posttoday

เจิดนภางค์ ม้าทอง ธุรกิจความงามยิ่งแข่งขันยิ่งสนุก

14 ตุลาคม 2556

ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยผู้หญิงกับความงามถือเป็นของคู่กันเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามทุกรูปแบบจึงเจริญก้าวหน้าเฟื่องฟูอย่างฉุดไม่อยู่

โดย...อนุสรา ทองอุไร ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยผู้หญิงกับความงามถือเป็นของคู่กันเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามทุกรูปแบบจึงเจริญก้าวหน้าเฟื่องฟูอย่างฉุดไม่อยู่ ใครอยู่ในธุรกิจนี้ก็นับว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นก็ว่าได้ เธอคนนี้ก็มีความชัดเจนในชีวิตตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยมาเลยว่า เธออยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านความงาม และเธอก็สามารถเลือกสายงานให้อยู่ในเส้นทางนี้มาได้ 10 กว่าปีแล้ว สำหรับ เจิดนภางค์ ม้าทอง แบรนด์แมแนเจอร์ ผลิตภัณฑ์โซลวาซู (Sulwhasoo) ของบริษัท อมอร์แปซิฟิค (ประเทศไทย)

ทำที่ชอบเลือกที่ใช่

ทางด้านการศึกษา เธอจบด้านการตลาด จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทด้านการบริหาร จากธรรมศาสตร์ เช่นกัน ต่อจากนั้นไปเรียนภาษาที่ประเทศฝรั่งเศสอีก 1 ปี เคยทำงานด้านบริษัทเครื่องสำอาง นาฬิกา รวมทั้งประชาสัมพันธ์ที่ดูแลเรื่องการสร้างแบรนด์ รวมๆ แล้วเกือบ 13 ปี

“ตั้งเป้าตั้งแต่เรียนปริญญาตรีไว้เลยว่าอยากทำงานอะไร คือลักซ์ชัวรี แบรนด์ที่เกี่ยวกับด้านความงาม ความเป็นธรรมชาติ เราชอบเรื่องสวยๆ งามๆ ถ้าได้ทำตรงนี้คงมีความสุขก็ไม่เคยหลุดสายงานไปจากนี้เลย ก็ชัดเจนกับชีวิตมาโดยตลอด และสุดท้ายมาลงตัวที่แบรนด์นี้เพราะเขาเป็นที่ 1 ในเกาหลีและเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพรพวกโสมเกาหลีที่มีความเป็นธรรมชาติสูงผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นความงามเพื่อองค์รวมอย่างแท้จริง น่าจะเหมาะกับผิวคนเอเชียอย่างคนไทยด้วย” เธอกล่าวอย่างตั้งใจ

ยิ่งแข่งขันสูงยิ่งสนุก

เธอว่าแม้ธุรกิจด้านเครื่องสำอางจะแข่งขันสูง แต่ตลาดก็กว้างและมีการเติบโตขึ้นทุกปี มีรายใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอ

“ยิ่งแข่งขันเยอะยิ่งสนุกเพราะตลาดมันใหญ่ ทำให้แต่ละเจ้ามีการตื่นตัว แอ็กทีฟกับตลาดอยู่เสมอ ธุรกิจอะไรก็ตามที่แข่งขันเยอะแสดงว่าตลาดมันใหญ่กำลังซื้อมี ถึงกล้ามีรายใหม่ๆ เข้ามาอีก ตลาดจึงมีความคึกคักมาก ถ้าธุรกิจใดที่นิ่งๆ เนิบๆ มันจะเนือยๆ ไม่สนุก ไม่กระตือรือร้นเราจะขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน” เธอกล่าวอย่างมีความสุข

พร้อมทั้งทำให้เรามุ่งมั่นที่จะก้าวเป็น 1 ใน 7 บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำระดับโลก (Global Top 7) ภายในปี 2015

เธอยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า ตอนนี้เข้ามาทำงานในธุรกิจเครื่องสำอางใหม่ๆ ตลาดไม่ใหญ่เท่านี้ แถมการแบ่งตลาดแบ่งกลุ่มเป้าหมายยังแคบและมีความชัดเจนว่า นี่เป็นตลาดของคนทำงาน ตลาดของผู้ใหญ่ ตลาดของวัยรุ่น แต่ตอนนี้ตลาดกว้างมากใน 1 เคาน์เตอร์แบรนด์ครอบคลุมตั้งแต่วัย 20 ต้นๆ ไปจนถึงวัย 50 ปี แถมมีตลาดของกลุ่มผู้ชายเข้ามาอย่างเด่นชัดขึ้น เพราะกลุ่มผู้ชายที่เป็นเมโทรเซ็กชวลก็มากขึ้น แม้ผู้ชายแมนๆ ก็ยังอยากดูดี อย่างน้อยเขาต้องใช้กันแดด ครีมบำรุงก่อนนอนสักตัวแล้วก็ลิปมัน

แบรนด์ของเราเองก็ต้องมีสินค้าสำหรับผู้ชายกลุ่มนี้ด้วย จากเดิมที่เราเน้นตลาดผู้หญิง เมื่อตลาดผู้ชายเริ่มโตขึ้นเราก็ต้องมีสินค้าไว้รองรับ และกลางเดือนนี้เราจะมีอายุครบ 1 ปี ก็จะมีสินค้าพิเศษเพื่อออกมาเฉพาะกิจช่วงนี้ เรียกว่าเป็น Sulwhasoo Harmonizen Regenerating Cream นับเป็นครั้งแรกที่นำเอาสารสกัดจากโสมของเกาหลีดั้งเดิมที่มีคุณค่าหายาก Salvia Miltiorrhiza ที่เติบโตในเกาหลี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสูญพันธุ์ไปแล้ว มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูบำรุงได้ดีกว่าจากแหล่งอื่นถึง 67 เท่า โดยนำมาผสานกับสารสกัดจากโสมแดง สารสกัดจากโสมขาว ที่อุดมด้วยสารซาโปนิน (Saponin) ช่วยลดโอกาสก่อตัวของเม็ดสีเมลานิน ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แลดูเรียบเนียน เผยผิวกระจ่างสดใสอย่างมีชีวิตชีวา และผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยี Dermosol Technology ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ในการฟื้นฟูบำรุงผิวให้แข็งแรง คงความเปล่งปลั่งสดใสอย่างมีสุขภาพและมีชีวิตชีวา

เทรนด์สินค้าปีหน้า

ในระยะ 2-3 ปีนี้ ตลาดของสินค้าประเภทเพื่อผิวขาวแบบไวเทนนิงครองตลาดมาพักใหญ่ๆ แต่สำหรับในปีหน้าผลิตภัณฑ์เพื่อความอ่อนวัยแบบแอนไทเอจจิงจะมาแรง เพราะคนอยากดูสาวเยาว์วัยตลอดกาล สินค้าที่เกี่ยวกับกลุ่มนี้จะมาแรงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งพวกครีมบำรุง หรือเทคโนโลยีด้านความงามกลุ่มนี้จะโตแบบก้าวกระโดด ส่วนเทรนด์ของครีมบำรุงผิวก็ยังเป็นเรื่องของสวยใสเป็นธรรมชาติก็ยังดีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญก็คือสวยในแบบของตัวเองไม่ต้องเลียนแบบใคร โดยสวยทั้งจากภายนอกและภายใน คือมีจิตใจที่ดี มองโลกแง่ดี ดูแลสุขภาพให้เลือดลมไหลเวียนดี ใช้ครีมบำรุงที่ดีเหมาะกับตัวเอง ก็จะดูสดใสจากภายในและภายนอก

หลักในการทำงาน

หลังจากเปิดตลาดมาได้เพียง 1 ปี แม้จะเหนื่อยแต่ก็สนุกเพราะสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ใช่ว่าจะหยุดนิ่งต้องทำตลาดอย่างให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ติด 1 ใน 20 ของเคาน์เตอร์แบรนด์ระดับพรีเมียม ซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 100 แบรนด์ พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะก้าวเป็น 1 ใน 7 บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำระดับโลก (Global Top 7) ภายในปี 2015

ด้วยหลักการทำงานที่ว่าทุกอย่างต้องมีเป้าหมายชัดเจน มีความเป็นผู้นำ มีแผนงานรองรับ มีทีมงานที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เมื่อเจอปัญหาอุปสรรคอย่าท้อมองโลกแง่ดีเข้าไว้แล้วเดินหน้าแก้ปัญหา ยิ่งแข่งขันยิ่งได้ลับสมองยิ่งคมชัดและมีสติอยู่เสมอ

“อย่ากลัวปัญหาไม่ว่าทำงานอะไรก็ล้วนมีปัญหาทั้งนั้น ยิ้มรับและสู้กับมันค่อยๆ แก้ไปทีละจุด ทุกอย่างอาจใช้เวลาสั้นยาวไม่เท่ากัน แต่ไม่มีปัญหาไหนที่แก้ไขไม่ได้ ตั้งสติดีๆ ค่อยๆ คิด ทำกันไป แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

ที่สำคัญคือการทำธุรกิจไม่ว่าอะไรก็ตามควรมีจรรยาบรรณกับงานที่ทำคือมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ทั้งต่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ มีเมตตาธรรมต่อกัน ไม่เห็นคู่แข่งเป็นศัตรูแต่เป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไปด้วยกัน

สตีฟ จ็อบส์ คือฮีโร่ในดวงใจ

เธอบอกว่าเธอเป็นสาวกของสตีฟ จ็อบส์ เพราะชื่นชมการทำงาน มุมมอง ความคิด ที่เป็นคนมุ่งมั่นในการทำงาน ตั้งใจสุดๆ กับทุกสิ่งที่ทำ คิดบนพื้นฐานของความธรรมดาที่ไม่ซ้ำซ้อนมาก ขณะเดียวกันเขาก็นำเอาหลักศาสนามาดำเนินชีวิตก็คือ การมีสติและคิดถึงการมรณานุสติอยู่เสมอ แม้เขาจากไปแล้วแต่คนก็ยังระลึกถึงเขาอยู่เสมอ เราเรียนรู้จากการทำงานและดำเนินชีวิตของเขาได้

“หนังสืออะไรที่เกี่ยวกับสตีฟ จ็อบส์ จะซื้อมาอ่านเสมออยากจดจำเอาวิธีการของเขามาใช้อยากเก็บเขาไว้เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของเรา อีกคนที่ชอบก็คือ โดนัลด์ ทรัมป์ นี่ก็เป็นคนที่มีแพสชั่นในการทำงานสูงมาก เป็นคนทำงานที่ทุ่มเทแบบกัดไม่ปล่อยและประสบความสำเร็จกับงานในหลายๆ ด้าน” เธอกล่าวอย่างชื่นชม

เจิดนภางค์ ม้าทอง แบรนด์แมแนเจอร์ ผลิตภัณฑ์โซลวาซู

ตั้งเป้าให้แบรนด์นี้เป็น 1 ใน 7 ของสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์ระดับพรีเมียม

ทำงานในธุรกิจความงามมากว่า 13 ปี

ชื่นชอบในสไตล์การทำงานของสตีฟ จ็อบส์ และโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะเป็นคนทำงานที่เก่งมีความคิดสร้างสรรค์