posttoday

ชีวิตกับขนมหวาน...ความลงตัวของ จิตติรัตน์ ตันตสิรินทร์

18 ตุลาคม 2556

สาวสวยกับขนมหวาน บางครั้งก็แยกกันไม่ขาด ตัดกันไม่ได้เลยเนาะ... ความสวยของหญิงกับความหวานของขนม

โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์

สาวสวยกับขนมหวาน บางครั้งก็แยกกันไม่ขาด ตัดกันไม่ได้เลยเนาะ... ความสวยของหญิงกับความหวานของขนม ยิ่งเพิ่มปริมาตรความหวานเข้าไปใหญ่ (หัวใจจะละลาย) จริงๆ นะ หลายคนถึงขนาดออกตัวชัด “ขนมน่ะเหรอคะ ชอบมาก ชอบกินตั้งแต่เด็กแล้ว ก็คนมันชอบ ทำไงอ่ะ หลงรักเข้าแล้ว ไม่รู้เป็นไงข้าวไม่ค่อยกิน ชอบกินแต่ขนม”

บางคนไม่ใช่แค่ซื้อกิน แต่ลงทุนลงแรงหาซื้อวัตถุดิบเข้าครัวลงมือทำเอง จะด้วยวิธี “ลองผิดลองถูก” หรือแบบ “ครูพักลักจำ” ผลงานจะออกมาแบบไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าพอได้ทำกินเองรู้สึกสุขอีกแบบ...แบบว่า “ปีติสุข” มันเป็นความสุขอิ่มเอิบใจในฝีไม้ลายมือของตน (ซึ่งเป็นกันทุกคน)

สาวสวยคนนี้ “โอจิตติรัตน์ ตันตสิรินทร์” ทายาทคนเก่งของ “อนันต์ ตันตสิรินทร์” เจ้าของเบนซ์ตลิ่งชันก็เช่นกัน ขนมหวานคือของชอบของโปรดของเธอตั้งแต่เด็ก จนใครต่อใครในครอบครัวต่างแซวเธอว่า “เด็กหญิงขนม” และแล้วความชอบนั้นได้ผลักดันให้เธอต้องไปร่ำเรียนฝึกปรือฝีไม้ลายมือการทำขนมที่สถาบันสอนทำขนมชั้นนำในเมืองไทยหลังจากเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษกลับมา

“โอไปเรียนทำขนมที่โรงเรียนสอนการประกอบอาหารเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เป็นเวลา 6 เดือนเต็ม ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานการทำแป้งทุกอย่าง ทั้งแป้งสปันจ์เค้ก คุกกี้ บราวนี่ ขนมปัง ครัวซองต์ แป้งทาร์ต ไปจนถึงการทำขนมชนิดต่างๆ สนุกและมีความสุขมาก”

ชีวิตกับขนมหวาน...ความลงตัวของ จิตติรัตน์ ตันตสิรินทร์

 

แต่ก่อนมาเทกคอร์สเรียนทำขนมที่เลอ กอร์ดอง เบลอ สมัยเรียนโทอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอก็วาดลวดลายทำทั้งขนมและอาหารให้เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันได้ชิมเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะขนมที่วัตถุดิบหาง่ายและคุณภาพดี

“ตอนอยู่เมืองนอกอาหารส่วนใหญ่จะทำกินเองกับเพื่อนๆ มากกว่า เพราะรสชาติที่นู่นค่อนข้างเลี่ยน กินได้เป็นบางครั้ง แล้วโอจะชอบทำขนมด้วย ตามแบบฉบับของเราเอง แบบลองผิดลองถูกนะ แต่ก็ทำได้ จำได้ว่าวันแรกที่ทำให้เพื่อนๆ ชิม คือ ทาร์ตไข่ เพื่อนแซวว่าทำได้อร่อย (หัวเราะ) จากนั้นมาก็รักในการทำขนม”

ขนมหวานกับเธอจึงเป็นอะไรที่อินเลิฟสุดๆ และลงตัวสุดขีด ไม่ว่ากับการงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท เบนซ์ตลิ่งชัน และชีวิตของเธอ เพราะมันมาจากความชอบล้วนๆ

“แม้ทุกวันนี้งานหลักของโอคือทำงานในบริษัทที่เป็นธุรกิจของครอบครัวคือขายเบนซ์ แต่การทำขนมของโอก็ยังทำอยู่ตลอด มีทั้งรับออร์เดอร์ทั่วไปและออกงานอีเวนต์ ในส่วนออร์เดอร์ก็มีทั้งคนที่รู้จัก เพื่อนๆ และจากการบอกต่อ บางคนติดต่อมาทางเพจตามเฟซบุ๊ก Macaron Boutique ที่โอเปิดเมื่อประมาณ 34 ปีมาแล้วหลังเรียนทำขนม แต่ระยะหลังไม่ค่อยอัพเดตเท่าไหร่ เพราะหันมาใช้อินสตาแกรมแทน ชื่อ Anothero ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้

ขณะที่งานอีเวนต์ส่วนใหญ่เป็นงานเปิดตัวสินค้าและเวิร์กช็อป เช่น งานของเมอเซเดสเบนซ์ งานของอีเลคโทรลักซ์ ของนาฬิกามิโด้ในงานวอชต์แฟร์ของเซ็นทรัล โดยการทำขนมของโอจะเป็นไปตามธีมของงานและสินค้านั้นๆ เป็นหลัก อย่างที่เบนซ์จัดก็จะทำขนมมาการงเป็นตราเบนซ์ลงไป ของอีเลคโทรลักซ์ก็ทำตามธีมของสีของสินค้า เป็นต้น”

หลายครั้งเมื่อเธอได้วัตถุดิบดีๆ มามิวายที่จะนึกถึงลูกค้า “เบนซ์ตลิ่งชัน” ของเธอ เพราะเธอคิดเสมอว่าลูกค้าคือคนที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นเมื่อมีอะไรดีๆ ก็อยากจะมอบให้ลูกค้า

“ที่โชว์รูมของเราจะมีห้องรับรองลูกค้าซึ่งจะมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มเกือบทุกอย่าง เช่น ชา กาแฟ ทั้งร้อน ทั้งเย็น ขนม ตลอดจนน้ำสมุนไพร ซึ่งช่วงที่ผ่านมา บางอาทิตย์ก็จะมีขนมที่โอทำมาไว้บริการลูกค้าด้วย และถ้าช่วงไหนที่โอได้วัตถุดิบดีๆ เช่น ช็อกโกแลตอร่อยๆ ราคาแพงๆ ประกอบกับมีเวลาก็จะนึกถึงลูกค้าและทำมาให้ชิม ซึ่งก็เป็นความลงตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ความบังเอิญ”

เธอบอกว่า ทุกครั้งที่สวมบทบาทเชฟทำขนมจะรู้สึกสนุกและมีความสุขกับมันเสมอ และไม่ได้คิดว่าการทำขนมเป็นเรื่องยาก แต่ว่าการอยู่ในครัวก็เป็นงานที่หนัก เพราะต้องใช้สมาธิและความละเอียดในทุกขั้นตอน ที่สำคัญต้องให้ออกมาดีที่สุดและอร่อย

“แค่การหยิบผิดจากเบกกิงโซดา (Baking Soda) เป็นเบกกิงเพาเดอร์ (Baking Powder) ทุกอย่างก็เละแล้ว จะรู้อีกทีก็ตอนที่เข้าไปในเตาอบแล้ว ถ้าขนมเข้าเตาเมื่อไรก็เหมือนตอกไข่ลงกระทะไปแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทุกอย่างจึงต้องโฟกัสตลอด”

และหากพูดถึงขนมที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ เชฟโอเผยได้แก่ มาการง (Macaron) ซึ่งเป็นขนมฝรั่งเศสที่มีความน่าสนใจหลายอย่างเพราะสามารถทำได้ทุกรส ทุกสี ใส่ดีไซน์ได้ไม่จำกัด รูปร่างหน้าขึ้นกับจินตนาการและตอนนี้ก็ได้รับความนิยมมากในเมืองไทย

ว่าแล้วก็ขอเชิญทุกท่านไปลองทำเมนูที่เชฟโออยากนำเสนอ “Halloween Lollipop Macarons” รับเทศกาลฮัลโลวีนที่จะมาถึงในวันที่ 31 ต.ค.นี้

Halloween Lollipop Macarons (10-12 ชิ้น)

ส่วนผสมมาการง

ไข่ขาว 35 กรัม

น้ำตาลทราย 20 กรัม

ผงอัลมอนด์ 40 กรัม

น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม

สีผสมอาหาร สีส้ม / สีดำ

Fondant 200 กรัม (สำหรับตกแต่ง)

ไม้อมยิ้ม 10-12 ชิ้น

ส่วนผสม Cookie & Cream Filling

ครีมชีส 100 กรัม

เนยจืด 40 กรัม

น้ำตาลไอซิ่ง 70 กรัม

กลิ่นวานิลลา ฝ ช้อนชา

คุกกี้โอรีโอบด 15 กรัม

วิธีทำมาการง

1.ร่อนผงอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่งรวมกันเพื่อให้ได้หน้าขนมที่เนียนสวย พักไว้

2.ตีไข่ขาวด้วยหัวตะกร้อ ค่อยๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไปจนหมด ตีจนตั้งยอดอ่อนแล้วใส่สีตีต่อจนเกือบแข็ง และเนื้อเนียนเป็นมันเงาวาว

3.ทยอยใส่ส่วนของแห้งผสมในส่วนไข่ขาว ใช้ไม้พายค่อยๆ ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน จนได้ส่วนผสมหนืดๆ แล้วหยุดทันที ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป

4.นำส่วนผสมใส่ถุงบีบ หัวบีบเบอร์ 8 บีบส่วนผสมเป็นทรงกลมประมาณ 3-4 เซนติเมตร ให้เท่าๆ กันทุกชิ้น

5.พักผิวขนมไว้ในอุณหภูมิปกติ ประมาณ 30-45 นาที ทดสอบโดยใช้นิ้วแตะขอบๆ ขนมและผิวด้านบนของขนมแล้วแห้ง ไม่ติดมือ

6.นำเข้าอบที่ 140 องศาเซลเซียส 12-14 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของมาการอง

7.นำ Fondant ที่เตรียมไว้ผสมสี นวดจนได้สีสม่ำเสมอ คลึงจนได้ความหนาที่ต้องการ แล้วใช้ที่ตัดคุกกี้ ตัดเป็นรูปตามที่ต้องการพัก Fondant จนแข็งตัว แล้วทาน้ำเล็กน้อย ก่อนนำมาติดบนตัวขนมที่เย็นสนิท

วิธีทำ Cookie & Cream Filling

1.ผสมครีมชีส เนย และวานิลลา มาตีจนได้เนื้อเนียนนุ่ม

2.ค่อยๆ ผสมน้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีจนได้เนื้อเนียน