อรภัค สุวรรณภักดี สมาร์ทโฟนเครื่องเดียว...เอาอยู่

โดน...โยธิน อยู่จงดี ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

เชื่อหรือไม่ว่า เราสามารถเปิดร้านขายของบนอินเทอร์เน็ตได้ด้วยไอโฟนเพียงเครื่องเดียว ตั้งแต่ถ่ายรูปจนจบกระบวนการขาย ก็คือรับเงินจากลูกค้า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในปี 2013 เมื่อทุกอย่างถูกผนวกรวมเข้ากับสมาร์ทโฟน เหลือแค่จะมีใครสักคนที่ดึงศักยภาพของอุปกรณ์ออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ให้คุ้มค่าทุกเม็ดเงินที่เสียไป

อรภัค สุวรรณภักดี เจ้าของหนังสือ “ทำตลาดบน facebook ฉบับประยุกต์ใช้แอพพลิเคชั่น” และเจ้าของร้านขายกระเป๋าและแอกเซสซอรี่ออนไลน์ แบ็กซิลลี่ ที่มีผู้ติดตามร้านนี้กว่า 2 หมื่นคน คือหนึ่งในผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างคุ้มค่ามากที่สุดคนหนึ่ง

เธอเรียนจบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นเรียนต่อระดับปริญญาโทที่คณะบริหารธุรกิจ เอกการเงิน จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ หรือเอ็มไอที และเรียนด้านการออกแบบเว็บไซต์เพิ่มเติมจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวก็คือเป็นเพราะเธออ่อนด้านเทคโนโลยี แต่รู้ว่าเทคโนโลยีคือก้าวสำคัญของอนาคต จึงไม่ย่อท้อที่จะเรียนด้านเทคโนโลยีจนกลายเป็นหนึ่งในกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์

จนผลงานเขียนหนังสือและร้านค้าออนไลน์ของเธอเอง ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็สามารถขายของทั้งหมดได้ บางคนอาจจะมองว่าเยอะ แต่อรภัคกลับคิดว่าเราได้ใช้อุปกรณ์ไอทีให้คุ้มค่ามากที่สุด อย่างรูปสินค้าแบบง่ายๆ ก็สามารถถ่ายรูปพร้อมโพสต์ข้อความอัพขึ้นเฟซบุ๊กได้ทันที ซึ่งคุณภาพของกล้องไอโฟนก็ดีในระดับหนึ่ง แต่อาจจะสู้กล้องใหญ่ไม่ได้ในบางงาน เช่น ถ่ายนางแบบกับสินค้า อย่างนี้ก็ต้องหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาทำงาน แต่โดยทั่วไปแล้วไอโฟนหรือสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็เอาอยู่แน่นอน

เธอยังมองว่าร้านออนไลน์จะเป็นเทรนด์การขายของในอนาคต ซึ่งจะทำให้ร้านค้าขนาดเล็กสามารถสู้กับร้านใหญ่ได้ เพราะปัจจุบันลูกค้ามีความเชื่อมั่นที่จะสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น และใครๆ ก็หันมาเปิดร้านในช่องทางการขายที่ดูแลง่ายที่สุด ก็คือแฟนเพจหน้าร้านบนเฟซบุ๊ก

ส่วนการแบ่งเวลา ก็เพียงแค่ช่วงเวลาปกติเราก็ทำงานประจำไป แล้วค่อยโพสต์สินค้าช่วงกลางคืน ถ้ามีลูกค้าสั่งออร์เดอร์มาก็ให้คนไปส่งอีกวัน หรือจัดระบบส่งเป็นล็อตๆ ในคราวเดียว หรือใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ เข้ามาทำงานตรงนี้ก็ได้ ดังนั้นเรื่องเวลาในการทำงานไม่ใช่ปัญหาในการขายสินค้าออนไลน์อย่างแน่นอน

สำคัญตรงที่ช่วงเวลากลางคืนเราต้องบริหารจัดการงานให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ว่าเราจะต้องจัดการอะไรบ้าง การสั่งซื้อของต้องส่งข้อความทางใดทางหนึ่งเท่านั้นเพื่อเป็นหลักฐานในการสั่งซื้อ และที่สำคัญเราจะต้องมีช่องทางให้ลูกค้าได้ติดต่อทุกทาง แต่เชื่อว่าส่วนน้อยมากที่จะรู้จักใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าการคุยกัน นั่นเป็นเพราะเรามีความเข้าใจกับเครื่องมือสื่อสารเหล่านี้อย่างไม่ถ่องแท้

ปัญหาอย่างหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการซื้อขายบนโลกออนไลน์ก็คือร้านค้าปลอมและการหลอกลวงขายสินค้า อรภัค แนะนำการแก้ปัญหานี้อย่างง่ายๆ ก็คือ ร้านค้าจริงๆ จะต้องมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น การโพสต์ขายของ การสอบถามพูดคุยกับลูกค้า รายการยืนยันสั่งซื้อของ และยอดวิวที่เข้าชมเว็บไซต์ หลายๆ อย่างเอามาประกอบกัน ก็จะช่วยกรองร้านที่หลอกลวงออกไปจากรายการของเราได้

แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่อรภัคบอกกับเราเรื่องเทคโนโลยีก็คือ “ถ้าเราไม่เป็นอะไร หรือรู้ว่าเราอ่อนอะไร เราจะต้องพยายาม ต้องขวนขวายศึกษาหาความรู้ให้มาก อย่าไปกลัวเทคโนโลยีว่าเราไม่เป็น ถ้าใช้แล้วจะพัง ของพวกนี้ไม่ได้พังกันง่ายๆ เราต้องกล้าและหาสิ่งที่ช่วยทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะช่วยทำให้เราเก่งในเรื่องนั้น เราต้องมีความกล้าทดลอง ลองผิดลองถูก แล้ววันหนึ่งเราจะเป็น” อรภัค ให้คำแนะนำเรื่องการใช้เทคโนโลยีในฐานะที่เคยเป็นคนไม่เก่งไอทีมาก่อน

จากอุปกรณ์ถึงแอพของอรภัค

ไอโฟนเป็นเครื่องที่มีความเสถียรและใช้งานง่าย ถ่ายรูปสวย อรภัคจึงเลือกมาเป็นอุปกรณ์ประจำตัว แต่เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าจำนวนมาก เธอจึงจำเป็นต้องมีไอโฟนเพิ่มอีกเครื่อง โดยให้เหตุผลว่าหากเครื่องหนึ่งแบตหมด หรือไม่สามารถใช้งานได้ อีกเครื่องต้องเข้าประจำการได้ทันที

ไอแพด เป็นเครื่องสำหรับจัดการหน้าแฟนเพจ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่จึงสะดวกต่อการเช็กและจัดการสิ่งที่เธอต้องการเรื่องอื่นๆ ได้อย่างคล่องตัว

ไลน์ แอพสำหรับแชทกับลูกค้าและเก็บเป็นรายการสั่งซื้อของ หากใช้ให้เป็นจะเป็นเครื่องมือสานสัมพันธ์กับลูกค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก

บ็อกซ์ กล่องเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ คนไทยยังไม่นิยมใช้มากนัก การทำงานคล้ายๆ กับแอพดร็อปบ็อกซ์ แต่สามารถคอมเมนต์งานผ่านระบบนี้ได้ทันที เหมาะสำหรับการทำงานผ่านระบบออนไลน์กับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่