posttoday

บ้านกลางธรรมชาติและขุนเขาของ จิตติมา วิภูสุพรรณ์

30 มิถุนายน 2556

บ้านคือที่พักใจพักกายยามเหนื่อยล้า หลายคนทำงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อมาปลูกบ้านหลังงามๆ เพื่อเป็นรางวัลชีวิต เช่นเดียวกับเธอผู้นี้ จิตติมา วิภูสุพรรณ์

โดย...อณุศรา ทองอุไร ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

บ้านคือที่พักใจพักกายยามเหนื่อยล้า หลายคนทำงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อมาปลูกบ้านหลังงามๆ เพื่อเป็นรางวัลชีวิต เช่นเดียวกับเธอผู้นี้ จิตติมา วิภูสุพรรณ์ เจ้าของแบรนด์เพรสทีจ เจมส์ ในวัย 40 ปีต้นๆ เธอมุมานะทำงานหนักเพื่อจะมีบ้านหลังที่สองเป็นรางวัลชีวิตให้กับครอบครัว เพื่ออยากให้ลูกชายหญิงทั้ง 3 คน ได้มีบ้านที่มีบริเวณ มีอากาศบริสุทธิ์ มีธรรมชาติที่รื่นรมย์ มาพักกายยามเหนื่อยจากชีวิตในเมือง เธอจึงตัดสินใจซื้อบ้านตากอากาศเป็นบ้านหลังที่สองใกล้ๆ กับเขาใหญ่ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ชอบที่นี่เพราะใกล้เขาใหญ่ ใกล้ตลาด ไม่พลุกพล่านมาก แต่ก็สะดวกสบาย

บ้านริมเนินเขาเตี้ยๆ 2 ชั้นครึ่ง 6 ห้องนอน บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี ใช้สีเรียบๆ โทนขาว ครีม น้ำตาล “ซื้อไว้เพื่อลูก เด็กๆ พอวันหยุดเราไม่อยากให้เขาอยู่แต่ในเมือง เดินแต่ห้าง เล่นแต่คอมพิวเตอร์ เล่นแต่เกม อยากให้เขามาวิ่งเล่น ใช้ชีวิตเอาต์ดอร์บ้าง มาที่นี่มีกิจกรรมเยอะ ได้ขี่จักรยาน เล่นสเกตบอร์ด เล่นฟุตบอล ส่วนคุณพ่อก็ได้ขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์กับลูกๆ บ้าง ได้มาทำอาหารรับประทานกันเอง ทำบาร์บีคิว เด็กๆ ชอบ สร้างกิจกรรมเพื่อความสมานฉันท์ในครอบครัวให้แนบแน่นขึ้น พอมีบ้านนี้เราก็ได้มาเขาใหญ่กันบ่อยขึ้น ไม่ต้องไปเช่าโรงแรมมีบ้านของเราเอง” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชั้นล่างแบ่งเป็น 2 ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องนอนเล็ก และมีห้องรับแขกเล็กๆ พร้อมระเบียงด้านหน้า ชั้นสองมี 2 ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องนอนเล็ก ห้องรับแขก ห้องครัว ระเบียงหลังบ้าน ระเบียงหน้าบ้าน และมีห้องใต้หลังคาทำเป็นห้องนอนเล็กๆ เปิดโล่งให้เด็กๆ ขึ้นไปนอนเล่น

บริเวณสวนหน้าบ้านมีชิงช้าและชุดที่นั่งไม้ สำหรับมีปาร์ตี้บาร์บีคิว ในช่วงปลายปีที่อากาศหนาวก็จะมาใช้มุมสวนกันบ่อย อีก 1 มุมโปรดก็คือระเบียงหน้าบ้าน ตอนเช้าๆ หรือตอนเย็นจะมานั่งดื่มชา กาแฟ กันตรงนี้พร้อมหน้าพ่อ แม่ ลูก

“ตัวบ้านปลูกแบบเรียบง่าย เน้นโล่งๆ โปร่งๆ ไม่มีของประดับตกแต่งอะไรมาก เน้นไม้เป็นองค์ประกอบหลัก เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างเลือกใช้ไม้ สไตล์ร็อกการ์เด้น เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ เราอยู่ตึกคอนกรีตในเมืองมามากแล้ว หลังนี้ขอแบบอิงธรรมชาติสุดๆ บ้านนี้ห้ามมีของเยอะจนดูรก เพราะเป็นบ้านที่มาเฉพาะวันหยุด ของใช้สอยมีเท่าที่จำเป็น ขอเบาๆ สบายตา”

ตัวบ้านประมาณ 100 ตารางวา ต้องการเหลือพื้นที่โดยรอบบ้าน โดยเฉพาะหลังบ้านไว้โล่งๆ เพื่อปลูกต้นไม้และเหลือทำสนามกว้างๆ ไว้ให้ลูกชายไว้เตะบอลกัน แนวหลังบ้านปลูกมะม่วงไว้ 8 ต้น ขนุน เกาลัดอย่างละ 23 ต้น ช่วงหน้าหนาวที่นี่อากาศดี จนเกาลัดออกดอก หน้าบ้านจะปลูกมะยมและไม้ดอกหอมหลายชนิด ทั้งชมนาด หอมหมื่นลี้ กระดังงา เฟื่องฟ้า

เธอบอกว่า บ้านหลังนี้ปลูกตามหลักฮวงจุ้ย หน้าบ้านต้องหันไปทางนี้ รับลมแบบนี้ หน้าบ้านปลูกต้นมะยม หลังบ้านปลูกขนุน ด้านข้างๆ บ้านมีสวนหย่อม “พอเป็นบ้านหลังที่สองเรามีเวลาเลือกพิถีพิถันได้มากขึ้น อะไรที่เคยมีปัญหาตอนปลูกบ้านหลังแรกเราก็แก้ไขไม่ให้เกิดกับบ้านหลังนี้อีก” เธอกล่าวอย่างมีประสบการณ์