาดีในแง่ ไม่เจ้าชู้ ไม่ตบตี ขยันทำมาหากิน การงานมั่นคง ซื่อสัตย์ รักครอบครัว ก็ดีพอสำหรับการเป็นแฟนและสามีในอนาคต และถ้าคุณเป็นสาว หน้าตาดีด้วย แต่งตัวเป็น มารยาทดี จิตใจแจ่มใส ออกเดตเป็น หญิงกลุ่มนี้จะสำเร็จในการหาคู่ค่ะ”

แต่ถ้าสาวๆ ไม่คิดว่าจะต้องแต่งงาน ก็สามารถเตรียมความพร้อมเรื่องการเงิน เตรียมดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ไว้ดูแลชีวิตหลังเกษียณ เตรียมพร้อมรองรับอนาคตของตัวเองได้เลย ก็จะมีชีวิตที่มีความสุขได้ไม่แพ้กัน และสังคมก็ยอมรับคนโสดมากขึ้น

เทรนด์ระดับโลก แต่งงานช้าลงแต่มั่นคงในชีวิตคู่