posttoday

ปราการ ม่วงสุขำ ผู้รอบรู้เรื่องแผ่นเสียง

22 กันยายน 2556

ตอนที่ ปราการ ม่วงสุขำ เริ่มสะสมแผ่นเสียงแผ่นแรกไว้ในครอบครอง เขาไม่เคยนึกเลยว่าอีก 28 ปีต่อมาจะพัฒนามาเปิดร้านขายแผ่นเสียงของตัวเอง

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

ตอนที่ ปราการ ม่วงสุขำ เริ่มสะสมแผ่นเสียงแผ่นแรกไว้ในครอบครอง เขาไม่เคยนึกเลยว่าอีก 28 ปีต่อมาจะพัฒนามาเปิดร้านขายแผ่นเสียงของตัวเอง

“ช่วงอายุยี่สิบต้นๆ จำได้ว่าขณะนั้นก็ไม่ค่อยมีคนสนใจแผ่นเสียงกันแล้ว เพราะมันอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงจากการฟังเพลงจากแผ่นเสียงสู่เครื่องเล่นเทปคาสเซต คนเริ่มละทิ้ง เพราะมันล้าสมัย ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะทิ้งได้ยังไง มันเป็นศิลปะ เป็นประวัติศาสตร์ทางดนตรีที่มีคุณค่า ก็รวบรวมมันโดยไม่คิดว่าจะเปิดร้านสักนิด แค่อยากรักษามันไว้

แผ่นเสียงแผ่นแรกที่ได้มาคืออัลบั้มสายใยของวงแกรนด์เอ็กซ์ แต่ไม่มีเครื่องเล่น และผมก็ไม่มีปัญญาซื้อเครื่องใหม่ด้วย วันหนึ่งเดินคลองหลอดเจอเครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้อเนชั่นแนลพังๆ เครื่องหนึ่ง ผมจึงหัดซ่อม ศึกษาหาข้อมูลจากหอสมุดแห่งชาติอย่างยากลำบาก จนซ่อมเองได้

เมื่อคนหันกลับมาเล่นแผ่นเสียงกันเยอะขึ้น มีคนยกเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าๆ พังๆ มาให้ซ่อมเยอะมาก ผมกลายเป็นช่างซ่อมไปโดยปริยาย ต่อมาอีกยุคหนึ่ง ประมาณ 15 ปีที่แล้ว เกิดปัญหาไม่มีเครื่องเล่น ผมจึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างเครื่องเล่นแผ่นเสียงขึ้นมาเองเลยยี่ห้อ ต้นฉบับ ขายเครื่องละ 3,500 บาท ผลิตมาจำนวนจำกัด 200 เครื่อง (15 ปีที่แล้ว) ขายหมดเกลี้ยงครับ” เจ้าของฉายาช่างเสือ ต้นฉบับ ยิ้มบางๆ หลังรื้อฟื้นความหลังให้ฟัง

ปราการ ม่วงสุขำ ผู้รอบรู้เรื่องแผ่นเสียง

 

ในวันที่รูปแบบการฟังเพลงก้าวกระโดดจากแผ่นเสียง เทปคาสเซต ซีดี จนถึงไฟล์ เอ็มพี 3 อย่างในปัจจุบัน ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงและแผ่นเสียงแทบจะสูญพันธุ์ ถึงอย่างนั้นก็สามารถหวนกลับคืนมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

“ไม่ใช่เรื่องโหยหาอดีตอะไรหรอก แผ่นเสียงมันกลับมาด้วยตัวมันเอง ถ้ามองว่าเป็นกระแสแฟชั่น เล่นแผ่นเสียงแล้วเท่ ก็ดีครับ ถ้าอนุรักษ์แล้วได้ความเท่ด้วยก็แจ๋วเลย มันเป็นกุศโลบายให้คนมาเล่นเยอะๆ ทำให้มันอยู่ต่อได้ เมื่อคนกลับมาเล่นแผ่นเสียงกันอีก ผมยิ่งภูมิใจว่าได้พิสูจน์ให้คนบางกลุ่มรู้ว่าแผ่นเสียงมันมีคุณค่าที่ควรอนุรักษ์”

วันนี้ ร้านต้นฉบับในซอยบุญศิริ ริมคลองหลอด เขตพระนคร รวมถึงบนชั้น 3 ของห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเล่นแผ่นเสียงว่าเป็นแหล่งรวบรวมแผ่นเสียงเก่าแก่หายากที่ใหญ่ที่สุดร้านหนึ่งในเมืองกรุง ซึ่งตัวเขาเองก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นกูรูเรื่องแผ่นเสียงชนิดหาตัวจับยากด้วยเช่นกัน

แผ่นเสียงไวนิลของศิลปินชื่อดังทั้งไทยและเทศมากมายหลายหมื่นแผ่นที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบดูไม่ต่างอะไรจากวอลเปเปอร์ติดผนัง มันเยอะเสียจนน่าสงสัยว่าต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะหาเจอ แต่ช่างเสือ ต้นฉบับ คนนี้ยืนยันว่ารู้ทุกซอกทุกมุม

ปราการ ม่วงสุขำ ผู้รอบรู้เรื่องแผ่นเสียง

 

“ร้านนี้ส่วนใหญ่จะมีแต่แผ่นเสียงไวนิล หรือที่เขาเรียกว่าแผ่นลองเพลย์ มีอยู่ราวๆ 5 หมื่นแผ่นได้มั้ง บางแผ่นก็มีหลายก๊อบปี้ บางแผ่นก็มีก๊อบปี้เดียว ผมจัดเรียงด้วยตัวเองตามหมวดอักษร ร้านขายแผ่นเสียงมันไม่ใช่ธุรกิจที่ทำเงินได้มหาศาล ยิ่งเดี๋ยวนี้คนเดินเข้ามาเป็นเด็กนักเรียน ผมก็ไม่อยากขายแพง เพราะอยากให้เขาเข้าถึงได้ง่าย ผมพยายามให้เขาได้เล่นโดยใช้จ่ายน้อยที่สุด พวกเขาไม่ใช่ลูกหลานผม แต่เป็นความหวังของวงการคนรักแผ่นเสียง”

ปราการ ไม่เห็นด้วยกับการปั่นราคาแผ่นเสียงเก่าแก่หายากจนสูงลิ่ว

“ผมหลีกเลี่ยงการซื้อแผ่นราคาสูงมาขาย ร้านต้นฉบับขายในราคาตั้งแต่ 200 บาทถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้น ไม่อยากให้ลูกค้าเบื่อมัน เพราะเมื่อราคาแผ่นเสียงแพงเกินเอื้อม หลายคนก็เข้าไม่ถึง”

ปราการ หลับตาพริ้ม ขณะเงี่ยหูฟังเสียงเพลงก้องกังวานจากแผ่นเสียงที่กำลังหมุนอยู่บนเครื่องเล่น ราวกับอยู่ในโลกส่วนตัว

“เสน่ห์ของแผ่นเสียง หนึ่งคือ มีตัวตน เวลาหยิบแผ่นเสียงขึ้นมา จะเห็นภาพ เห็นประวัติของศิลปิน มันจับต้องได้ ไม่ใช่ไฟล์เพลงที่มีแค่ชื่อศิลปินและชื่อเพลงเหมือนยุคนี้ สอง แผ่นเสียงมันใช้หลักการธรรมชาติจริงๆ เวลาเข็มขูดร่องเสียง สั่นสะเทือนทำให้เกิดเสียงขึ้นมา และมันเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุด

ปราการ ม่วงสุขำ ผู้รอบรู้เรื่องแผ่นเสียง

 

ผมไม่ปฏิเสธการพัฒนา ไม่ใช่คนหัวโบราณถึงขั้นจะปฏิเสธเปิดรับการฟังเพลงในแบบอื่นๆ การฟังเพลงมันเป็นเรื่องของความสุข จะไปปิดกั้นทำไมว่าต้องฟังจากอะไร ผมฟังได้หมด เอ็มพี 3 ก็ฟังได้ เราต้องเปิดรับสิ่งใหม่ๆ แต่ขณะเดียวกันเราก็ไม่หลงลืมสิ่งที่มีคุณค่าในอดีต”

ในฐานะช่างซ่อมแผ่นเสียงและนักฟังตัวฉกาจ ปราการ แนะนำว่าบอกว่าแค่มีงบ 7,500 บาท ก็สามารถได้เครื่องเล่นดีๆ สักเครื่องมาครอบครองได้แล้ว

“เครื่องเสียงทุกวันนี้หาซื้อง่าย ทั้งที่มีแอมป์มีลำโพงในตัวพร้อม มีงบ 7,500 บาทก็เปิดฟังได้แล้ว การฟังแผ่นเสียงมันเป็นเรื่องของอารมณ์ ความสุนทรีย์ ไม่จำเป็นต้องเปิดดังลั่น คุณแค่อยู่ในห้องเล็กๆ เปิดแผ่นเบาๆ ก็ได้อารมณ์แผ่นเสียงแล้ว

ทุกวันนี้ ถ้าไม่ง่วนอยู่กับการซ่อมเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่หลังร้าน ก็จะนั่งยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่หน้าร้าน คอยต้อนรับลูกค้า พี่น้องผองเพื่อนในวงการคนรักแผ่นเสียงด้วยความกระตือรือร้น ไม่หวงวิชา

ไม่ต้องซื้อก็ได้ แค่เดินเข้ามาขอคำปรึกษา มาพูดคุยกันก็พอใจแล้วครับ แผ่นเสียงทุกแผ่นในร้านผมรักมันหมด ทุกเพลงมีคุณค่าเท่ากัน ถ้าคุณทำอะไรแล้วเห็นคุณค่ามาก่อนมูลค่ามันไม่เวิร์ก คุณไม่ได้รักมันจริงๆ แต่ถ้าคุณรักที่คุณค่า คุณจะไม่หาประโยชน์จากสิ่งที่คุณรักเลย”

ความสุขอันเรียบง่ายแต่ยั่งยืนของ ปราการ ม่วงสุขำ กูรูผู้รอบรู้เรื่องแผ่นเสียง