posttoday

อย่าฉลาดแต่โง่

02 กรกฎาคม 2556

ขอความสวัสดีจงมีแก่น้องเณรที่รักทุกรูป สำหรับเช้าวันนี้พระอาจารย์ขอเอานิทานธรรมะที่ปราชญ์ท่านหนึ่งเล่าไว้ พระอาจารย์อ่านแล้วก็ชอบมาก ลูกเณรลองฟังดูนะ

โดย...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย

ขอความสวัสดีจงมีแก่น้องเณรที่รักทุกรูป สำหรับเช้าวันนี้พระอาจารย์ขอเอานิทานธรรมะที่ปราชญ์ท่านหนึ่งเล่าไว้ พระอาจารย์อ่านแล้วก็ชอบมาก ลูกเณรลองฟังดูนะ

กระทาชายนายหนึ่งมีอาชีพตัดฟืนขาย ทุกวันต้องเข้าป่าไปตัดฟืน กระทาชายคนนี้มีบริวารเป็นลิง เขามีฝูงลิงฝูงหนึ่งเป็นบริวาร เวลาเดินทางเข้าป่ามีพญาลิงเป็นจ่าฝูง แล้วก็มีลิงบริวารเป็นลูกฝูงตามเข้าไปในป่ายี่สิบสามสิบตัว เข้าป่าทีหนึ่งก็ไปกันเป็นพรวน ไปกันเป็นคาราวานคนกับลิง เวลาที่เขาตัดฟืนเสร็จแล้ว เจ้าลิงทั้งหลายมีหน้าที่ช่วยเจ้านายขนไม้ฟืนมาวางกอง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น

เขาทำมาหากินด้วยการตัดฟืนขาย โดยมีลิงทั้งหลายเป็นบริวารเช่นนี้อย่างมีความสุข และเป็นธรรมดาของคนเมื่ออยู่กับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ย่อมจะมีความผูกพันกัน กระทาชายนายนี้ก็เหมือนกัน เขาอยู่กับลิง จนลิงทั้งฝูงเห็นเขาเป็นพ่อ โดยเฉพาะพญาลิง กระทาชายคนนี้อยู่ที่ไหน เจ้าพญาลิงจะต้องอยู่ใกล้ๆ คอยทำหน้าที่อารักขาอย่างดีที่สุด ใครเข้ามาใกล้ ถ้าเห็นว่าทำท่ามิดีมิร้าย พญาลิงจะขู่ แยกเขี้ยว ยิงฟัน ทำทีเป็นปรามอยู่ในทีว่า “อย่ามายุ่งกับเจ้านายชั้นนะ ถ้าเข้ามา เป็นมีเรื่อง”

พญาลิงเป็นทั้งบริวารและเป็นทั้งองครักษ์ส่วนตัว อยู่มาวันหนึ่งเมื่อกระทาชายคนนี้เข้าไปตัดฟืนในป่าตั้งแต่เช้าจนกระทั่งถึงเที่ยงวัน รับประทานอาหารแล้วก็พักผ่อนด้วยความเหนื่อยอ่อน ล้มตัวลงนอนใต้ต้นไม้ ข้างๆ ก็มีกองฟืนกองพะเนินเทินทึก ซึ่งเขาตัดมาตั้งแต่เช้า แล้วบรรดาฝูงลิงต่างขนมาวางกองไว้ ถึงเวลาพักเที่ยงทั้งคนทั้งลิงก็พักเหมือนกัน ใช้เวลาไม่นานเขาก็ผล็อยหลับไป

พอผล็อยหลับไปเท่านั้นเอง ก็มีแมลงวันตัวหนึ่ง เป็นแมลงวันหัวเขียว บินวนไปวนมา วนมาวนไป แล้วในที่สุดเแมลงวันหัวเขียวตัวนั้นก็มาจับตรงหน้าผาก เจ้าพญาลิงองครักษ์เห็นแมลงวันตัวนั้นมาจับที่เจ้านายมัน มันก็เดินมาใกล้ๆ แล้วก็ย่องเข้าไป ปัดแมลงวัน แต่ไม่ให้มือถูกเจ้านาย แมลงวันก็ย้ายจากหน้าผากบินไปเกาะอยู่ที่หู มันก็ปัด ย้ายจากหูบินไปเกาะที่คอ มันก็เป่า ย้ายจากคอมันก็บินวนไปวนมา วนมาวนไป จนมันเดินวนเจ้านายมันหลายรอบ แมลงวันก็ไม่หนี สุดท้ายแมลงวันบินไปบินมา บินมาบินไป ไปเกาะอยู่ตรงดั้งจมูก

พญาลิงก็คิดว่า “เอายังไงดี ไล่ยังไงก็ไม่ไป” หันไปหันมา หันมาหันไป เห็นฟืนกองอยู่กองหนึ่ง ก็คิดว่า “ฉันคิดออกล่ะ” เดินกระย่องกระแย่งไปหยิบฟืนมาดุ้นหนึ่ง ท่อนเท่าขา มันคิดในใจว่า “ฉันไล่ยังไง แกก็ยังไม่ไปใช่ไหม ได้ งานนี้ต้องเจอกับฉัน” จากนั้นก็ลากฟืนกระย่องกระแย่ง กระย่องกระแย่งมา แมลงวันก็ยังนิ่ง ยังเกาะอยู่ตรงดั้งจมูกเจ้านาย มันเงื้อดุ้นฟืนขึ้นสุดแขน แล้วในนาทีนั้น มันก็คิดว่า ใครจะแตะต้องผู้เป็นเจ้านายสุดที่รักของข้าไม่ได้ ถ้ามาแตะต้อง ต้องได้เห็นดีกัน คิดด้วยความภักดีเสร็จแล้ว มันก็ฟาดดุ้นฟืนลงไป เปรี้ยง ได้ผล แมลงวันดับอนาถในสภาพเละตุ้มเป๊ะ แล้วแมลงวันจับอยู่ที่ไหนลูก ที่ดั้งจมูกของเจ้านายของมัน ดั้งจมูกหักคาที่ แมลงวันก็แหลกละเอียด โครงหน้าของเจ้านายเจอดุ้นฟืนท่อนเท่าขาไป เป็นยังไง ทั้งเละ ทั้งยุบ มันดีใจมาก จับแขนเจ้านายบอกว่า “นายครับ นายครับ มันตายแล้วครับ หึ หึ หึ” นายฟื้นไหม ถ้านายฟื้นได้ นายก็คงบอกว่า “อือ กูก็ตายด้วย”

มันพยายามปลุกเจ้านายอยู่ครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะเอาความดีความชอบ ดึงขาเจ้านาย ดึงแขนเจ้านาย ไม่มีสัญญาณตอบรับ เพราะว่าเจ้านายนั้นถึงแก่ความตายไปแล้วเรียบร้อยพร้อมกับเจ้าแมลงวันตัวนั้นนั่นเอง

ลูกเณรทั้งหลาย เรามาสรุปตรงนี้ว่า พญาลิงตัวนั้นมีปัญญาแต่ไม่มากพอ มีปัญญาอยู่นิดหน่อย เขารู้ว่าแมลงวันมารบกวนเจ้านาย เขาจะต้องไปหาฟืนมาสักท่อนหนึ่ง และบรรดาฟืนก็มีฟืนดุ้นเล็กท่อนเล็ก ดุ้นใหญ่ท่อนใหญ่ใช่ไหมลูก แต่เขาเลือกท่อนใหญ่ เขาไม่ใช้ท่อนเล็กเพราะเขากะว่าตีครั้งเดียวตาย มีการคำนึงถึงคุณภาพของการตี ของการฟาดเปรี้ยงลงไป งานนี้เอาถึงตาย แสดงว่ามีปัญญาอยู่ แต่เขาขาดสติ สติคืออะไร สติก็คือความรอบคอบนั่นเอง ฉะนั้นคนโบราณเวลาท่านสอนลูกสอนหลาน ท่านจึงสอนว่า จะทำอะไรก็ตามให้รู้จักคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ และคิดให้ลึกซึ้ง

ลูกเณรทั้งหลาย เช้าวันนี้พระอาจารย์ก็ฝากธรรมะรับอรุณเรื่องนี้ให้ลูกเณรนำไปคิดนำไปพิจารณาว่า ทุกๆ ครั้งที่ลูกจะใช้ปัญญา กรุณาอย่าลืมเติมสติลงไปในการใช้ปัญญาของลูกด้วย ขอให้ลูกเณรเบิกบานกับการเรียนธรรมะโดยทั่วกัน