posttoday

อะไหล่มนุษย์ การให้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายในชีวิต

27 สิงหาคม 2556

การให้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สุขใจทั้งผู้รับและผู้ให้ แต่จะดียิ่งกว่าถ้าการให้นั้นเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่เท่ากับการให้ชีวิตและเป็นการให้ครั้งสุดท้ายหลังจากที่เราหมดลมหายใจแล้ว

โดย...อนุสรา ทองอุไร ภาพ กัน / โตโน่ / ใหม่ – คลังภาพโพสต์ทูเดย์ พี่เบิร์ดกับนันทิดา สิทธิผล

การให้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สุขใจทั้งผู้รับและผู้ให้ แต่จะดียิ่งกว่าถ้าการให้นั้นเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่เท่ากับการให้ชีวิตและเป็นการให้ครั้งสุดท้ายหลังจากที่เราหมดลมหายใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ร่างกายใดๆ การบริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้กับคนอีกหลายสิบคนนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีงามอย่างล้นเหลือ ที่จะได้ภาคภูมิใจกับเรื่องยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายในชีวิต ที่ได้ทำหน้าที่พลเมืองดีก่อนหมดลมหายใจ

นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัจจุบันมีหน่วยงานเอกชนให้ความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารและมีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยปัจจุบันมีแล้ว 690,046 ราย คาดว่าในปีนี้จะมีผู้แสดงความจำนงขอบริจาคอวัยวะอีกไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย สำหรับตัวเลขผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือจากการปลูกถ่ายอวัยวะในปี 2556 นี้ การปลูกถ่ายไตมีมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ ตับ และหัวใจ ตามลำดับ

คุณหมอกล่าวต่อว่า แม้ว่ามียอดผู้บริจาคเข้ามาเยอะ แต่ที่เสียชีวิตและให้ได้จริงมีเพียง 44 รายเท่านั้นในปีนี้ และที่มีปัญหาคือ ผู้บริจาคเสียชีวิตแล้วแต่ญาติๆ ไม่ได้แจ้งทันทีภายใน 24 ชั่วโมง หรือไม่ได้แจ้งมาที่สภากาชาดไทย คุณหมอแนะนำว่าผู้บริจาคควรพกบัตรบริจาคติดตัวไว้และแจ้งให้ญาติๆ ทราบ เมื่อมีการเสียชีวิตจะได้แจ้งมาที่สภากาชาด ซึ่งทางสภากาชาดจะแจ้งไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศ ไม่ว่าผู้บริจาคจะเสียชีวิตที่ใดก็ตาม

นอกจากนี้ ทางสภากาชาดไทยจะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษแก่ผู้บริจาคที่เสียชีวิตด้วย

ให้ 1 ได้ถึง 50

ในการบริจาคอวัยวะ มีข้อกำหนดว่าแม้ผู้บริจาคอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ไปเสียชีวิตที่เชียงใหม่ โรงพยาบาลในเชียงใหม่จะได้โควต้าไปก่อนครึ่งหนึ่ง แล้วจึงส่งมาที่สภากาชาด หลังจากเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง ทางโรงพยาบาลเครือข่ายจะทำการผ่าตัดอวัยวะที่ได้บริจาคไว้โดยทำการผ่าตัดเพียง 4 ชั่วโมง และตกแต่งศพให้ดูดีเป็นปกติ เช่น บริจาคตาก็จะเอาแต่แก้วตา แล้วใส่แก้วตาเทียมให้เหมือนปกติ ไม่ได้ดูน่ากลัวแต่อย่างใด หลังจากนั้นก็ให้ญาตินำไปประกอบพิธีได้ตามปกติ

หนึ่งชีวิตที่บริจาค สามารถไปช่วยต่อชีวิตคนได้อีก 50 คน เพราะใช้ได้หมดตั้งแต่หัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน ไต 2 ข้าง เนื้อเยื่อ ดวงตา ลิ้นหัวใจ (กรณีหัวใจช้ำใช้ไม่ได้) เส้นเลือด (เอาไปบายพาสหัวใจ) กระดูก (เอาไปบดทำฟันเทียม) แขน มือ ขา ผิวหนัง (ช่วยแผลถูกเบิร์นจากไฟไหม้) เห็นมั้ย... แทบจะไม่มีอะไรเสียของเลย

“ที่อเมริกา ทหารที่ไปรบที่อัฟกานิสถานแขนขาดกันเยอะ เขาเอามือจากผู้บริจาคไปต่อได้ ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากไปเท่าไหร่ เรายิ่งนำร่างกายของผู้เสียชีวิตมาใช้ประโยชน์ได้เยอะ คนยุโรปและอเมริกาเขามีทัศนคติที่ดีกับการบริจาค แต่คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราจะกังวลว่าเกิดชาติหน้าเดี๋ยวมีไม่ครบ อย่าคิดอย่างนั้น เราตายไปก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร เราจะได้ทำบุญใหญ่ครั้งสุดท้ายในชีวิต ทุกวันนี้มีผู้เสียชีวิตจากการรอบริจาคอวัยวะวันละ 45 คนนะที่เขารอไม่ได้ ตอนนี้มีผู้รอบริจาคอวัยวะแบบเร่งด่วนอยู่ 3,300 คน”

คุณหมอแนะนำว่า ผู้บริจาคไม่ต้องยุ่งยากอะไร มาลงชื่อบริจาคไว้จะได้รับบัตรประจำตัวของศูนย์บริจาค 1 ใบ บอกกับเพื่อนฝูงและญาติสนิทไว้ให้เขาทราบ จะได้แจ้งเมื่อเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติ ถ้าจะให้ดีก็ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ให้อ้วน เท่านั้นก็ได้อวัยวะที่มีคุณภาพใช้ได้ ที่ห้ามบริจาคก็คือป่วยเป็นมะเร็ง เอดส์ วัณโรค และโรคติดเชื้อ นอกนั้นก็บริจาคได้หมดตั้งแต่อายุ 265 ปี แต่ก็เคยมีที่เราได้อวัยวะจากคนวัย 70 กว่าให้กับผู้รับวัย 80 กว่าปี โดยจะจัดสรรให้กับผู้รับบริจาคอย่างเป็นธรรมตามลำดับความสำคัญ และอายุของผู้รับบริจาค โดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

(สำหรับผู้ที่สนใจเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ สามารถแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ที่ สายด่วน 1666 หรือ www.organdonate.in.th)

กัน-โตโน่ พรีเซนเตอร์บริจาคดวงตา

สองดาวรุ่งจากเดอะสตาร์ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้รับการทาบทามจากศูนย์บริจาคดวงตาสภากาชาดไทย ให้เป็นพรีเซนเตอร์กับโครงการนี้ได้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เขากล่าวว่า เมื่อได้รับการติดต่อมาเขาก็ตอบรับทันทีโดยไม่เสียเวลาคิด เพราะถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ เนื่องจากคนไทยยังบริจาคน้อย ถ้าเทียบกับคน 64 ล้านคน แต่มีผู้บริจาคอวัยวะเพียงหลักแสนคนเท่านั้น

“ตัวผมเองพอไปช่วยงานก็บริจาคดวงตาเป็นอันดับแรก แล้วชวนเพื่อนๆ ญาติๆ แฟนคลับไปบริจาคได้อีกหลายคน ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าจะไปบริจาคร่างกายให้ครบเลย เราตายไปก็เสียเปล่า ไปช่วยคนอื่นให้เขาได้เห็นโลกที่สวยงามบ้าง เผาหรือฝังไปก็เสียไปไม่ได้ประโยชน์อะไร ถือว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ครับ ตอนนี้มีคนต้องการรับดวงตา 8,000 คน แต่ที่มีบริจาคได้มาแค่ 400 คู่เท่านั้น อยากเชิญชวนให้มาบริจาคได้บุญกุศลมากนะครับ” เขากล่าวเชิญชวน

ขณะที่ กัน-นภัทร อินใจเอื้อ หนุ่มตาคมก็บริจาคดวงตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งชวนคุณพ่อคุณแม่และบรรดาแฟนคลับไปบริจาคอีกหลายคน และอาจจะมีเดินสายให้ความรู้ว่าการบริจาคไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ไม่มีอะไรยุ่งยาก ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย

“ไม่ว่าคุณจะสายตาสั้น ยาว เอียง เป็นต้ออะไรก็บริจาคได้ เพราะเขาใช้แก้วตา เป็นการให้ที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ เลย บริจาคได้ทุกที่กับโรงพยาบาลตามหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งเป็นเครือข่ายกับสภากาชาดอยู่แล้ว มาบริจาคกันเถอะครับ ให้คนที่เขาไม่เคยได้เห็นมีโอกาสได้เห็น เป็นการให้ที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไร เราจากโลกนี้ไปก็ไม่ต้องใช้ร่างกายใดๆ แล้ว” กัน ให้ข้อมูล

นอกจากสองหนุ่มจากเวทีเดอะสตาร์แล้ว ยังมีดาราใจดีอีกหลายคนที่ร่วมบริจาคอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นนางเอกแสนดีอย่าง แอน ทองประสม พระเอกผิวเข้มอารมณ์ดีอย่างป๋อณัฐวุฒิ สกิดใจ สาวร็อกอย่าง ใหม่ เจริญปุระ นางเอกเด็กแนวอย่าง ยิปโซรมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ แก้ม เดอะสตาร์วิชญาณี เปียกลิ่น และอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยนาม เรื่องดีๆ แบบนี้ขอกดไลค์ให้พันครั้งค่ะ

สิทธิผลร่วมใจชวนบริจาคอวัยวะ

วิชัย กิ่งชา ผู้อำนวยการโครงการกลุ่มสิทธิผล วีแคร์ กล่าวถึงแผนการรณรงค์โครงการอะไหล่มนุษย์ ว่า กลุ่มสิทธิผล วีแคร์ ได้ร่วมมือกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เดินหน้าจัดโครงการอะไหล่มนุษย์มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มสิทธิผลได้ให้การสนับสนุนศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ทั้งด้านการกระจายข่าวสาร การสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง และสร้างการตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะ ผ่านกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมการประกวดหนังโฆษณา เชิญชวน การลงพื้นที่แจกคู่มือให้ความรู้ การจัดทำแผ่นพับใบสมัครแสดงความจำนงการบริจาคอวัยวะ

“กิจกรรมประชาสัมพันธ์ในปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้แบบตัวต่อตัว หรือไดเรกต์ อินฟอร์เมชัน ด้วยการจัดกิจกรรมเดินสายสัญจร พร้อมเพิ่มสีสันและความน่าสนใจให้กับกิจกรรมครั้งนี้ด้วยการเชิญดารานักแสดง เช่น มิ้น มิณฑิตา จินนี่ธนิดา กาญจนวัฒน์ และเต็งหนึ่งกฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์ ร่วมเดินสายให้ความรู้ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงมินิคอนเสิร์ตเพื่อมอบความบันเทิงให้แก่ผู้มาร่วมงาน เดือนนี้กิจกรรมสัญจรครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นอีกที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จ.มหาสารคาม ในวันที่ 27 ส.ค. นี้ ”