posttoday

โรคถุงน้ำหลายใบในรังไข่

19 ตุลาคม 2556

เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้มีโอกาสเดินทางไปตรวจผู้ป่วยนอกสถานที่ จึงได้พบว่า ผู้หญิงสมัยนี้มีโรคออฟฟิศซินโดรมกันมากขึ้น

โดย...แพทย์จีน ธนภร ตันสกุล คลินิกหัวเฉียวไทยจีน


เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้มีโอกาสเดินทางไปตรวจผู้ป่วยนอกสถานที่ จึงได้พบว่า ผู้หญิงสมัยนี้มีโรคออฟฟิศซินโดรมกันมากขึ้น ผู้ป่วยหญิงที่มาตรวจชีพจรส่วนใหญ่ มีภาวะประจำเดือนมาน้อย มาช้า หรือไม่มาเป็นเวลานาน เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น ผู้หญิงออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีภาวะทางอารมณ์ที่แปรปรวน เครียดจากการทำงาน เพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านาย และมักจะอยู่ในสภาวะแวดล้อมเดิมๆ นั่งอยู่ในที่เดิมๆ หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทานอาหารซ้ำๆ แบบเดิม หรืออาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งมีทั้งความเย็น ไขมัน และน้ำตาลสูง รวมทั้งทุกวันนี้ ผู้หญิงเราต้องทำงานนอกบ้านมากขึ้น เกิดความเครียดสะสม ทั้งงานนอกบ้านและงานในบ้าน และพบได้ว่า ผู้หญิงออฟฟิศส่วนใหญ่ก่อนทำงานมีรูปร่างสมส่วน พอทำงานไม่กี่ปีกลับกลายเป็นรูปร่างอ้วนใหญ่ มีขนดกหนาขึ้น หรือมีหนวด หรือผิวหน้ามัน หรือมีสิวอักเสบขึ้นบริเวณหน้า หรือที่บริเวณหลัง ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของโรคที่จะกล่าวดังต่อไปนี้

โรคถุงน้ำหลายใบในรังไข่ หรือโรค PCOS (Polycystic ovarian syndrome) มีการแสดงของโรค คือ ผู้ป่วยมีลักษณะอ้วน ขนดก ประจำเดือนมาน้อย หรือมาช้าเป็นเดือน หรือเป็นปี หรือกะปริบกะปรอยไม่หยุดเป็นเวลานาน และปัจจุบันนี้ในทางคลินิกสามารถพบผู้ป่วย PCOS บางรายมีลักษณะผอม หรือขนไม่ดก หรือประจำเดือนมาตรงทุกเดือน ซึ่งไม่บ่งชี้ถึงอาการของ PCOS เป็นจำนวนมาก แต่สามารถวินิจฉัยโรคได้ด้วยการทำอัลตราซาวด์พบในรังไข่ของผู้ป่วยมีถุงน้ำหลายใบ หรือสามารถพูดให้เข้าใจได้ว่า ภาวะไข่ไม่สุก หรือภาวะไม่ตกไข่ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยากนั่นเอง

ทางทฤษฎีแพทย์แผนจีนได้กล่าวว่า ผู้ป่วย PCOS มีสาเหตุหลักที่สำคัญ 4 ประเภท ดังนี้

1.การพร่องของไตหยาง มีสาเหตุจากผู้ป่วยตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หยินหยางไม่สมดุล ลมปราณของไตไม่พอที่จะไปหล่อเลี้ยงสารก่อเกิด ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีประวัติเมื่อถึงวัยแล้วประจำเดือนยังไม่มี ประจำเดือนมาช้าเป็นเดือนๆ หรือเป็นปี ประจำเดือนจะมีสีอ่อนและปริมาณน้อย อาจพบภาวะประจำเดือนกะปริบกะปรอยไม่หยุด สีหน้าซีดไม่สดใส เวียนศีรษะ หูอื้อ ปวดเมื่อยบริเวณเอวและขา อ่อนเพลียและกลัวหนาว อุจจาระเหลว ตกขาวน้อย ช่องคลอดแห้ง

2.เสมหะและความชื้นก่อตัว มีสาเหตุจากร่างกายอ่อนแอม้ามพร่อง พลังการหมุนเวียนไม่ดี ทำให้เกิดน้ำและความชื้นสะสมเป็นเวลานาน อุดกั้นเส้นลมปราณ ชง ที่เป็นเส้นลมปราณที่สำคัญของการผลิตเลือดประจำเดือน มักพบผู้ป่วยส่วนใหญ่มีลักษณะอ้วน มีภาวะประจำเดือนมาช้า ปริมาณน้อย จนถึงไม่มานานเป็นปี มีขนดก มีอาการเวียนศีรษะและแน่นหน้าอก ในลำคอมีเสมหะมาก แขนขาหนักไม่มีแรง และตกขาวมีปริมาณมาก

3.ชี่อุดกั้นและเลือดคั่ง มีสาเหตุมาจากอารมณ์ที่แปรปรวน ลมปราณตับอุดกั้นไม่ระบาย ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะประจำเดือนมาช้าและปริมาณน้อย มีลิ่มเลือดปน อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ขี้โมโห หงุดหงิด ปวดแน่นบริเวณท้องน้อยและกดเจ็บ หรือมีอาการแน่นหน้าอกและสีข้าง หรือมีอาการคัดหน้าอกร่วมด้วย

4.เส้นลมปราณตับมีความชื้นและความร้อนก่อโรค มีสาเหตุมาจากอารมณ์ขุนมัววิตกกังวล ลมตับอุดกั้นกระทบม้าม เมื่อม้ามพร่อง พลังหมุนเวียนไม่เพียงพอ จึงเกิดความชื้นสะสมภายใน เมื่อลมปราณตับอุดกั้นเป็นเวลานานจะเกิดความร้อนสะสมในร่างกาย ความร้อนและความชื้นก่อตัวขึ้น จะอุดกลั้นเส้นลมปราณชง และเส้นลมปราณเหริน การไหลเวียนของลมปราณไม่ดี ผู้ป่วยจึงมีภาวะประจำเดือนมาช้าและมีปริมาณน้อย จนถึงภาวะประจำเดือนไม่มา 3 ปีขึ้นไป หรือภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ กะปริบกะปรอยไม่หยุด มักพบในผู้ป่วยที่อ้วน มีขนดกหนา สิวขึ้นที่ใบหน้า ก่อนมีประจำเดือน ผู้ป่วยมักมีอาการคัดและแน่นหน้าอก ตัวและแขนขาบวม ท้องผูก ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม ตกขาวมีปริมาณมาก

การรักษาในปัจจุบันนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักได้รับยาฮอร์โมน หรือรับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับประจำเดือน หรือฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก เมื่อผู้ป่วยได้รับยาคุมกำเนิดระยะเวลานานๆ พบได้ว่าผู้ป่วยมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น หรือส่งผลกระทบต่อประจำเดือน เมื่อถึงกำหนดประจำเดือนไม่มา หรือมาน้อยกว่าปกติ หรือสีจางกว่าปกติ ตามทฤษฎีการแพทย์แผนจีนได้กล่าวว่า ผู้หญิงที่ประจำเดือนไม่มาก่อนถึงวัยอันควร เลือดเสียก็ยังคั่งค้างอยู่ในร่างกาย รังไข่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน หรือทำงานทดถอยลง เลือดลมอุดกั้น ไหลเวียนไม่ดี เกิดเลือดคั่งในร่างกาย ทำให้เกิดฝ้า กระ สีหน้าคล้ำ หรือมีอาการเหมือนคนวัยทอง ไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว เหงื่อออก ร้อนวูบวาบ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เป็นต้น

ทางการแพทย์แผนจีน รักษาโดยใช้ยาสมุนไพรจีนเป็นหลัก ในการปรับสมดุลพื้นฐานของร่างกาย เช่น ปรับสมดุลไตหยาง ขับเสมหะและความชื้นอุดกลั้น ระบายหมุนเวียนชี่และเลือดอุดกั้น ขจัดความร้อนและความชื้นของเส้นลมปราณตับ เป็นต้น เมื่อร่างกายของผู้ป่วยสมดุล ประจำเดือนก็สามารถมาได้สม่ำเสมอเป็นปกตินั้นเอง ร่วมกับให้ผู้ป่วยมีการควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ด มันจัด หวานจัด เย็นจัด เช่น ไอศกรีม น้ำอัดลม รักษาสมดุลของอารมณ์ให้เป็นปกติ ก็จะสามารถช่วยให้ผลการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน