พื้นที่เล็กๆ สู่แคมเปญตลาดที่ยิ่งใหญ่ สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร ธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ผู้ปลุกกระแส “แม็กนั่ม ฟีเวอร์” ในไทย พร้อมแคมเปญ “ฟิน” โนมินอล ที่สร้างปรากฏการณ์ให้ความรู้สึกฟิน (มาจากคำภาษาอังกฤษ Finish) คำสแลงของคนยุคนี้ที่สะท้อนถึงอารมณ์สุดยอด ที่ทำให้ใครหลายๆ คนนึกครึ้มอยากซื้อไอศกรีมเคลือบช็อกโกแลตมากัดสักคำทันที

กระแสความฟินที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ยอดขายไอศกรีมแม็กนั่มในไทยเมื่อปีที่ผ่านมา เติบโตสูงถึง 400% พร้อมยอดจำหน่ายรวมกว่า 40 ล้านแท่ง

เป็นยอดขายที่มากกว่าการทำตลาดตลอด 20 ปีที่ผ่านมาของไอศกรีมแบรนด์ดังกล่าวในไทยเสียอีก ถือเป็นแรงผลักให้ปีนี้สุพัตราต้องเร่งคิดแคมเปญการตลาดอย่างหนัก เพื่อให้ทั้งแบรนด์และผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะกลุ่มไอศกรีมตัวอื่นๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคตามไปด้วยพร้อมกัน

สำหรับที่มาของแคมเปญการตลาดสินค้าต่างๆ ที่สุพัตราเข้ามาดูแลนั้น เธอบอกว่าการเข้าถึงความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคให้ได้ คือ แก่นสำคัญในการสร้างกิจกรรมการตลาดต่างๆ และการจะเข้าถึงได้นั้น อาจต้องใช้ “จินตนาการ” เข้ามาช่วยตามประโยคคลาสสิก “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์บันลือโลก ที่เธอยกขึ้นมาอิงประกอบเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น

 

ขณะที่แหล่งจินตนาการอันยิ่งใหญ่ของสุพัตรานั้น อยู่ใกล้ตัวเธอและครอบครัวมาก นั่นคือ โรงเรียนสอนศิลปะวายบี (YB) ย่านถนนรามคำแหง จากเดิมที่แค่ขับรถมารับส่งลูกคนโตเรียนพิเศษ จนถึงปัจจุบันเป็นคิวของลูกสาวคนเล็กอายุ 12 ปี และจากเดิมที่เป็นเพียงเฝ้าดูเด็กๆ วาดรูป สุดท้ายก็ทำให้เธอสนใจขอสมัครเป็นลูกศิษย์ครูก้อยและครูโย่งที่โรงเรียนศิลปะแห่งนี้ด้วย

ภายในพื้นที่โรงเรียนศิลปะเล็กๆ แห่งนี้ สุพัตรา บอกว่า เป็นสถานที่เปิดจินตนาการการทำงานอันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการที่มีโอกาสเข้าไปใกล้ชิดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก อย่างกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อหลักและรองอย่างคุณแม่และลูกที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง อาทิ ผลิตภัณฑ์คนอร์ ไอศกรีมวอลล์ คอร์นเนตโต แม็กนั่ม และผงซักฟอกบรีส เป็นต้น

“ที่โรงเรียนศิลปะแห่งนี้ พี่เป็นลูกศิษย์ที่มีอายุมากสุดในชั้น มีเพื่อนร่วมห้องเป็นเด็ก ศิลปะทำให้เรามีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ จากบทบาทข้างนอกที่พี่เป็นผู้บริหารไม่เคยถูกใครชม แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ เราจะวาดรูปอะไร ทำงานออกมาแบบไหน มีแต่คนมาชม มีคุณครูมาให้กำลังใจ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากงานประจำได้มาก ที่สำคัญทำให้มีสมาธิและใจเย็นขึ้น” สุพัตรา กล่าวอย่างมีความสุข

ทั้งนี้ ในแต่ละสัปดาห์ หากมีโอกาสเธอจะใช้เวลาเข้าชั้นเรียนศิลปะราว 23 ชั่วโมง แม้จะเป็นเวลาไม่มากนัก แต่ก็ถูกจัดอันดับให้เป็นมุมโปรดติดอันดับต้นๆ ก่อนที่จะไปเจองานบริษัทยากๆ ในเช้าวันจันทร์ จากเกร็ดเล็กๆ น้อย ๆ ที่เจอในคลาส เพราะเป็นแหล่งรวมลูกศิษย์ที่มีอายุหลากหลายคละกันไป สุดท้ายเธอได้กลายเป็นหัวหน้าแก๊งไอติมไปในที่สุด

 

และตำแหน่งเป็นหัวหน้าแก๊งไอติมนี่เอง ที่จุดประกายความคิดการทำแคมเปญการตลาดจากไม้ไอศกรีม มาสู่แคมเปญการตลาดล่าสุด ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมแบรนด์ วอลล์ แพดเดิล ป๊อป ที่เธอบอกว่าได้ไอเดียมาจากสถานที่แห่งนี้ด้วย

เธอเล่าว่า แคมเปญการตลาดไอศกรีมด์วอลล์ แพดเดิล ป๊อป ภายใต้โครงการล่าสุด มหัศจรรย์แห่งไม้ไอติม กับวอลล์ ปี 3 อยู่ในหัวข้อ “ไดโนเสาร์ทะลุมิติ” จะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ในการส่งต่อจินตนาการจากไม้ไอติม สู่จินตนาการที่สามารถจับต้องได้จริง แคมเปญนี้จะจัดขึ้นระหว่างเดือน ส.ค.พ.ย.นี้ ด้วยหวังไว้ให้เป็นพื้นที่เปิดกว้างทางจินตนาการสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ ในการสร้างสรรค์สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ ไดโนเสาร์ สายพันธุ์ต่างๆ ให้มาสู่รูปร่างจริงโดยใช้โครงสร้างจากไม้ไอติมนั่นเอง

พร้อมสำทับว่ากิจกรรมการตลาดดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งที่ต่อยอดไอเดีย ผ่านมุมความคิดที่ตกผลึกจากมุมโปรดภายในพื้นที่โรงเรียนศิลปะดังกล่าว และเชื่อว่าในอนาคตจะยังมีแคมเปญการตลาดใหม่ๆ ผ่านแนวคิดทะลุกรอบที่ไม่สิ้นสุดออกมาอีก