มลธิดา มหาชินะบุญาพัฒน์ วันนี้ทำงานหนักจะได้เลี้ยงแม่ให้สบาย

โดย...อณุศรา ทองอุไร ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพาณิช

สาวสวยผิวขาวรูปร่างแบบบาง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส วัย 20 ปลายๆ เธอชื่อ จีจี้-มลธิดา มหาชินะบุญาพัฒน์ เธอมีธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองด้วยการเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าขายส่งชื่อ ธิดา เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา โดยตลาดหลักขายส่งในบ้านเราและส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงอีกประมาณ 20% เน้นกลุ่มเป้าหมายคนทำงานชั้นกลางทั่วไป และกำลังจะมีอีกแบรนด์ชื่อ โมลต์ (Molt) เพื่อขายปลีกโดยจับตลาดระดับบนขึ้นมา ในระยะแรกจะขายทางออนไลน์ก่อน และต้นปีหน้าถึงจะเปิดหน้าร้านเป็นของตนเองแถวเลียบทางด่วนรามอินทราใกล้ๆ คริสตัลพาร์ค ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงมิใช่น้อย

เรียนให้ดีให้แม่ชื่นใจ

ทางด้านการศึกษา เธอจบปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ทำงานด้านโรงแรมอยู่ได้ปีกว่า ก็เริ่มค้นพบตัวเองว่าไม่ชอบการทำงานออฟฟิศ การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานตามตารางเวลาที่แน่นอน แต่เธอชอบทำการค้ามากกว่าอยากเป็นนายตัวเอง อีกทั้งคิดว่าหากทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเพียงอย่างเดียวชีวิตนี้คงเลี้ยงดูคุณแม่ให้สุขสบายในช่วงบั้นปลายชีวิตได้ยาก ประกอบกับตัวเองใช้เงินเก่งก็ควรที่จะหาเงินให้เก่งตามไปด้วย ดังนั้นเธอจึงมองหาธุรกิจเล็กๆ ที่ใช้เงินทุนไม่มากในระยะแรกและต้องเป็นธุรกิจที่เธอชอบ จึงเริ่มถามตัวเองว่าชอบอะไรที่สุด ณ ตอนนั้น ให้พอดีกับเงินลงทุนที่มีอยู่ราว 5 แสนบาท

เธอเล่าว่า เกิดมาในครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธออยู่ตามลำพังกับคุณแม่และน้องชาย เมื่อคุณแม่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังทำให้คุณแม่ของเธอเป็นผู้หญิงแกร่งทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกคนเดียว แล้วคุณแม่ของเธอทำงานค้าขายหลายอย่าง ล่าสุดคือทำบังกะโลให้เช่า อยู่ที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี “เราช่วยงานคุณแม่มาตั้งแต่เด็กๆ ทำทุกอย่างที่เด็กวัยนั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระคุณแม่ได้ ก็เลยชอบค้าขายมาแต่เด็ก เราต้องขยันเพราะไม่ได้เกิดมาร่ำรวย แม้ไม่ลำบากมากแต่ก็ใช่ว่าจะสบาย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เราเป็นเด็กขยันสู้งาน หนักเอาเบาสู้ เรียกว่ามีวัคซีนชีวิตกันมาตั้งแต่วัย 10 กว่าขวบ” เธอกล่าวอย่างเข้มแข็ง

มลธิดา กล่าวว่าชีวิตวัยเด็กไม่ได้สบาย สิ่งเดียวที่จะช่วยทำให้แม่ชื่นใจและมีพลังได้ก็คือการเรียนให้เก่งทำตัวให้ดี เพราะการเรียนให้ดีจะเป็นการสร้างโอกาสในชีวิตได้มากกว่าคนอื่น ดังนั้นเธอจึงเป็นเด็กเรียนดีมาโดยตลอด จบเอแบคมาได้ระดับเกียรตินิยม ให้สมใจคุณแม่

ชีวิตครบรสทุกข์สุขเต็มอารมณ์

ด้วยวัย 23 ปี สำหรับผู้หญิงสาวๆ คงไม่มีอะไรเหมาะเท่ากับเรื่องของสวยงามๆ และการแต่งตัว ขณะนั้นเธอจึงเลือกทำร้านเสื้อผ้าขายปลีกและขายส่งในตอนแรก ซึ่งไปได้ดีแต่ก็เหนื่อยสุด ทำมาได้เพียงปีกว่า ทำให้เธอต้องเลือกมาขายส่งเพียงอย่างเดียว แม้จะได้กำไรต่อชิ้นน้อยกว่าแต่ก็ทำงานสบายกว่าขายปลีกที่เจอเรื่องจุกจิกมากกว่า เพราะถ้าทำทั้งปลีกและส่งไปด้วยกันมันเหนื่อยมาก และแทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย และจากการเป็นคนสู้งานนี่เอง ที่ทำให้เธอสามารถต่อยอดธุรกิจเล็กๆ ของเธอจากเงินเริ่มต้น 5 แสนกว่าบาท เธอสามารถต่อยอดขยายงานจนสามารถมีเงินหมุนเวียนได้ถึง 5 ล้านบาท ภายในเวลา 5 ปี เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ

มลธิดา เล่าว่า กว่าจะถึงวันนี้ที่พอจะเป็นปึกแผ่นมากขึ้น ชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีทั้งสุขและทุกข์ระคนกันไป เรื่องเหนื่อยและท้อไม่ต้องถามถึง เจอมาแล้วทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะถูกลูกน้องยักยอก เจอคนลอกเลียนแบบเสื้อผ้าของเธอ ทุกอย่างไม่มีอะไรง่าย ที่รอดมาได้ก็เพราะพยายามมองโลกในแง่ดีสู้ไม่ถอย เหนื่อยก็พักแล้วออกแรงสู้ใหม่

“หนูมีแม่เป็นแบบอย่างที่ดี แม่เลี้ยงลูกมา 2 คนด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยเหลือท่านยังสู้มาได้ หนูก็ต้องทำให้ได้ อย่างน้อยเราก็ยังไม่มีภาระมากเท่าแม่ในวันนั้น ถ้าแม่สู้มาได้เราก็ต้องทำได้ แม่เคยเหนื่อยกว่าเราอีก ตอนนี้หนูพอมีเงินบ้างไม่ลำบาก ก็อยากดูแลแม่ให้สบาย อยากให้ท่านพัก แต่ท่านก็ไม่ยอมยังมาช่วยดูแลที่ร้าน ท่านไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆ” เธอกล่าวอย่างภาคภูมิใจในตัวคุณแม่

อย่าทำอะไรเกินตัว

เคล็ดลับความสำเร็จของเธอในวัยยังไม่ถึง 30 ปีเช่นนี้ เธอบอกว่าต้องขยัน อดทน ตั้งใจจริงทำต่อเนื่องจริงจัง รอบคอบกับสิ่งที่ทำ เลือกทำในสิ่งที่รักที่ชอบจริงๆ แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขเพราะไม่รู้สึกฝืนใจกับสิ่งที่ทำ ที่สำคัญก็คือค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป อย่าทำอะไรเกินตัวเกินไป นกน้อยทำรังแต่พอตัว และเมื่อเจอปัญหาก็พยายามมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ คิดว่ายังไงเราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้

นอกจากนี้ ต้องพยายามเรียนรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ เปิดหูเปิดตา เพราะแฟชั่นมาเร็วไปเร็ว สำหรับประเทศไทยเป็นเมืองร้อนเสื้อผ้าก็คงเป็นแนวสีสันสดใส โดยจุดแข็งของเสื้อผ้าของเธอจะเป็นแนวเรียบแต่เก๋ ไม่เยอะจนดูเว่อร์ เป็นกลางๆ ซึ่งกระโปรงร้านเธอจะเด่นลูกค้าติดขายดีกว่าเสื้อผ้าชนิดอื่นๆ

มีแล้วต้องแบ่งปัน

เพราะคุณแม่ชอบไปวัดทำบุญ ท่านจึงสอนว่าถ้าพอมีก็ต้องหมั่นทำบุญบ้าง บุญเก่าหมดจะได้มีบุญใหม่คอยเสริม ทุกปีเธอจะไปถือศีลปฏิบัติธรรมปีละครั้งกับคุณแม่ ไปทำบุญให้กับ รพ.สงฆ์ แล้วก็ทำบุญให้กับโครงการสุนัขจรจัดอยู่เสมอเพราะเธอรักสุนัขมากเลี้ยงอยู่ถึง 7 ตัว และเวลาที่รู้สึกติดขัดในชีวิตเธอจะไปกราบเท้าล้างเท้าให้คุณแม่เพื่อเป็นการขอขมาและท่านก็จะให้ศีลให้พร ก็จะรู้สึกดีขึ้นปัญหาต่างๆ ก็ดูผ่อนคลายลง

มลธิดา มหาชินะบุญาพัฒน์

อายุ 29 ปี

การศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

ทำธุรกิจ เสื้อผ้าขายส่ง

งานอดิเรก เลี้ยงสุนัข/เดินทางท่องเที่ยว

ยามว่าง ไปวัดทำบุญ