posttoday

พ.ต.ต.พัดธงทิว ดามาพงศ์ เชื่อมั่นกับคำว่าโอกาส

06 มิถุนายน 2556

ร่ำเรียนจบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นจึงเลือกศึกษาปริญญาโท

โดย...ปอย ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ร่ำเรียนจบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นจึงเลือกศึกษาปริญญาโท ด้านนโยบายสาธารณะและการจัดการ (รัฐประศาสนศาสตร์) มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ และสอบเข้ารับราชการเริ่มจากเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามด้วยตำรวจท่องเที่ยว และล่าสุดย้ายมาเป็น ตำรวจทางหลวง คือโพรไฟล์ของ “สารวัตรปืน” พ.ต.ต.พัดธงทิว ดามาพงศ์ ซึ่งเมื่อคราวที่ทำงานเป็นตำรวจท่องเที่ยวอยู่ในตำแหน่งรอง สว.งานสืบสวน กก.4 บก.ทท. บช.ก. จ.เชียงใหม่ ก็สร้างความฮือฮาลดความน่าเกรงขามของเครื่องแบบสีกากีโชว์สเต็ปเต้นท่าสุดฮิตจากเพลง Sorry Sorry เลียนแบบ “ซูเปอร์จูเนียร์” วงดนตรีบอยแบนด์ชื่อดังแห่งแดนกิมจิ มิวสิกวิดีโอนี้ทำขึ้นมาเพื่อประกวดในงานเลี้ยงหลังจากร่วมกันฝึกความพร้อม เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหากเกิดเหตุฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ

กระทั่งมีคนนำออกมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบจนโด่งดังชั่วข้ามคืน กับลุคผู้กองรูปหล่อหน้าใส “สารวัตรปืน” ให้การสารภาพในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ว่า อาชีพตำรวจไม่ได้อยู่ในความฝัน เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ก็เพราะเลือกตามเพื่อนๆ เรียนจบก็วางแผนชีวิตอยากทำงานธนาคาร ทำงานโบรกเกอร์อยู่ในตลาดหุ้นสไตล์คนรุ่นใหม่ๆ การรับราชการเป็นตัวเลือกสุดท้าย แต่เมื่อคนนามสกุลนี้เป็นตระกูลของนายตำรวจ จากความฝันที่อยากเป็นนายแบงก์จึงสรุปในวันนี้ผกผันเป็นนายตำรวจในที่สุด

“คุณปู่พล.ต.อ.เสมอ คุณอาพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ รวมถึงคุณพ่อพงษ์เพ็ชร ดามาพงศ์ ทุกท่านล้วนเรียนจบจากโรงเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวจ แล้วความที่ผมเรียนมาทางเศรษฐศาสตร์จึงมีความเชื่อมั่นกับคำว่า ‘Opportunity’ อาชีพนี้ให้โอกาสผมเลือกเป็นตำรวจหลากหลายบทบาทได้ ผมได้เจอสถานการณ์การทำงานไม่เคยซ้ำแบบกันเลยนะครับ ตอนเป็นตำรวจ 191 ก็ได้บู๊จับปืน ตอนเป็นตำรวจท่องเที่ยวก็ได้โยกย้ายส่ายสะโพกเต้นบ๊องๆ สนุกๆ เต้นเลียนแบบดาราเกาหลี ได้ดูแลนักท่องเที่ยวฝรั่งก็สนุกไปอีกแบบ

พอมาตอนนี้เป็นสารวัตรทางหลวง ก็ไม่ได้โบกรถสิบล้ออย่างเดียวนะครับ (หัวเราะ) เมื่อปีที่แล้วผมได้ไปร่วมอบรมตำรวจสากล สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟบีไอ ตลอดระยะเวลา 20 วัน ที่ฝึกทำให้ได้เห็นมุมมองตำรวจอาชีพแบบเอฟบีไอ ที่ปราศจากการรับส่วยและคอร์รัปชัน ตั้งแต่รับราชการมาผมพยายามค้นหาตัวเองมาโดยตลอดเลยนะครับว่า ผมอยากเป็นตำรวจ และอยากจะเป็นอะไรอีกอาชีพหนึ่ง?!! ดารา (หัวเราะ) ทำธุรกิจขายกาแฟ หรือไปเลือกลงสนามการเมือง ก็เป็นอีกหลายๆ งานที่อยากทำ แต่อาชีพแรกรู้สึกไม่เวิร์กครับ (ว่าแล้วก็หัวเราะอีกครั้ง) เพราะแค่ลองขึ้นเวทีร้องเพลงตอนงานเลี้ยงกับเพื่อนๆ ผมโชว์ได้แข็งทื่อมาก” พ.ต.ต.พัดธงทิว บอกเล่าพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ ให้ความรู้สึกเป็นตำรวจสไตล์คนรุ่นใหม่ ไม่เคร่งเครียด

แล้วงานที่ทำควบคู่กับการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คือผู้จัดการทีมฟุตวอลเลย์ทีมชาติไทย พ.ต.ต.พัดธงทิว บอกว่าเป็นงานที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะโอลิมปิกครั้งต่อไปประเทศเจ้าภาพ คือ บราซิล อาจจะบรรจุกีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาสาธิตก็เป็นไปได้สูง เพราะกีฬาชนิดนี้มีต้นกำเนิดที่ประเทศนี้เมื่อราว 50 กว่าปีที่แล้ว และเป็นกีฬาที่มีวิธีการเล่นคล้ายๆ กีฬาตะกร้อ ซึ่งคนไทยมีความสามารถเฉพาะตัวสูงอยู่แล้ว

“ผมมองไปที่อนาคต การคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติผมเน้นให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ๆ ที่นอกจากทำให้กีฬาดูมีพลัง สนุกสนาน และเป็นการสร้างฐานที่แข็งแกร่งต่อไปด้วย ซึ่งความชื่นชอบในการเล่นกีฬาก็เป็นไลฟ์สไตล์ของผมตั้งแต่ตัดสินใจสอบเข้ารับราชการตำรวจ ก็เป็นสปอร์ตแมนมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะครับ ว่ายน้ำ ดึงข้อ วิ่งรอบสนาม ออกกำลังกายตามกำหนดของหน้าที่ตำรวจ พอได้มาทำงานเรื่องผู้จัดการทีมฟุตวอลเลย์ทีมชาติไทย ผมจึงถือว่าเป็นเรื่องบุญจัดสรรให้มารับหน้าที่ตรงนี้

การทำงานหลายๆ อย่างไม่ยุ่งยากครับ ตอนนี้โซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้การติดต่อสื่อสารง่าย รวดเร็ว ซึ่งใช้ให้เป็นประโยชน์ได้นะครับ ทั้งตำรวจในการจับผู้กระทำผิดกฎหมายและประชาชนทั่วไป อย่างเช่น หญิงสาวก็สามารถใช้ไอทีในการป้องกันตัวเองได้ เช่น ไลน์กับเพื่อน ผู้ปกครอง หรือแฟนในขณะขึ้นแท็กซี่ ผมอยากให้คุณสาวๆ เล่นไลน์ วอตส์แอพ ตลอดเวลาที่อยู่บนรถ คอยรายงานคนที่เป็นห่วงว่าไปถึงไหนแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันตัวที่ง่ายที่สุด งานของผมตอนนี้บุ๋นมากกว่าบู๊แล้วครับ การเป็นสารวัตรจะมีรองสารวัตรตำรวจอีก 67 นาย ผมมีหน้าที่บริหารให้คำสั่งงานกับพวกเขา ในแต่ละวันยุ่งกับการประชุมที่ออฟฟิศกองกำกับการสายตรวจ 191 วิภาวดี และออกไปตรวจในย่านฝั่งธนบุรี ย่านศิริราช เป็นการทำงาน 2 ส่วน แต่ไม่ยุ่งยากมากครับ เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ช่วยได้เยอะ

ผมใช้ทั้งไอโฟนและซัมซุงโน้ตทู ทั้งที่ผมเป็นคนโลว์เทคโนโลยีนะครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) แต่โทรศัพท์คืออุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการทำงาน เพราะมีนโยบายว่าทุก สน. ทุก บ.ก. ต้องมีกลุ่มไลน์เพื่อการรายงานผลการทำงานอัพเดตตลอดเวลา ทุกๆ เช้าลูกน้องผมจะไลน์มารายงานตัวว่าตอนนี้ประจำการอยู่ตรงไหน หรือรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนน เขาก็ไลน์ภาพมาบอกได้ทันที ก็กลายเป็นว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นสิ่งจำเป็นของงานตำรวจไปแล้วครับ” “สารวัตรปืน” พ.ต.ต.พัดธงทิว บอกทิ้งท้ายและไม่ลืมรอยยิ้มที่ติดใบหน้าอยู่ตลอดเวลาการพูดคุย

วันนี้นอกจากการเป็นตำรวจยังมีอีกเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถด้านกีฬา ล่าสุด “สารวัตรปืน” ได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตวอลเลย์ทีมชาติไทย เพื่อเข้ามาสานต่อการเผยแพร่ให้กีฬาฟุตวอลเลย์เป็นที่รู้จักกว้างขวาง พร้อมทั้งพัฒนานักกีฬาฟุตวอลเลย์ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“กีฬาชายหาดชนิดนี้เกิดในบราซิล แตกต่างจากวอลเลย์บอลชายหาดที่ใช้มือ ฟุตวอลเลย์ใช้เท้า ไหล่ อก และศีรษะกับลูกบอล ซึ่งก็คล้ายๆ เซปักตะกร้อประเภทคู่ จนบางทีถูกเรียกว่า ตะกร้อชายหาด ผมจึงคิดว่าคนไทยเราน่าจะมีโอกาสเป็นแชมป์โลกนะครับ คนบราซิลสนุกสนานคล้ายๆ คนไทยนะครับ และชายหาดบ้านเราก็สวย การดันกีฬานี้ขึ้นมาให้เป็นที่นิยม ผมจึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากนัก” พ.ต.ต.พัดธงทิว กล่าว

โดยเริ่มงานแรกคือโครงการ “คัดสรรนักกีฬาฟุตวอลเลย์ ปี 2556” ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 416 มี.ค.ที่ผ่านมา วัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจกีฬาฟุตวอลเลย์ได้เข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อม เรียนรู้การเล่นจากนักกีฬาทีมชาติไทย พร้อมทั้งเป็นการเผยแพร่ให้กีฬาฟุตวอลเลย์เป็นที่รู้จักกว้างขึ้น เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันของสมาคมฟุตวอลเลย์แห่งประเทศไทย และเข้ามาเป็นนักกีฬาฟุตวอลเลย์ทีมชาติในโอกาสต่อไป (โดยมี “โจ้ หลังเท้า” ร.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม) และทั้งหมดคือตัวตนของนายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลที่มุ่งมั่นตามล่าฝันของเขาต่อไป