ว้าว! เทรนด์แต่งรถแฟชั่นปี 2013

โดย...วราภรณ์ ภาพ : พงษไทย วัฒนาวณิชย์วุฒิ ทวีชัย ธวัชปกรณ์

แฟชั่นการแต่งรถ ใครจะรู้ว่าอัพเดตเทรนด์เร็วกว่าแฟชั่นเสื้อผ้าซะอีก เพราะทุกๆ 2 เดือน จะมีการอัพเดตเทรนด์การแต่งรถใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอๆ เช่น ชุดแต่งรอบคัน รวมทั้งแอกเซสซอรีที่ใช้ติดประดับในรถ หรูหราแพรวพราวไปด้วยเพชรจากสวารอฟสกี้ ซึ่งธุรกิจประดับและตกแต่งรถต้องยกให้ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้านำเทรนด์การแต่งรถ

ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการแต่งรถมานานกว่า 20 ปี และเป็นผู้ริเริ่มการแต่งรถสไตล์ “วีไอพี คาร์” จากญี่ปุ่น ศักดิ์ชัย ลิ่มสุข เจ้าของยูนิวอช คาร์แคร์ และประธานคลับวีไอพี ไทยแลนด์ ช่วยยืนยันเช่นเดียวกับ พงศ์พล จันทรัคคะ บรรณาธิการนิตยสารเอ็กซ์โอ ออโต้สปอร์ต กล่าวเพิ่มเติมถึงการแต่งรถแนว “อีโคคาร์” เพราะคนไทยหันมาใช้รถประหยัดน้ำมันกันมากขึ้น ดังนั้นการแต่งรถอีโคคาร์จึงมาแรง

โลกของนักแต่งรถ

ศักดิ์ชัย ประธานคลับวีไอพีไทยแลนด์ คลับของคนรักรถและชอบแต่งรถ เปิดเผยว่า ตั้งมา 6 ปีแล้ว มีสมาชิกในกลุ่มราว 4 หมื่นคน สมาชิกในกลุ่มล้วนรักการแต่งรถสไตล์ “วีไอพี” เป็นชื่อแนวทางการแต่งรถอย่างหนึ่งที่นิยมกันมากในญี่ปุ่น คือการแต่งรถทั้งภายในและภายนอกให้ดูหรูหรามีลูกเล่น ติดประดับเพชรสวารอฟสกี้ที่แผงเกียร์หรือช่องแอร์ให้ดูหรูหรา ติดประดับด้วยชุดแต่ง D.A.D ที่คอลเลกชันล่าสุดออกแบบเป็นม่านเพชรสวารอฟสกี้ห้อยระย้าที่กระจกส่องหลัง ติดเครื่องเสียงแบบโฮมเธียเตอร์ เป็นต้น ซึ่งการแต่งรถแบบวีไอพี คาร์ในบ้านเรามีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ “ยากูซ่า สไตล์” แต่งแนวดุดัน ท่อไอเสียท่อคู่เวลาเร่งเครื่องเสียงดังกระหึ่ม ตัวสีรถเน้นสีดำหรือสีขาว ไม่เน้นสีฉูดฉาด นิยมแต่งรถซีดานขนาดใหญ่ ใส่ล้อใหญ่ขนาด 18 นิ้วขึ้นไป สิ่งที่เด่นชัดคือล้อต้องลึกมากๆ กว้างมากๆ เช่น กว้าง 11 นิ้ว ออฟเซตติดลบมากๆ ใส่คู่กับยางดึงขอบให้ความกว้างของหน้ายางเล็กกว่าความกว้างล้อ หรือที่เรียกว่าล้อแบะ ตีโป่งที่ตัวถังเพื่อให้เข้ากับล้อชุด พร้อมกับตกแต่งด้วยชุดแต่งรอบคัน เช่น กันชนหน้าและหลัง กดตัวถังรถให้เตี้ยสุดๆ พอที่ซุ้มล้อ (ขอบตัวถัง) ตรงพอดีกับขอบล้อ และชิดกับขอบล้อให้มากที่สุด

แบบ 2 คือ “ลักชัวรี สไตล์” เน้นความเรียบหรู นิยมแต่งในรถซีดานขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ หัวใจหลักสไตล์นี้คือ ความ “หรูหรา” แบบผู้ดียุโรป สีตัวถังรถไม่ฉูดฉาด เน้นงานแต่งภายในห้องโดยสารเบาะหุ้มด้วยหนัง เบาะประดับสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น มงกุฎ ส่วนล้อนิยมใส่ล้อขนาด 18 นิ้วขึ้นไป ล้อไม่จำเป็นต้องลึก ตัวถังรถยังคงรูปลักษณ์เดิมของแบรนด์นั้นๆ แต่ล้อควรพอดีกับซุ้มล้อ มีการจับขอบล้อและล้อชิดกันแบบพอดีไม่มากเกินไป ท่อไอเสียจะท่อคู่หรือเดี่ยวก็ได้แต่ต้องเสียงเงียบ แบบที่ 3 คือ “คัสตอม คาร์” เป็นแนวที่ฮิตในช่วงนี้ เป็นการผสมผสานกันระหว่าง “ยากูซ่า” และ “ลักชัวรี” เข้าไว้ด้วยกัน โดยเลือกแต่งให้เป็นตัวเองมากที่สุด แต่สีสันจะทำให้เด่นกว่า 2 แบบแรก และสิ่งที่เด่นชัดคือล้อต้องลึกมากๆ กว้างมากๆ ออฟเซตต้องติดลบมากๆ คือคงมาตรฐานการแต่งรถสุดล้ำเอาไว้ แต่ต้องเป็นการแต่งที่ลงตัวสวยงามด้วยรสนิยมและมาตรฐานการแต่งรถแบบญี่ปุ่นที่คงรูปแบบมาแต่ดังเดิม

“ต้นกำเนิดแต่งรถแบบวีไอพีคือการแต่งรถแบบล้อใหญ่ๆ โหลดเตี้ยๆ บอดีใหญ่ ทุกคันจะมีลักษณะโดดเด่นของตัวเอง ภายในตกแต่งหรูหรา เบาะหนังหุ้มโซฟา ประดับเพชรมงกุฎ ที่ตอนนี้ฮิตมากและจะฮิตต่อไป ซึ่งเรานำต้นแบบมาจากญี่ปุ่น แต่งรถแนววีไอพีเน้นเรื่องรูปลักษณ์ที่สวยงาม เป็นรถที่แต่งโชว์ ซึ่งแตกต่างจากการแต่งรถแนวรถดริฟต์ที่เน้นความเร็วมากกว่า”

ย้อนตำนานแต่งรถ

หากย้อนเรื่องราวการแต่งรถของไทยเมื่อ 20 ปีก่อน สไตล์การแต่งรถของไทยยังไม่ชัดเจน ใครอยากแต่งอะไรก็แต่ง เพราะโลกอินเทอร์เน็ตยังไม่มี แต่เมื่อโลกเวิลด์ไวด์มากขึ้น ทำให้นักแต่งรถรู้เทรนด์แต่งรถแบบนี้เป็นของญี่ปุ่น และมีหลักการแต่งเป็นอย่างไร แล้วก็ทำตามกันให้เป็นแบบสากลมากขึ้น

“สมัยก่อนแต่งรถจะมีแค่สปริงโหลด คือช่วงล่างตัดสปริงรถให้เตี้ย ส่วนล้อแม็กเล่นขอบแค่ 16 นิ้ว พอยุคกลางๆ เริ่มรู้จักกับแอโรพาร์ต คือชุดแต่งที่ผลิตเข้ามาช่วยทำให้รถดูเด่นขึ้น เช่น เปลี่ยนกันชนหน้าหลัง มาถึงยุคกลางๆ เน้นรถโหลดเตี้ยๆ ซึ่งใช้งานลำบากมาก

พอมาถึงยุคปี 1995 ก็ยังเน้นรถเตี้ยอยู่ จนมาถึงปี 2000 ระบบช่วงล่างมีการพัฒนา โดยมีระบบไฮโดรลิกช่วยยกรถขึ้น ทำเป็นโช้ก เมื่อจอดรถจะเตี้ย แต่เมื่อขับขี่บนท้องถนนมีปุ่มกดยกรถขึ้นมาระหว่างขอบตัวถังรถกับล้อ ทำให้ขับขี่ได้สะดวกขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของอเมริกา แต่มีข้อเสียคือเวลาขับแล้วไม่นุ่มนวล

จนมาถึงจุดเปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนระบบถุงลมใช้ระบบลมแทนน้ำมัน จึงช่วยแก้ปัญหาความแข็งกระด้างเวลาขับรถ ในขณะที่รถยังมีปุ่มกดให้สูงต่ำได้ดังเดิมเวลาจอดรถ ส่วนชุดแต่งรถรอบคันยังเหมือนเดิม”

สำหรับการแต่งรถสไตล์อเมริกันจะไม่วาไรตีเท่าญี่ปุ่น ลักษณะโดดเด่นของเมืองลุงแซมคือ เน้นความเรียบ ล้อโตๆ ขนาด 22 นิ้วขึ้นไป ส่วนใหญ่ใช้รถ Dub, Dodge เชฟโรเลต ซึ่งเป็นยี่ห้อรถของยุโรปและอเมริกามาแต่งกัน

เทรนด์ฮิตแต่งรถปี 2013

ศักดิ์ชัย บอกว่า ตอนนี้เทรนด์แต่งรถในปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมแต่งรถแบบเรซซิงทั่วไป หันมาแต่งรถ “Flushing Style” คือ ขอบล้อจะตรงต้องตรงกับซุ้มล้อหรือขอบของล้อรถพอดี ไม่เน้นแอโรพาร์ต (ชุดแต่งรอบคัน) เพราะเข้าถึงได้ง่ายกว่าวีไอพี สไตล์ ซึ่งหรูหราและแพงกว่า

“แต่งรถแนว Flushing ใช้ขอบล้อ 16 นิ้วก็ได้ ส่วนช่วงล่างไม่ต้องใช้รถระบบถุงลมมาช่วย โหลดแบบดิบๆ เลย เทรนด์นี้กำลังได้รับความนิยมมากทั้งทางญี่ปุ่นและสหรัฐเมริกา จุดเด่นของ Flushing คือ เจ้าของจะต้องใส่ไลฟ์สไตล์ของตัวเองลงไปด้วย เช่น เจ้าของรถชอบปั่นจักรยาน หลังคารถก็ต้องติดตั้งที่บรรทุกจักรยานไว้ด้วย อันนี้เป็นเทรนด์ใหม่เลย

อีกหนึ่งสไตล์ที่ยังฮิตไม่เลิกคือ วีไอพี สไตล์ ล้อต้องมีขนาดใหญ่ 1820 นิ้วเท่านั้น ขอบล้อและซุ้มล้อ (ขอบตัวถัง) ต้องตรงกัน และชิดกันให้มากที่สุด แต่วีไอพีจะมีการใช้ระบบช่วงล่างระบบถุงลมเข้ามาช่วย ทำให้ขณะขับถนนที่เป็นหลุมบ่อ หรือขึ้นห้างสรรพสินค้า ผู้ขับสามารถกดปุ่มยกรถได้ ซึ่งเป็นระบบช่วงล่างที่ดีกว่าและยืดหยุ่นมากกว่า “จริงๆ แต่งแบบ Flushing ก็ทำระบบช่วงล่างเป็นถุงลมได้ แต่ไม่นิยม ดูไม่เท่ วีไอพีจึงยืดหยุ่นและดูลักชัวรีกว่า” ศักดิชัย บอก

พงศ์พลช่วยยืนยันว่าเทรนด์แต่งรถบ้านเราล้อแบะ หรือ Flushing Style มาแรงมากกว่า 2 ปีแล้ว แม้ไม่เหมาะกับถนนบ้านเรา แต่เป็นเทรนด์ที่มาแก๊งสเตอร์อยากทำ สิ่งที่เพิ่มมาคือการแต่งหม้อพักท่อไอเสียใบสุดท้าย เสียงเครื่องยนต์จึงดังเมื่อตอนเร่ง รวมไปถึงลายของล้อแม็กก็มีให้เลือกมากมาย ซึ่งถือเป็นเบสิกเริ่มต้นในการแต่งรถทั่วไป

สไตล์แต่งรถอื่นๆ

พงศ์พลบอกถึงเทรนด์แต่งรถอื่นๆ เช่น การ Wrap ติดสติกเกอร์พีวีซีทั้งคันให้เป็นสีสันต่างๆ ซึ่งฮิตมา 4 ปีแล้วและยังนิยมกันอยู่ เช่น สี Blue Chrome เป็นต้น ส่วนแผ่นป้ายทะเบียนเลขไทย ซึ่งสามารถสั่งทำจากในร้านทำป้ายทะเบียนรถ ทำได้แต่ผิดกฎหมาย อย่างในสหรัฐอเมริกาในบางรัฐสามารถพิมพ์ชื่อของเจ้าของรถลงไปในป้ายทะเบียนได้เลย แต่กฎหมายเมืองไทยแค่นำทองคำเปลวไปปิดตัวเลขบางตัวบนแผ่นป้ายก็คือว่าดัดแปลงแล้ว แต่รถบางคันก็นำมาเปลี่ยนแค่ตอนซิ่ง ไม่ใช้ในชีวิตประจำวัน พงศ์พลแนะว่าจะแต่งรถก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย เช่น เทรนด์ล้อแบะหรือ Flushing Style เมื่อมีการปรับล้อให้ล้มลงทำให้มีผลต่อการขับขี่ทำให้กินยางเพราะหน้ายางสัมผัสถนนไม่ 100% จึงต้องสลับหน้ายางนอกอย่างสม่ำเสมอ

เทรนด์อื่นๆ ที่นิยม เช่น ติดไฟแอลอีดีสีฟ้า สีแดงที่ฝากระโปรงหน้าและหลัง รวมทั้งการตกแต่งที่โลโก้รถ เช่น ฮอนด้า มาสด้า ที่เห็นอยู่ตามท้องถนนเนืองๆ เช่น โลโก้มาสด้า ก็นิยมต่อเขา ต่อหางเป็นเดวิล ผู้หญิงก็นิยมเพราะดูน่ารัก

ขนตา (ไฟหน้า) เด้ง เทรนด์แต่งรถสำหรับผู้หญิง

รถเบนซ์สีชมพูแปร๊ดเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้คนที่พบเห็น เป็นพาหนะคันงามของ แหวนแหวนปวริศา เพ็ญชาติ ไฮไซสาวพิธีกรและเจ้าของรายการ “ว้าว!! แหวนแหวน” ผู้นำเทรนด์ติดขนตาที่ไฟหน้ารถ แถมเขียนอายไลเนอร์ โขกบุคลิกของเธอออกมาเลย พร้อมยังนำเบนซ์อีคลาส สีบรอนซ์คันงามไป Wrap สีชมพูด้านแปร๊นแล้นแสบตา จนคุณพ่อไม่กล้าเข้าใกล้รถ นี่แหละคือเทรนด์แต่งรถกำลังอินเทรนด์ที่เหมาะกับสุภาพสตรีผู้มีความกล้าและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

“เหตุที่อยากแต่งรถเพราะแหวนทำรายการ นอกจากแหวนจะนั่งไปรเวตเจ็ต ต่อด้วยนั่งรถเบนซ์และไปขี่ควาย เราก็อยากสร้างภาพลักษณ์ให้รายการไม่เหมือนใคร ที่ใครเห็นแล้วต้องร้องว้าว! ไม่ธรรมดา จึงคุยกับพี่บีม ศรัณยู ว่าเราจะทำอะไรกับรถได้บ้าง พี่บีมก็แนะนำให้แต่งรถ เอารถไป Wrap เป็นสีชมพูแปร๊ด ส่วนติดขนตาเราอยากติดเอง ซึ่งแหวนก็ไม่อยากเหมือนใครก็เลยสั่งทำพิเศษให้ช่างเขียนอายไลเนอร์ให้ด้วย เอาแบบให้ออกมาเหมือนตาแหวนเลย ทีแรกช่างก็งงว่าจะทำอย่างไร ก็ต้องเอารูปตาของแหวนไปดู ไปเทียบ แล้วก็ให้แฟนของเขามาดูว่าตัดสติกเกอร์แปะอย่างไรให้เหมือน และก็ดัดขนตาให้งอนกว่าเดิม ซึ่งเป็นอะไรที่ตลกดี

ปัจจุบันรถคันนี้ก็เป็นโลโก้ของรายการไปเลย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหนทางโปรโมตรายการที่ไม่ต้องเสียตังค์เลยก็ได้ ตอนนี้กลายเป็นรถดังกว่ารายการไปแล้ว มีคนขอถ่ายรูปตลอดเวลา ใครเห็นก็ยิ้ม เวลาขับรถขนตาก็จะเด้งปับๆ ตลอดเวลา เป็นอะไรที่ขำมาก (หัวเราะ) ตอนนี้มีการตั้งเป็นชมรมคนรักขนตารถ และมีคนพยายามจะทำเลียนแบบรถติดขนตาของแหวน แต่รับรองว่าไม่เหมือน”

ปวริศาตั้งใจว่าจะติดขนตาให้รถตลอดไป แต่อาจพัฒนารูปแบบเป็นติดให้หนาขึ้น และเพิ่มประดับคริสตัลที่ขอบตาให้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและมีความหรูหรา เพราะแหวนแหวนก็อยากเป็นเทรนด์เซตเตอร์ในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการติดขนตาให้รถ