posttoday

เปิดใจ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ จากดัง ไปฉาว และก้าวเดินที่ได้เรียนรู้

20 มิถุนายน 2556

ด้วยความที่เป็นเด็กรูปร่างผอมบาง ตัวสูง ทำให้ฉายาในวัยเด็กของซุป’ตาร์ค่ายอาร์เอส “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์”

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

ด้วยความที่เป็นเด็กรูปร่างผอมบาง ตัวสูง ทำให้ฉายาในวัยเด็กของซุป’ตาร์ค่ายอาร์เอส “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” คือ “กระดูกเดินได้” เพราะตัวสูง ผอม แขนขายาวอีกต่างหาก แต่ด้วยความหน้าตาดี ขี้เล่น เป็นกันเอง ทำให้เขามีโอกาสก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง และแจ้งเกิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่เส้นทางในวงการบันเทิงของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อเขาต้องพบเจอมรสุมชีวิต รวมทั้งข่าวฉาวที่ถาโถมใส่ จนเขาต้องล้มลุกคลุกคลานอย่างสะบักสะบอม

มาวันนี้ ฟิล์ม รัฐภูมิ คนเดิมขอเดินหน้าต่อ เพื่อเริ่มต้นใหม่กับชีวิตเดียวของเขา รวมทั้งเดินหน้าเพื่อแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ซึ่งเขาจะมาเปิดใจแบบหมดเปลือกกับทุกเรื่องราวที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้

หลังจากผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะ บทเรียนที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้รับมานั้นมีมากมายเหลือเกิน แต่สิ่งที่ทำให้เขากลับเข้ามาในวงการบันเทิงได้ต่อ เป็นเพราะเขาต้องการพิสูจน์ตัวเอง

“ที่ผ่านๆ มาถือว่าหนักมาก เหมือนชีวิตกำลังจะล้มทั้งยืน แต่ถ้าผมล้มลงไป โดยที่ไม่คิดจะลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว ปัญหาหนักๆ คงจะถาโถมเข้ามาอีกเยอะ เมื่อมีคนที่รัก และให้กำลังใจอยู่เคียงข้างผม ผมต้องลุกและยืนให้ได้ด้วยตัวเอง คนที่ประคองหรือช่วยเหลือเรา เขาคงทำได้เพียงให้กำลังใจ แต่ถ้าผมไม่คิดจะสร้างพลังนั้นให้ตัวเอง ก็คงไม่มีใครมาช่วยผมได้ ผมว่าชีวิตคนเราก็ต้องเจอทั้งทุกข์และสุข แต่เมื่อเจอปัญหาไม่ว่าจะหนักหรือใหญ่แค่ไหน เราต้องสู้

วันนี้ผมต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ผมว่าความตั้งใจของผมจะพิสูจน์ทุกอย่าง ดีหรือไม่ดีไม่ได้มาจากใคร ตัวเราเท่านั้นคือคนสร้าง ก็อยากขอบคุณทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เฮียฮ้อ ซ้อ ผู้ใหญ่หลายท่าน ฟิล์มแฟมิลี ที่เป็นกำลังใจให้ผมก้าวข้ามหลายๆ เรื่องมาได้ครับ ปัญหาต่างๆ ที่ผมผ่านมาได้ เพราะผมมีสติ คนเรามีอดีตทุกคน แต่สิ่งสำคัญคือทำปัจจุบันให้ดีกว่าสิ่งที่เราเคยผิดพลาดไป เราต้องหยิบเอาอดีตมาสอนปัจจุบัน และปรับปรุงในสิ่งที่ผิดพลาดครับ”

ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยว่า ช่วงนี้มี 7 วัน เขาทำงาน 7 วัน แทบจะไม่ได้ไปไหน แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าไปบ้าง แต่เขาชอบทำงาน ว่างไม่ได้ เพราะสมองจะคิดถึงแต่เรื่องงานและโปรเจกต์ต่างๆ

“นอกจากละคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เดอะซิกท์เซนส์ 2 ทางช่อง 3 นางมาร และผู้ชนะสิบทิศ ทางช่อง 8 ล่าสุด ผมก็เตรียมเปิดกล้องอีก 1 เรื่อง กับทางบรอดคาซท์ เรื่อง ร้ายนักพยัคฆ์กังฟู”

นอกจากนี้ ยังเป็นพรีเซนเตอร์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนมไทยเดนมาร์ค ที่สำคัญคือ เขากำลังก้าวเดินสู่การเป็นนักธุรกิจอย่างเต็มตัว

“ตอนนี้ผมทำบริษัททัวร์ทั่วโลก ชื่อว่า ชีลเอ๊าท์เลเชอร์ และล่าสุด ผมเปิด เอฟ.บี. เมดิคอล คลินิก มี 9 สาขาแล้ว มีที่เชียงใหม่ เชียงราย เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ห้วยขวาง รัชดาฯ ฯลฯ และร้านมายไอเดีย ขายอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับไอทีที่เชียงใหม่ครับ ซึ่งผมก็ไปดูร้านเองด้วย เพราะเป็นธุรกิจของเรา เราต้องดูแล ผมต้องบริหารทั้งคนและงานให้เดินควบคู่กันไป เรื่องปัญหาก็มีให้ต้องแก้ไขตลอด แต่โชคดีที่ผมมีทีมงานดี มีทีมบริหารที่เชี่ยวชาญ ก็เบางานไปเยอะครับ”

เมื่องานละครก็ยังมีอยู่แน่นเอี๊ยด ธุรกิจก็ต้องเดินหน้าควบคู่กันไป ทำให้ใครหลายคนอาจเกิดคำถามสงสัยว่าเขากำลังเตรียมลาวงการบันเทิงหรือเปล่า...

“ผมเกิดมาจากตรงนี้ วงการนี้มีพระคุณกับผม ทำให้ผมได้ทำงานที่ผมรัก ผมเคารพในอาชีพของผม ผมจึงต้องทำงานตอบแทนความรักที่แฟนๆ มีให้ครับ ไม่คิดจะลาวงการบันเทิงอย่างแน่นอน ขอทำงานตรงนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีคนจ้าง หรือทำไม่ไหว หรืออาจจะผันตัวเองจากเบื้องหน้าไปทำงานเบื้องหลังก็ได้ อนาคตก็ต้องดูกันอีกทีครับ แต่ผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาสามารถทำอะไรได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน ตอนนี้สิ่งที่ผมทำ เป็นสิ่งที่ผมรัก ทุกอย่างทำมาด้วยเจตนาที่ดีและมีความสุขกับงานที่ทำ”

เมื่อถามถึงแรงผลักดันในชีวิต ที่ทำให้เขาก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ฟิล์ม รัฐภูมิ ยิ้ม ก่อนตอบว่า “ครอบครัว” เป็นคำตอบสุดท้าย

“ไม่ว่าผมจะสุข ทุกข์ เศร้า ครอบครัวคือคนที่อยู่เคียงข้างผม ในฐานะลูกคนหนึ่ง ความกตัญญูเป็นสิ่งที่ลูกทุกคนต้องมี ผมอยากให้พ่อแม่สบาย มีสุขภาพที่แข็งแรง มีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต เพราะฉะนั้นผมต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ผมวางไว้ วันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จไปหลายก้าวแล้ว ก็ต้องขอบคุณครอบครัวที่ดูแลผม เป็นกำลังใจให้ผมสู้กับทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครับ”

ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยเคล็ดลับการสร้างสมดุลให้กับชีวิตไว้ว่า จงใช้ช่วงเวลาทำงาน สร้างความสุข เสียงหัวเราะให้กับตัวเอง

“ในเมื่อเราทำงาน เราก็ต้องสนุกไปกับงานที่ทำ สนุกไปกับเพื่อนร่วมงานทุกคน หรืออย่างช่วงไปทำรายการท่องเที่ยว ผมก็อาศัยช่วงเวลาทำรายการ พักผ่อนไปด้วย แม้ชั่วโมงการทำงานจะมากกว่าการพักผ่อน ผมก็มีความสุขและยอมรับได้ คนเรามีโอกาสที่ไม่เหมือนกัน แค่มีช่วงเวลาที่หัวเราะ และยิ้มได้ ก็โอเคแล้วครับ”

สำหรับเรื่องหัวใจ ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยว่า ตอนนี้โสดสนิท เพราะเขามุ่งอย่างเดียวคือความสำเร็จ จนไม่มีพื้นที่เผื่อให้สาวคนไหนเลย

“จริงๆ ครับ ไม่ได้พูดเพื่อสร้างภาพ ที่ผมมุ่งมั่นเรื่องความสำเร็จ จนไม่มีพื้นที่ให้สาวๆ เลย เป็นเพราะผมต้องเอาบทเรียนในอดีตมาทำตัวเองให้ดีขึ้นในปัจจุบัน เรื่องเข็ดกับคนในวงการมั้ย ก็ไม่นะครับ ผมไม่ได้เข็ดอะไร เพียงแต่ถ้าผมเกิดมีสาวๆ ขึ้นมาในตอนนี้ เขาอาจลำบากใจที่เข้ามาในตอนที่ผมงานชุก ซึ่งถ้าผมมีจริงๆ ผมคงขอเขาเรื่องเดียว คือ ความเข้าใจ เพราะผมทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงาน อยากให้คนที่จะมาอยู่ดูแลกัน เข้าใจ และมีเป้าหมายเดียวกันครับ”

กับชีวิตที่เดินทางมาแล้ว 28 ปี มุมมองการใช้ชีวิตของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ในวันนี้ นอกจากทำงานอย่างเต็มที่ ยังต้องตอบสนองสิ่งที่ดีคืนกลับสู่สังคม

“เกิดเป็นคนต้องรู้จักแบ่งปัน ต้องรู้จักทำประโยชน์ให้กับสังคม ถึงจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ อย่าลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างคือของปลอม ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน ทุกวันนี้เราพยายามทำอะไรที่ตอบสนองคืนกลับสังคมให้ได้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ผมพยายามพูดกับตัวเอง คือ ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ทุกอย่างเป็นของที่เราสมมติขึ้น อย่ายึดติด เพราะฉะนั้นให้อะไรกับสังคมได้ ก็ควรให้ไปครับ”

ท้ายที่สุด กับคำถามที่ว่า คิดยังไงกับฉายาที่วงการบันเทิงตั้งให้ “ซุป’ตาร์ฆ่าไม่ตาย” ฟิล์ม รัฐภูมิ หัวเราะตามสไตล์ ก่อนตอบ

“ออกแนวเป็นอมตะ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรกับฉายานี้นะครับ ผมว่าก็แล้วแต่มุมมองคน ซึ่งหลายคนในวงการก็ถูกตั้งฉายามากมาย ผมว่ามองเป็นมุมน่ารักๆ ไป ผมตั้งใจทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว ผมว่าความตั้งใจของผมจะพิสูจน์ทุกอย่าง แต่ที่สุดแล้วทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อตอบแทนให้กับแฟนๆ ที่รอคอยผลงานของผม ซึ่งผมจะไม่ให้แฟนๆ ต้องผิดหวังในตัวผมเหมือนที่เคยเป็นมาครับ”

เรื่องราววัยเด็ก : เป็นเด็กดื้อ ติดแม่ แต่ชอบทำกิจกรรม เวลาว่างจะเล่นบาสเกตบอล หรือวอลเลย์บอล

สิ่งที่ไม่ชอบทำ : ตอนเด็กไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ เพราะรู้สึกว่ายาก เรียนยังไงก็ไม่เข้าใจ แต่วันนี้ภาษาสำคัญกับการใช้ชีวิตและการทำงานมาก เพราะเป็นภาษาสากลในการติดต่องาน ทำให้ในตอนนี้ต้องมาเร่งฝึกฝนและพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเอง

ภาพยนตร์เรื่องโปรด : Avatar หนังแนวมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ อลังการ สนุก เป็นแอนิเมชันที่สมจริง แต่ก็สอดแทรกด้วยข้อคิดเรื่องการอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้

ศิลปินในดวงใจ : บรูโน มาร์ส เพราะเขาเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านดนตรี ทั้งตีกลอง เล่นคีย์บอร์ด เบส และโซโลกีตาร์ ร้องเพลงเก่ง แต่งเพลงเจ๋ง ทุกเพลงที่ออกมาเพราะหมดเลย การันตรีด้วยรางวัลเยอะมาก

เพลงที่ชอบและฟังบ่อย : Just the Way You Are และ Grenade (ทั้งสองเพลงของ บรูโน มาร์ส)