posttoday

ทำยังไง...?

29 มิถุนายน 2556

ภาวการณ์มีบุตรยากบั่นทอนคู่สามีภรรยาไทยไม่น้อย ปัจจุบันพบว่าคนไทยนิยมรักษาตามศาสตร์แพทย์แผนจีนมากขึ้น

ภาวการณ์มีบุตรยากบั่นทอนคู่สามีภรรยาไทยไม่น้อย ปัจจุบันพบว่าคนไทยนิยมรักษาตามศาสตร์แพทย์แผนจีนมากขึ้น แพทย์จีนเผย 6 สาเหตุส่ออาการมีลูกยาก ชี้ทางวิธีรักษาแบบจีนให้ได้ผล อายุน้อยรักษาได้ผลกว่าอายุมาก

สถิติของคู่แต่งงานในประเทศไทยนับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น แพทย์หลายสำนักออกมาฟันธง ว่าต้นเหตุสำคัญเป็นเพราะคนไทยแต่งงานช้าลง โดยเฉพาะในสังคมเมือง ยิ่งแต่งงานอายุมากเท่าไร โอกาสมีลูกยากยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการมีลูกยากปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นส่วนที่ทำให้ครอบครัวไทยมีสิทธิแตกร้าว หรือไม่ก็หดหู่ เศร้าใจอยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นคนจูงลูกจูงหลานไปตามที่ต่างๆ อย่างไรก็ดี จากหลายสาเหตุที่ส่อว่าเราอาจเป็นผู้หนึ่งที่มีลูกยาก นอกจากพึ่งแพทย์แผนปัจจุบันในการรักษาแล้ว แพทย์แผนจีนยังเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

หญิงชายต้องตรวจภายในก่อนรักษา

คนที่ถือว่ามีบุตรยาก ดูได้ง่ายๆ คือ แต่งงานแล้ว 12 ปี ไม่ได้คุมกำเนิดใดๆ แต่ยังไม่มีลูก หรือคนที่เคยมีลูกมาแล้ว แต่หลังจากมีลูก 12 ปี ไม่ตั้งครรภ์อีก ก็ถือว่าเข้าข่ายคนเป็นโรคผู้มีบุตรยากทั้งสิ้น

เมื่อคู่ไหนตัดสินใจแล้วว่าจะทำการรักษาโดยการแพทย์แผนจีน แนะนำว่าต้องเริ่มต้นจากการไปตรวจร่างกายที่การแพทย์แผนปัจจุบันก่อนดังนี้

ฝ่ายหญิง ต้องตรวจ 3 ประเภทด้วยกัน คือ หนึ่ง ให้ตรวจอุลตราซาวด์ช่องท้อง มดลูก และรังไข่ ในช่วง 1 สัปดาห์หลังประจำเดือนหมดแล้ว สอง ให้ตรวจฮอร์โมน 5 ชนิดด้วยกัน คือ FSH, LH, Estradiol, Prolactin และ Progesterone และสาม ตรวจดูท่อนำไข่ว่าอุดตันหรือไม่

ฝ่ายชาย ต้องตรวจน้ำเชื้ออสุจิ ว่าเชื้ออสุจิมีปริมาณมากหรือน้อยและมีความแข็งแรงหรือไม่ โดยควรตรวจหลังจากจากมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 4 วัน

ในการแพทย์แผนจีนจะแยกประเภทของสาเหตุใหญ่ๆ ไว้ 6 ประการด้วยกัน คือ

1.ไตบกพร่องเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ที่สำคัญคือ ภาวะหยินหยางในร่างกายไม่สมดุล ตับบกพร่อง และเลือดลมไม่ดี ซึ่งในผู้หญิงอาจทำให้มดลูกมีขนาดเล็กเกินไป รอบเดือนน้อยกว่าปกติ ผู้ที่มีไตบกพร่องมักจะไม่สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ ต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย

2.ตับบกพร่อง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญ คือ การดื่มเหล้ามากเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มเหล้าจะเกิดปัญหานี้ ในผู้หญิงภาวะตับบกพร่องอาจทำให้เกิดการมีประจำเดือนที่ไม่ปกติ มีผลต่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่แข็งแรง

3.เลือดลมบกพร่อง เกิดจากผู้มีร่างกายอ่อนแอ ระบบการย่อยไม่สมบูรณ์ จุกเสียดกระเพาะง่าย

4.มีเสลดสะสมจำนวนมาก เสลดในที่นี้เป็นสารน้ำตกค้างซึ่งจัดเป็นของเสียที่จะอยู่ในอวัยวะภายในร่างกาย ไม่สามารถขากทิ้งได้เหมือนเสลดที่คอ แต่จะทำให้เกิดซีสต์ในรังไข่ หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ ซึ่งเสลดนี้สามารถเกาะได้หลายที่ ถ้าเกาะที่จุดไหนเยอะแสดงว่าจุดนั้นมีปัญหาทำให้มีบุตรยาก โดยเสลดนี้สามารถก่อตัวกลายเป็นพังผืดในภายหลังได้ด้วย

5.ธาตุในร่างกายร้อนเกินไป จะทำให้ส่งผลให้บริเวณอุ้งเชิงกรานอักเสบได้

6.เลือดคั่ง ส่งผลให้เกิดอาการท่อนำไข่ตีบตัน หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ มีเนื้องอกฝังในมดลูก พังผืดอยู่ในมดลูก ปากช่องคลอดมีพังผืด ซึ่งส่งผลต่อการมีบุตรยากทั้งสิ้น

อาการทั้งหมดนี้ อาจนำไปใช้สังเกตอาการของตนได้แต่เพียงคร่าวๆ เพราะเท่าที่พบมานั้น ผู้ที่มีบุตรยากมันเกิดจากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกัน และแต่ละคนจะมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถกินยาชุดเดียวกันได้ หรือหากมีคนนำยามาขายโดยบรรยายสรรพคุณว่าแก้ปัญหามีบุตรยากได้นั้น ไม่ควรเชื่อหรือซื้อมากินเด็ดขาด

ทางที่ดีคือต้องไปหาแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อหาสาเหตุหลักให้ได้ก่อน จากนั้นแพทย์แผนจีนจะทำการรักษาให้ตรงจุดนั้นๆ โดยยาที่รักษาก็จะใช้สมุนไพรหลายตัวที่แตกต่างกัน ไม่สามารถหาซื้อมาทานเองได้ อีกทั้งใน 1 สูตรยาประกอบด้วยตัวยาสมุนไพรกว่า 10 ชนิด

“รู้ต้นเหตุจะรักษาได้ดีกว่าการแมะอย่างเดียว เพราะไม่ค่อยได้ผล คนที่มาหาหมอจีนและได้ยาจีนไปกิน ก็จะต้องกินยาอย่างต่อเนื่องให้ครบชุด อย่ากินครึ่งๆ กลางๆ ”

ทั้งนี้ นอกจากการรักษาโดยให้ยารักษาไปตามอาการแล้วนั้น คู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจทำการผสมเทียม หรือทำกิฟต์ ก็สามารถมาหาแพทย์จีนได้เช่นกัน โดยแพทย์จีนจะให้ยาสมุนไพรประเภทบำรุงร่างกายให้ หากร่งกายแข็งแรงมดลูกสมปกติ เลือดลมบริบูรณ์ โอกาสจะประสบผลสำเร็จก็จะมีมากขึ้น