เดวิด อัศวนนท์ เข้มข้นกับการแสดง

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เสียงดัง ฉะฉาน ทั้งการพูดจาและเวลาหัวเราะ บางคราใครๆ ก็บอกว่าเขาแรง!!!

ชายหนุ่มผู้มีลุคดั่งว่า แถมหน้าตากระเดียดออกไปทางฝรั่ง “เดวิด อัศวนนท์” มานั่งเปิดใจกับเราอย่างสบายอารมณ์

ใช่ เขาแรง!!! ไม่ใช่แรงแค่ลุคประจำตัวที่คนทั่วไปพบเห็น แต่ที่แรงกว่าคือ ทัศนคติที่เขามีต่อการดำเนินชีวิตและสังคมมายา บอกได้คำเดียวว่า “เข้มข้น” ยิ่งกว่าบทดรามาทริลเลอร์ เมื่อตอนที่เขาเล่นเป็น “เฮซุส” ในหนัง “เคาท์ดาวน์” เสียอีก

ด้วยเขาเป็นคนพูดตรงไปตรงมา บางคำพูดแรงๆ จึงมาจุกอยู่ที่คอหอย จี้ใจดำก็เยอะ จี๊ดเข้าเส้นก็แยะ แต่ทั้งหมดทั้งมวล ล้วนสัมผัสถึง “ตัวตน” ในการเป็น “คนจริง” (ใจ) ของเขา

อีกมุมหนึ่ง เดวิดยังมีความเป็นคนขำ ตลก ฮา และขี้เล่น อันนี้เขาทำให้เราเห็นและเราก็จับต้องได้ แน่นอน มันไม่ใช่การแสดง แต่เป็นส่วนลึกข้างในที่เขาแสดงออกมา

“เด็กๆ ผมเป็นคนหัวอ่อน น่ารัก แถมขี้อายด้วยนะ พอโตขึ้นมา ก็ยังน่ารักอยู่ดีแหละ” พูดจบเดวิดก็หัวเราะลั่น “ส่วนความมั่นใจ มันมาเปลี่ยนเอาตอนผมไปอยู่นิวยอร์ก เมืองแห่งการห้ำหั่นกัน เมืองที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว เป็นแดนสนธยา ที่สอนให้ผมกระด้างขึ้น แกร่งขึ้น นิวยอร์กเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับผม เด็กๆ อาจยังไม่มั่นใจเลย ไม่กล้า พอผ่านตรงนั้นมาได้ ผมก็เลยกลายเป็นคนมั่นใจนิดหนึ่ง (ยิ้มกรุ้มกริ่ม) ตอนนี้ใครจะมาสับโขกหัวแบะ ยากกกก”

บทบาท “เฮซุส” ในหนัง “เคาท์ดาวน์” ถือเป็นการกลับมาแล้วเปรี้ยงของเดวิด หลังเขาไปร่ำเรียนวิชาการแสดงจากนิวยอร์กปีครึ่ง มีรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมหลายสถาบันการันตี (สุพรรณหงส์+ชมรมวิจารณ์บันเทิง+ตุ๊กตาทอง) ไม่หมดแค่นั้น ตัวหนังยังเดินสายประกวดเทศกาลหนังนานาชาติ ล่าสุดยังได้เป็นตัวแทนประเทศไทยชิงออสการ์ ปี 2014 สาขาหนังภาษาต่างประเทศ (รอบแรก)

“ทุกคนอยากชนะ แต่โอกาสไม่ใช่ของทุกคน เคาท์ดาวน์ก็เหมือนกันครับ อยากชนะ แต่มันคงยาก เพราะโลกนี้ยังมีหนังอีกไม่รู้กี่เรื่องที่เป็นคู่แข่ง ต้องดูว่ากรรมการกำลังมองหาอะไรอยู่ สำหรับผม แค่เป็นตัวแทนก็ฟินแล้วล่ะครับ”

เรื่องการเป็นนักแสดง เดวิดยอมรับแรกๆ ไม่คิดจะเอาดี แต่เพราะมีจุดเปลี่ยน ชีวิตเขาจึงพลิกผันและฝันอยากเป็นนักแสดงจริงจัง เขาตัดสินใจบินไปเรียนการแสดง

“ไปเรียนที่นั่น ผมต้องสร้างเครดิตให้ตัวเองด้วยการเล่นละครเวที เครดิตที่เคยเป็นพิธีกร เคยเล่นหนังในเมืองไทยเป็นศูนย์ครับ ทุกอย่างต้องสร้างใหม่ มันเป็นวิธีการขายตัวเอง เพื่อให้เอเยนซีเห็นเรา ถ้าเขาสนใจก็แปลว่าได้งาน

ผมจะคิดเสมอว่า ถ้าไม่ได้ของดี ผมจะไม่กลับมาเมืองไทย เพราะตราบาปมันเยอะครับ มันคือความกดดัน ที่บางคนดูถูกผมไว้ วันนี้ผมกลับมาอยู่เมืองไทย เพราะผมได้ของดีกลับมาด้วย”

ชีวิตที่ต่างประเทศสร้างประสบการณ์มากมาย น่าจดจำและนำมาปรับใช้ในเมืองไทย เดวิดเรียนรู้ว่าการเป็นนักแสดงไม่ง่าย และไม่ใช่ทุกคนจะเป็นกันได้

“การค้นหานักแสดงที่นิวยอร์กมาตรฐานสูงมากครับ ไม่ใช่หล่อสวยแล้วจะได้มาแสดงเลยนะ ถ้าคุณไม่มีของก็อย่าหวัง ลูกท่านหลานเธอ พ่อเป็นผู้กำกับ แม่เป็นนักแสดง ก็ใช่ว่าจะได้ เพราะเขาไม่ได้วัดที่หน้าตาอย่างเดียว อยู่ดีๆ ไปโผล่ในหนัง ไม่ใช่ละ ฝีมือคุณก็ต้องเจ๋ง

อาจารย์ที่สอนการแสดงผม จะบอกเสมอว่าจงทำตัวให้ชินกับการถูกปฏิเสธ เพราะชีวิตนักแสดงมันไม่ง่าย และยิ่งเป็นนักแสดงที่ไม่ดังก็เลี่ยงไม่ได้หรอกที่จะถูกปฏิเสธ คนที่จะได้แสดงหนังสักเรื่อง มันต้องไต่เต้า ต้องปูพื้นฐานผลงานมาเรื่อยๆ ก่อน เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ จนสุดท้ายคุณก็ได้เป็นนักแสดงในหนังที่เปรี้ยง คนดูดูแล้วปัง แล้วทุกอย่างก็โป้ง

แต่ที่เมืองไทย คนละเรื่องเลยครับ มันง่ายมากที่ใครคนหนึ่งจะเป็นนักแสดง ผมว่าในบ้านเราค่อนข้างจะดูถูกศาสตร์การแสดงนะ ไม่ให้ความสำคัญกับศาสตร์นี้เลย สนใจแค่ว่าใครคือคนที่จะเป็นโปรดักซ์ แทบไม่ได้สนใจความเป็นศิลปินของคนคนนั้น ผมว่าเป็นเรื่องที่น่าสมเพชนะครับ ถ้าคนในวงการตีค่าคำว่าเอนเตอร์เทนเมนต์ คือศาสตร์การแสดง

ผมถูกปลูกฝังเรื่องการแสดง คืออย่าเล่นเพื่อตัวเอง อย่าพยายามเล่นใหญ่กว่าคนอื่น อย่าขโมยซีน แต่คุณต้องบริการตัวละครที่คุณเล่นให้มีชีวิตชีวา และต้องทำให้ตัวละครตัวนั้นสมบูรณ์ที่สุด ปรมาจารย์การแสดงชาวรัสเซีย คอนสแตนติน สตานิสลาฟสกี บอกไว้ว่า จงรักศิลปะในตัวคุณ อย่ารักตัวคุณในศิลปะ”

เดวิดเรียนจบปริญญาตรี สาขาจิตวิทยา ที่บอสตัน ก่อนจะไปเรียนต่อด้านการแสดง ณ Lee Strasberg Theatre Institute (ที่เดียวกับ โรเบิร์ต เดอ นีโร แองเจลีนา โชลี อูมา เธอร์แมน คริสตอฟ วอลซ์ คริส อีแวนส์) ปัจจุบันอาศัยอยู่กับภรรยาที่ จ.ราชบุรี มีงานบันเทิงเขาก็จะบึ่งรถเข้ากรุงเทพฯ เขาว่าราชบุรีอากาศดี คนน่ารัก รถไม่เยอะ

กำลังจะมีหนังเรื่องใหม่ “ผีเข้า ผีออก” (เข้าฉาย 14 พ.ย.) ในบท “พี่เด”

“แนวหนังจะเป็นผีคอมมิดี ปนกวนตีน ตลกๆ หลุดๆ ฮาๆ แต่ไม่ใช่ตลกโป๊งฉึ่ง มีน้ำจิ้มเยอะครับ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกเติมเข้ามา วิธีการขับเคลื่อนของตัวละคร มีอะไรเด็ดๆ อีกเพียบเลย บทนี้ผู้กำกับ (ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ) เขียนขึ้นเพื่อผมโดยเฉพาะ โอ้โห!!! ฟังดูยิ่งใหญ่นะ (หัวเราะ) ต้องขอบคุณมากๆ กับโปรดักชั่นที่น่ารักโคตรๆ”

เดวิดชอบดูหนังมาก หนึ่งในหนังที่เขาดูแล้ว 30 รอบ คือ Dances with Wolves (กำกับ+แสดงนำ เควิน คอสเนอร์ ชนะ 7 ออสการ์ ปี 1991) “ผมดูตอนอายุ 15 ดูแล้วไม่เคยเบื่อเลย หนังจับอารมณ์ตัวละครได้สวยงามจับใจมากๆ เป็นอีกมิติหนึ่งในวันนี้นะ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ มันมีความเป็นอมตะ ผมชอบหนังเพราะตัวละครมีพัฒนาการ ทำให้เห็นการเติบโตของตัวละคร ความรักข้ามพรมแดน ผมก็ชอบ ซึ้งครับซึ้ง แก่นของหนังสุดยอดครับ ดูจบแล้วจะรู้ทำไมหนังถึงชื่อ Dances with Wolves”