ณชมพูนุท โรจน์ชลาสิทธิ์ งานที่ทำให้คนอื่นสุขด้วย

โดย...ปอย / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

หญิงสาวบุคลิกเรียบร้อย ทำหน้าที่คู่กับพิธีกรชายคนดัง กิตติ สิงหาปัด ซึ่งด้วยตำแหน่งในธุรกิจบันเทิงเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของรายการคุณภาพออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ณชมพูนุท โรจน์ชลาสิทธิ์ อธิบายว่าเป็นรายการ “วันนี้ที่รอคอย” และควบอีกหนึ่งรายการออกอากาศทางช่อง 3 “ละครธรรม” ทุกงานที่รับผิดชอบก็ล้วนแต่เป็นงานที่สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการทำหน้าที่ผู้จัดรายการโทรทัศน์ ที่ไม่เคยมองข้ามงานประเภทช่วยเหลือสังคม และเดินหน้ากับการสร้างฝันให้กับคนที่พลัดพรากจากครอบครัว

บางรายตั้งแต่เกิดไม่เคยได้พบหน้าบุพการี หรือบางรายรอคอยพ่อแม่พี่น้องคนรักนับสิบๆ ปี แต่ก็ได้มาพบกันในรายการนี้พยายามทำให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสพบกับครอบครัวที่พวกเขารอคอยมาตลอดชีวิต

การทำงานเบื้องหน้าดำเนินรายการประเภทช่วยเหลือสังคม เป็นการเดินตามรอยเท้าพ่อในฐานะเป็นลูกสาวของ “กิตติ โรจน์ชลาสิทธิ์” อดีตผู้บริหารค่ายกันตนา และเจ้าของค่าย “เท็น เอนเตอร์เทนเม้นท์” หนึ่งในค่ายบันเทิงชื่อดังในอดีต

“คุณพ่ออยู่ค่ายกันตนา ดิฉันก็ได้วิ่งเล่นในกองถ่ายตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ พอเรียนมหาวิทยาลัยก็เริ่มหัดเขียนสคริปต์ เรียกว่าอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด ได้อาสามาทำงานเบื้องหน้า ก็หน้าที่พิธีกรรายการเป็นกระบอกเสียงให้คนตกทุกข์ได้ยาก ดิฉันเคยเป็นพิธีกรรายการ ‘เป็นปากเป็นเสียง’ โดยออกอากาศสามทุ่มทางช่อง 9 ซึ่งถ้าเป็นงานเพื่อสังคมดิฉันจะเชื่อมั่นว่าสามารถทำได้ดีนะคะ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) แต่ถ้าเป็นเรื่องตลก บันเทิง มากๆ ก็จะไม่ค่อยถนัดนักค่ะ

เมื่อเป็นรายการในแบบที่เราทำในวันนี้ เราก็จะรู้สึกว่าเชื่อมั่นในการทำงานนำเสนอรายการอยู่หน้ากล้อง เพราะถึงแม้ว่าคุณพ่อจะเป็นหุ้นกับ คุณประดิษฐ์ กัลย์จาฤก ซึ่งเป็นเจ้าของใหญ่ในกันตนา แต่ดิฉันก็ไม่เคยคิดทำงานบันเทิงเบื้องหน้าเลยนะคะ ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยจึงเลือกเรียนทางด้านบริหารการตลาด พอเรียนจบก็ออกมาขายโฆษณา เพราะคิดเสมอว่าถ้าเราเป็นเบื้องหลังนำเสนอขายรายการก็น่าจะถนัดกว่า

แน่นอนค่ะว่างานเบื้องหน้า เป็นดารา ก็ต้องเย้ายวน แต่ดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่มีจริตเลยนะคะ (หัวเราะ) ตอนเป็นวัยรุ่นก็เคยไปแคสติ้งละครนะคะ พอไปเจอโจทย์ให้สวมบทบาทเซ็กซี่ยั่วผู้ชาย เป็นนางร้ายให้ดูซิ?!!! ก็จอดทันทีเหมือนกันค่ะ (หัวเราะชอบใจ) รู้ทันทีเลยว่างานเบื้องหน้าไม่เหมาะกับเราแน่นอนนะคะ

วันนี้ได้มีโอกาสทำงานพิธีกรเบื้องหน้า ก็เพราะดิฉันคิดอยากทำรายการเพื่อการช่วยเหลือสังคม คือวันหนึ่งขับรถไปในย่านสีลม แล้วได้เห็นป้ายโปสเตอร์การลักพาเด็กผู้หญิงไปค้ามนุษย์ เกี่ยวกับการค้าประเวณี จึงเกิดความคิดว่าอยากจะช่วยสังคมในเรื่องนี้ผ่านรายการโทรทัศน์อีกแรงหนึ่ง จึงเขียนโปรเจกต์นำเสนอเพื่อทำรายการแล้วก็ได้การตอบรับทันที ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าคนพลัดพรากกันในบ้านเราเยอะมาก บางครอบครัวไม่ได้เจอะเจอกันถึง 2030 ปี ตั้งแต่จัดรายการมามีพ่อแม่ลูกที่ไม่เคยพบหน้ากันถึง 50 ปีเลยค่ะ แล้วทันทีที่รายการออกอากาศวันเสาร์ก็จะมีเสียงโทรศัพท์มาที่ออฟฟิศทั้งวันจนถึงเย็นวันอาทิตย์เลย เพื่อให้เราช่วยตามหาครอบครัว เรตติ้งรายการดีมากๆ อย่างที่ไม่คาดฝันมาก่อนเลยค่ะ” ณชมพูนุท บอกเล่า

เรื่องราวการออกตามหาพ่อแม่ ติดตามลูกเฝ้าคิดถึงลูกชายเช่นกัน ให้ได้มาพบกันเป็นที่น่าตื้นตันใจอย่างยิ่ง บางเทปถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความปีติไว้ไม่อยู่ กับการทำให้คนจากกันได้พบกัน คือการทำให้พวกเขามีความรู้สึกที่เปี่ยมสุขอย่างยิ่ง ที่การรอคอยของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว นับจากวินาทีที่ได้เจอกับคนที่รอคอยเป็นต้นไป

“คือการทำงานที่ภาคภูมิใจ มีความสุขมาก เพราะเราคือคนพาพวกเขามาเจอกัน (บอกพร้อมรอยยิ้มภูมิใจยืนยันคำพูดนี้) พิธีกรชายคู่กับเรา ‘พี่กิตติ’ บางเทปก็ยังตาแดงๆ เลยนะคะ (หัวเราะ) แต่ก็แน่นอนเลยค่ะว่าการทำหน้าที่พิธีกรเราจะฟูมฟายไม่ได้

แล้วยิ่งการได้ทำงานคู่กับพิธีกรชายที่มีความน่าเชื่อถือที่สุดคนหนึ่งของ พ.ศ.นี้ ดิฉันก็ยิ่งคิดเสมอนะคะว่าเรายังไม่เก่งกาจอะไรมากมาย บางเทปเหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจมากๆ เราก็ต้องคุมธีมรายการให้ได้โดยคงความภูมิฐานทำรายการให้ดำเนินต่อไปได้ ซึ่งการทำรายการคู่กับคุณกิตติในช่วงแรกก็มีการขัดแย้งในความคิดเห็นบ้างนะคะ แต่ถือว่าเป็นการปรับตัวเพราะเมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้น และทำรายการนี้คู่กันมาถึง 5 ปีแล้วค่ะ วันนี้ก็ถือว่าเข้าใจและยอมรับความคิดซึ่งกันและกัน จัดรายการคู่กันได้สมูทมากขึ้น” ณชมพูนุท กล่าว

ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ชอบให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น แสดงออกมาด้วยกิริยาเรียบร้อย ใจดี แต่เจ้าตัว “พิ้งค์ณชมพูนุท” กลับบอกว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับบุคลิกภายนอกโดยสิ้นเชิง ความที่เธอไม่ใช่หญิงสาวหวานละเมียดกุลสตรีสไตล์ผ้าพับไว้เช่นนั้น เพราะรสนิยมการแต่งกายที่ชื่นชอบมาก คือการสนุกสนานกับการแต่งตัวในแฟชั่นที่กล้าหยิบมาแมตชิง ทั้งลวดลายพรินต์หนังสัตว์ทั้งลายงู ลายเสือ หรือหนังตอกหมุดในแบบแกลมร็อก

“คนรอบข้างมองดิฉันว่าเป็นผู้หญิงเรียบร้อยที่สุด เพราะดูจากงานที่เรากำลังดำเนินรายการอยู่นะคะ แต่กลับกลายเป็นว่าการแต่งกายอ่อนหวานในสไตล์เสื้อผ้าลูกไม้ หรือเดรสหวานแหววอะไรในแบบนั้น ไม่เหมาะกับบุคลิกของเราเลย หรือสูทเรียบร้อยมากๆ กระโปรงยาวคลุมเข่าแบบนั้น ก็กลับทำให้เราไม่มั่นใจเช่นกันค่ะ เพราะจะรู้สึกว่าใส่แล้วยิ่งดูสูงวัยไปใหญ่ค่ะ

แต่บางครั้งการทำงานในจุดนี้ก็เลี่ยงเสื้อผ้าในสไตล์นี้ไม่ได้ เพราะธีมรายการเราไม่ใช่วาไรตีสนุกๆ มันๆ ก็ทำให้แต่งตัวเปรี้ยวๆ สนุกๆ อย่างที่เราชื่นชอบไม่ได้ เพื่อนสนิทจะรู้นิสัยเลยค่ะว่าถึงเราไม่ใช่คนตลกอะไรมากมาย แต่เรื่องเฮฮานี่ไปไหนไปกันได้เลยนะคะ (บอกพร้อมเสียงหัวเราะ)

รายการวันนี้ที่รอคอยมีการออกต่างจังหวัดไปบันทึกเทปด้วยนะคะ ไม่ใช่ทำรายการอยู่แต่ในสตูดิโอ รายละเอียดรายการที่ต้องไปช่วยเหลือคนยากจน ช่วยคนประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา ดิฉันจะชอบมากกับการแต่งตัวลุยๆ ในการเลือกเชิ้ตที่มีแพตเทิร์นเป็นเสื้อกั๊กเย็บติดกัน เสื้อผ้าของดิฉันไม่ได้เลือกซื้อของราคาแพงทุกๆ ชิ้น แต่ก็จะเลือกใช้เสื้อผ้าคุณภาพ

ทุก 3 เดือนด้วยธุรกิจก็จะทำให้ได้เดินทางไปฝรั่งเศส อิตาลี ซึ่งเสื้อผ้าโลคัลแบรนด์ในยุโรป ซื้อมาแล้วไม่เสียดายเงินเลยค่ะ ทั้งตัดเย็บเนี้ยบ สวย และมีลูกเล่นในการดีไซน์ หรือแฟชั่นในเกาหลี ญี่ปุ่น ก็พัฒนาไปตลอดเวลา ถ้าไปช่วงนี้ตั้งแต่ต้น พ.ค. แฟชั่นเสื้อผ้าก็เริ่มรับร้อนสามารถซื้อมาใส่ในบ้านเราได้สวยเลยค่ะ” ณชมพูนุท บอกเล่าพร้อมรอยยิ้ม

การทำงานเบื้องหน้าในหน้าที่พิธีกรหญิงวันนี้ แฮปปี้ที่สุดในหลักการ “ทำงานในสิ่งที่เรามีความสุข และทำให้คนอื่นๆ มีความสุขด้วย” กับการให้เนื้อหาสาระแก่สังคม เป็นรายการที่ไม่แสวงหาผลกำไร นำเสนอเรื่องราวตีแผ่สังคมปัจจุบัน และเป็นสื่อกลางให้คนที่เดือดร้อนตามหาคนที่พลัดพรากกัน เป็นความสุขที่เรามอบให้กับสังคม “พิ้งค์ณชมพูนุช” ยืนหยัดทำรายการ “วันนี้ที่รอคอย” ซึ่งขอให้ได้รับแค่คำชมจากคนดูอีกต่อไปให้ยาวนานที่สุด

นับไปนับมารางวัลนี้ก็เป็นรางวัลที่ 7 ที่การันตีคุณภาพแล้ว ณชมพูนุท โรจน์ชลาสิทธิ์ เจ้าของรายการวันนี้ที่รอคอย รับรางวัลประชาบดีและเข็มชูเกียรติ ในสาขาสื่อโทรทัศน์ที่ทำคุณประโยชน์ดีเด่น แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ประจำปี 2555 จาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งจัดโดย สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

อีกรางวัลในปีที่ผ่านมาที่น่าชื่นชม สำหรับสาวเก่งแห่งวงการสื่ออย่างสาวพิ้งค์ณชมพูนุท รับรางวัลจากโครงการ ตาชั่งทอง (บุคคลสงเคราะห์ดีเด่นแห่งปี) ประจำปี 2555 โดยได้รับประทานจาก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

ติดตามเรื่องราวความประทับใจนี้ได้ในรายการ วันนี้ที่รอคอย เวลา 13.00-13.30 น. วันเสาร์ ออกอากาศทางช่อง “โมเดิร์นไนน์”